โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

​ป.ป.ส. เผยความร่วมมือสามเหลี่ยมทองคำ 1511 ไทย-เมียนมา สกัดกั้นยาเสพติด ช่วยลดปริมาณยาเสพติดที่จะเข้าไทย รวมเกือบ 35 ล้านเม็ด

สวพ.FM91

อัพเดต 14 ส.ค. 2563 เวลา 17.23 น. • เผยแพร่ 14 ส.ค. 2563 เวลา 17.23 น.

วันที่ 14 สิงหาคม 2563 นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงผลอันเกิดจากความร่วมมือระหว่างประเทศในลุ่มแม่น้ำโขง ภายใต้แผนปฏิบัติการร่วมสามเหลี่ยมทองคำ 1511 โดยเฉพาะระหว่าง ไทย-เมียนมา ในการสกัดกั้นยาเสพติดจากแหล่งผลิตในรัฐฉานที่เป็นยาบ้าและไอซ์ ซึ่งจะถูกลักลอบนำเข้าไทยผ่านทางชายแดนภาคเหนือและภาคตะวันตก ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2562 ถึงต้นเดือนสิงหาคม 2563 ว่าทางการเมียนมาสามารถยึดยาบ้ารวม 34.9 ล้านเม็ด
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวเพิ่มว่า ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา อัครราชทูตที่ปรึกษาด้านยาเสพติด ประจำกรุงย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา ได้รับประสานการข่าวจากสำนักงานคณะกรรมการกลางเพื่อการควบคุมยาเสพติด (CCDAC) ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเมียนมาสามารถจับยึดยาบ้าจำนวนมากได้ 2 ครั้ง ของกลางรวมกว่า 7.6 ล้านเม็ด ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็ก โดยครั้งแรกยึดยาบ้า 6.4 ล้านเม็ดขณะลำเลียงจากแหล่งผลิตนำมาพักคอยบริเวณชายแดนเพื่อหาโอกาสลักลอบนำข้ามชายแดนเข้าไทยด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย และครั้งที่สองยึดยาบ้า 1.29 ล้านเม็ดที่รอยต่อรัฐมอญกับภาคพะโค ซึ่งลำเลียงจากแหล่งผลิตมาพักคอยเพื่อหาโอกาสนำข้ามชายแดนเข้าไทยด้าน อ.แม่สอด จ.ตาก หรือ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวอีกว่า แหล่งผลิตหลักยาบ้าในเมียนมาอยู่ในรัฐฉาน และยาบ้าจากแหล่งผลิตในพื้นที่ดังกล่าวจะถูกลักลอบนำข้ามชายแดนเข้าไปใน 2 ประเทศ คือ ไทยและบังกลาเทศ ซึ่งจากการเก็บข้อมูลของสถาบันวิชาการและตรวจพิสูจน์ยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. พบว่าลักษณะเม็ดยาบ้าที่ถูกส่งไปใน 2 ประเทศ
 

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...