บอส อยู่วิทยา: ลำดับเหตุการณ์ในรอบ 8 ปี คดีทายาทกระทิงแดงชนตำรวจตาย - BBCไทย
คดีที่นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ตกเป็นผู้ต้องหาคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิตในปี 2555 สร้างความฉงน กังขา และเสียงวิจารณ์ ตลอด 8 ปี ที่ผ่านมา
ความเป็นลูกหลานของอภิมหาเศรษฐีของประเทศไทย สร้างความกังขาให้สังคมว่า กระบวนการยุติธรรมของไทยจะสามารถนำความยุติธรรมสู่ผู้เสียหายได้หรือไม่โดยไม่ถูกอิทธิพลเงินมาแทรกแซง
บีบีซีไทยรวบรวมเหตุการณ์สำคัญในคดีบอส อยู่วิทยา ตั้งแต่วันเกิดเหตุ จนถึง ข้อกังขาล่าสุด ของคดีนี้
ย้อนคดี บอส อยู่วิทยา
วันเกิดเหตุ
3 กันยายน 2555
นายวรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ซึ่งตอนนั้นอายุ 28 ปี ขับรถเฟอร์รารีชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผบ.หมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ เสียชีวิตโดยลากร่างตำรวจนายนี้ไปกว่า 200 เมตร ราว 5.30 น. ที่ช่วงปากซอยสุขุมวิท 47 แล้วหลบหนีไปที่บ้านพักเลขที่ 9 ซ.สุขุมวิท 53
ตำรวจระดับสารวัตรป้องกันปราบปราม สน.ทองหล่อนำตัวคนดูแลบ้านอยู่วิทยาไปมอบตัวโดยระบุว่าเขาเป็นคนขับรถชนตำรวจตาย แต่ไม่มีใครเชื่อว่าเขาเป็นคนขับรถจริง เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ในขณะนั้นต้องลงพื้นที่เพื่อติดตามนายวรยุทธมามอบตัว และในที่สุดนายวรยุทธเข้ามอบตัวที่ สน.ทองหล่อในเวลา 10.30 น.
หลังจากเข้ามอบตัวในวันเดียวกัน มีการนำตัวเข้าห้องสอบสวนราว 6 ชม. โดยให้การภาคเสธและยอมรับว่าขับรถสปอร์ตหรูไปประสบอุบัติเหตุจริง แต่ผู้เสียชีวิตขี่รถจักรยานยนต์ปาดหน้าทำให้หักหลบไม่ทัน นอกจากนี้ นายวรยุทธยังอ้างว่าเกิดความเครียดหลังขับรถชน จึงไปดื่มแอลกอฮอล์ในภายหลัง
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้ก่อเหตุไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ที่ รพ.สมิติเวช แล้วได้แจ้งข้อกล่าวหา ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ตำรวจไม่คัดค้านประกันตัว จึงให้ประกันตัวออกไปในวงเงินประกัน 5 แสนบาท
8 กันยายน 2555
นายจารุชาติ มาดทอง เข้าให้การเป็นพยานว่าเป็นผู้เห็นเหตุการณ์อุบัติเหตุขณะที่เขาขับรถกระบะส่งของ แต่เขาไม่ได้ระบุถึงความเร็วของรถยนต์หรูที่นายวรยุทธขับในวันนั้น
12 กันยายน 2555
ทนายของนายวรยุทธขอเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา
1 ตุลาคม 2555
ผลตรวจเลือดโดยสาขาวิชานิติเวชวิทยา ภาควิชาพยาธิวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล ระบุถึงสารแปลกปลอมที่พบในร่างกาย ของ นายวรยุทธ ว่ามีทั้งหมด 4 ชนิด ในจำนวนนี้มี 2 ชนิด (Benzoyleegorine และ Cocaethylene) ที่เป็นสารที่เกิดขึ้นในเลือด ในกระบวนการเปลี่ยนแปลงในร่างกายหลังจากการเสพโคเคน
19 ตุลาคม 2555
จนท. เรียกตัวผู้ต้องหาให้มารับทราบข้อกล่าวหาเมาแล้วขับเพิ่มเติม
23 ตุลาคม 2555
นายวรยุทธ พร้อมผู้ติดตาม เข้ารายงานตัวรับทราบข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ และข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หลังผลการตรวจระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดและผลของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานออกมาว่านายวรยุทธขับรถด้วยความเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
4 มีนาคม 2556
พล.ต.ต.อนุชัย เล็กบำรุง รอง ผบช.น. ระบุว่าได้รับรายงานจากพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ว่าจะนำส่งสำนวนคดีนายวรยุทธต่ออัยการศาลอาญากรุงเทพใต้ซึ่งระบุถึงผลการตรวจพบสารเสพติดในร่างกายในสำนวน
2 พฤษภาคม 2556
อัยการมีความเห็นแย้ง เห็นควรสั่งฟ้องเป็น 4 ข้อหา รวมทั้งฟ้องข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด แต่ไม่สั่งฟ้องข้อหาขับรถขณะเมาสุรา เนื่องจากไม่มีพยานหลักฐานทางคดีบ่งชี้ว่ามีการกระทำผิด
3 กันยายน 2556
2 ข้อหาขาดอายุความ ประกอบด้วย 1) ข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และ 2) ขับรถโดยประมาททำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย ทั้งสองข้อหามีอายุความ 1 ปี
2557-2558
ทีมทนายของนายวรยุทธมีการร้องเรียนขอความเป็นธรรมในคดีหลายครั้ง ในหลายหน่วยงานรวมถึง คณะกรรมาธิการการกฎหมาย กระบวนการยุติธรรมและกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ชุดที่มี พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ เป็นประธานด้วย
บอส อยู่วิทยา : สืบสาแหรก “บอส” อยู่ตรงไหนในตระกูล “อยู่วิทยา”
2 มีนาคม 2559
พ.ต.ต.ธนสิทธิ แตงจั่น ซึ่งเป็นหนึ่งในตำรวจพิสูจน์หลักฐานและผู้ตรวจสอบความเร็วของรถยนต์ที่นายวรยุทธขับ มีการคำนวณหาความเร็ววิธีใหม่ได้ความเร็วของรถยนต์ที่นายวรยุทธขับขี่ประมาณ 79.23 กม./ชม. แต่สำนักข่าวอิศราระบุว่า ไม่ปรากฏข้อมูลความเร็วของรถยนต์ที่ 177 กม./ชม. ในสำนวนของอัยการ
ตำรวจสรุปสำนวนให้อัยการสั่งฟ้องวรยุทธ เพียง 2 ข้อหา
30 มีนาคม 2559
1. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายอายุความ 15 ปี จำคุกไม่เกิน 10 ปี แต่ต่อมาอัยการสูงสุดมีความเห็นไม่ฟ้อง ข้อหาจึงตกไป
2. ข้อหาไม่หยุดให้ความช่วยเหลือตามสมควร ซึ่งมีอายุความ 5 ปี
ส่วนข้อหา ขับรถเร็วและเมาแล้วขับ พนักงานสอบสวนไม่สั่งฟ้องเพราะพยานหลักฐานไม่เพียงพอ
12 เมษายน 2559
นายวรยุทธมอบอำนาจให้ทนายความมายื่นหนังสือกับพนักงานอัยการขอเลื่อนคดี อ้างว่าติดธุระอยู่ต่างประเทศ พนักงานอัยการผู้รับผิดชอบคดีจึงเลื่อนไปวันที่ 25 พ.ค. 2559
25 พฤษภาคม 2559
นายวรยุทธไม่มาพบพนักงานอัยการ พนักงานอัยการจึงมีหนังสือแจ้งไปที่พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ให้ไปดำเนินการติดตามเอาตัวผู้ต้องหาเพื่อส่งฟ้องต่อศาล แต่พนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ แจ้งว่าผู้ต้องหาได้ขอเลื่อนการเข้าพบพนักงานอัยการออกไปก่อน เนื่องจากได้ไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมที่ กมธ.กฎหมายฯ สนช. เพื่อขอให้สอบสวนพยานเพิ่มเติม
25 เมษายน 2560
พล.ต.ท. ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) ระบุว่า นายวรยุทธได้เดินทางออกจากประเทศ ก่อนหน้าที่ศาลอาญากรุงเทพใต้จะออกหมายจับ โดยเบื้องต้นปลายทางในการเดินทางคือ ประเทศสิงคโปร์ แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเดินทางต่อไปยังประเทศอะไรต่อไปหรือไม่
28 เมษายน 2560
ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติหมายจับนายวรยุทธ ในข้อหาชนแล้วหนี และขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลังจากเลื่อนนัดฟังคำสั่งฟ้องพนักงานอัยการคดีอาญากรุงเทพใต้เป็นครั้งที่ 8 โดยอ้างว่าติดภารกิจในต่างประเทศ
2 พฤษภาคม 2560
สำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเปิดเผยว่าได้บรรจุชื่อของนายวรยุทธอยู่ในบัญชีดำ เพื่อตรวจตามจุดผ่านแดนทุกจุดของประเทศ เพื่อที่จะเปิดทางให้ สตม. จับกุมตัวทันที หากพบตัวตามจุดผ่านแดนต่าง ๆ
4 พฤษภาคม 2560
ทางการสิงคโปร์เปิดเผยว่านายวรยุทธไม่ได้อยู่ในประเทศ หลังจากตำรวจไทยเปิดเผยว่าเขาเดินทางออกจากกรุงเทพฯ โดยเครื่องบินส่วนตัวไปสิงคโปร์เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้า
5 พฤษภาคม 2560
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมการกงสุลได้เพิกถอนหนังสือเดินทางของนายวรยุทธ หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร้องขอ
3 กันยายน 2560
ข้อหาไม่หยุดให้ความช่วยเหลือตามสมควรหมดอายุความ หลังจากครบกำหนด 5 ปี
12 กันยายน 2560
เว็บไซต์ตำรวจสากล (อินเตอร์โพล) เผยแพร่หมายจับ “หมายแดง” นายวรยุทธ บนเว็บไซต์
18 มีนาคม 2661
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่าหมายจับของนายวรยุทธยังคงอยู่ในระบบเพียงแต่ไม่ได้แสดงผลบนหน้าเว็บไซต์ของอินเตอร์โพล
4 ธันวาคม 2562
มีการเรียกพยานเข้ามาให้ข้อมูลในคดีเพิ่ม 2 ปาก ประกอบด้วยนายจารุชาติ มาดทองและพล.อ.ท.จักกฤช ถนอมกุลบุตร โดยระบุว่า ด.ต.วิเชียร ขับรถตัดหน้า โดยการเปลี่ยนเลนกระทันหันจากช่องทางซ้ายมาเป็นช่องทางที่ 2 หรือเลนกลาง และมีรายงานว่าเขากล่าวถึงความเร็วของรถยนต์ที่นายวรยุทธขับว่าไม่เกิน 80 กม./ชม.
18 มิถุนายน 2563
มีหนังสือลงนามโดย พ.ต.ท.ธนาวุฒิ สงวนสุข รักษาการ ผกก.สน.ทองหล่อ ถึงนายวรยุทธ แจ้งเรื่องอัยการสูงสุดไม่ฟ้องคดีทุกข้อกล่าวหา และได้ถอนหมายจับแล้ว
25 มิถุนายน 2563
ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางวินัย พล.ต.ต.กฤษฎิ์ เปียแก้ว อดีตผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 กับนายตำรวจรวม 7 นาย กรณีช่วยเหลือนายวรยุทธ ไม่ให้ถูกดำเนินคดี ข้อหาขับรถขณะเมาสุรา และข้อหาขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งไม่ออกหมายจับ จนเป็นเหตุให้หลบหนีได้
24 กรกฎาคม 2563
สำนักงานตำรวจแห่งชาติชี้แจงกรณีเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็น รายงานว่าอัยการสูงสุดไม่สั่งฟ้องนายวรยุทธ ทุกข้อหา ขณะที่ตำรวจไม่ทำความเห็นแย้งอัยการสูงสุด ทำให้คดีเป็นอันสิ้นสุด
26 กรกฎาคม 2563
อัยการสูงสุดตั้งคณะทำงานตรวจสอบกรณีอัยการไม่สั่งฟ้องทายาทกระทิงแดง
27 กรกฎาคม 2563
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีกระบวนการทำงานของข้าราชการตำรวจในการพิจารณาสำนวนคดีนายวรยุทธ โดยมีพล.ต.อ.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. เป็นประธาน ประกอบด้วยคณะกรรมการ 10 คน ทำงานในกรอบเวลา 15 วัน
ในวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ลงนามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 225/2563 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาดังกล่าว โดยมี ศ.พิเศษ วิชา มหาคุณ เป็นประธานกรรมการ
ขณะที่ ครอบครัวอยู่วิทยาอีกสายออกจดหมายเปิดผนึกกดดันให้ ครอบครัวของนายวรยุทธ อยู่วิทยา แสดงความบริสุทธิ์ใจ หลังตระกูลอยู่วิทยาเผชิญกระแสลบ “จนเกินกว่าจะแบกรับ”
30 กรกฎาคม 2563
นายจารุชาติ มาดทอง เสียชีวิตจากอุบัติเหตุในจ.เชียงใหม่ ทั้งนี้เขาเป็นพยานปากสำคัญในคดีที่นายวรยุทธ ในคดีขับรถชนตำรวจ สน.ทองหล่อเสียชีวิต
2 สิงหาคม 2563
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สั่งให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอายัดศพของนายจารุชาติ มาดทอง เพื่อชันสูตรพลิกศพอีกครั้งอย่างละเอียด หลังจากสังคมมีข้อสงสัยว่าอาจเป็นเหตุฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากเขาเสียชีวิตเพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากที่สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ว่าอัยการมีคำสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องนายวรยุทธ ในขณะที่สื่อหลายสำนักรายงานว่า นายจารุชาติมีความเกี่ยวพันกับนายชูชัย เลิศพงศ์อดิศร อดีต ส.ว.เชียงใหม่และรู้จักกับทางตระกูล “อยู่วิทยา” เป็นผู้สนับสนุนให้ทีมฟุตบอล ขณะที่นายจารุชาติเคยทำงานด้วย แต่นายชูชัยปฏิเสธ
บอส อยู่วิทยา: ตร.เชียงใหม่ส่งศพ “จารุชาติ มาดทอง” ชันสูตรซ้ำหลังสังคมสงสัยเป็นฆาตกรรมอำพราง
4 สิงหาคม 2563
คณะทำงานตรวจสอบกรณีอัยการไม่สั่งฟ้องนายวรยุทธ “บอส” อยู่วิทยา ผู้ต้องหาหนีคดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิต ที่แต่งตั้งโดยอัยการสูงสุด (อสส.) ระบุคำสั่งไม่ฟ้องทายาทกระทิงแดงเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของสำนักงานอัยการสูงสุด แต่พบพยานหลักฐานเพิ่มเติมใน 2 ประเด็น คือ ความเร็วรถและยาเสพติด ที่สามารถดำเนินคดีทายาทกระทิงแดงต่อได้ ประกอบด้วย การดำเนินการ 2 ประการ คือ ประการแรกจะแจ้งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อในข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษประเภทสอง (โคเคน) ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 ในมาตรา 58 และ 91 และประการที่สอง จะให้ดำเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 147 ทำการสอบสวนใหม่ในประเด็นขับรถโดยประมาทซึ่งอายุความเหลืออีก 7 ปี
…………..
ส่วนความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 11 ส.ค. สำนักอัยการสูงสุดได้แต่งตั้งคณะทำงานพิจารณาคำสั่งคดีนายวรยุทธ และแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบการสั่งคดีของนายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด
ในวันเดียวกัน นายเนตร ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการต่ออัยการสูงสุด เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจในการสั่งสำนวนคดีนี้ และเป็นการแสดงความรับผิดชอบแก่องค์กรอัยการ และต้องการให้สังคมเกิดความสบายใจ โดยเขายืนยันว่าการสั่งคดีดังกล่าวได้พิจารณาจากข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน และตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทยเดินทางไปยังบ้านหลังที่เชื่อว่านายวรยุทธอาศัยอยู่ทางตะวันตกของกรุงลอนดอน ตามที่เคยปรากฏในรายงานของสำนักข่าวเอพีเมื่อปี 2017
BBC THAI
จากการสอบถามเพื่อนบ้านคนหนึ่งซึ่งไม่ประสงค์ออกนาม เธอเล่าว่าเธอเพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ตั้งแต่ย้ายมาก็เห็นบ้านหลังดังกล่าวมีนั่งร้านตั้งอยู่บริเวณหน้าบ้าน และมีคนงานทำงานอยู่ด้านหน้า คล้ายมีการตกแต่งปรับปรุงใหม่ ไม่ทราบว่าจะเตรียมขายหรือปล่อยเช่า หรือเป็นการปรับปรุงตามสภาพ
เธอบอกว่าการก่อสร้างเพิ่งเสร็จสิ้นไปช่วงปลายเดือน ก.ค. เธอบอกด้วยว่าตลอดช่วงเกือบ 4 เดือนที่อยู่ที่นี่มา ไม่เคยเห็นเพื่อนบ้านในบ้านหลังดังกล่าวเลย ประกอบกับช่วงที่ย้ายมาเป็นช่วงที่อังกฤษเพิ่งประกาศมาตรการล็อกดาวน์ เธอจึงไม่ได้ออกจากบ้านมากนัก
ความเห็น 44
Opal_chawanwet
BEST
ถ้าคุณยอมรับผิดตั้งแต่วันแรก รับแมนๆว่าผมเมา ผมขับรถเร็ว แล้วเยียวยาผู้ตาย 5-10 ล้าน ป่านนี้คุณก็สบายละ แค่เศษเงิน + กับนามสกุล กฎหมายทำอะไรคุณไม่ได้อยู่แล้ว
12 ส.ค. 2563 เวลา 18.06 น.
อิสระ ธนะบรรณ์
ครับหนีได้หนีไป.. คนทำผิดแล้วไม่ยอมรับผิดนี่สังคมคงไม่ให้อภัยหรอกนะครับหนีให้ตลอดนะบอส... ถึงจะหนีจนอายุความจะหมดก็ตาม.. คุณใช้เงินในทางที่ผิดแล้วละรวมถึงคนที่คอยให้การช่วยเหลือเค้าด้วยนะครับ.. ใช้เงินให้เป็นนะครับไม่ใช้ให้เงินใช้เราเรานี่ใช้มัน.. แต่ใช้ในทางที่ถูกนะ.. หน้าที่ตำรวจละครับทีนี้ตามล่ามานะครับ
12 ส.ค. 2563 เวลา 22.33 น.
เงินซื้อได้ทุกอย่างได้ยกเว้น ซื้อความรู้สึกไม่ได้
12 ส.ค. 2563 เวลา 22.20 น.
Add Somchai
เงินซื้อได้จริงทั้งหมดเช่นมนุษย์ สวรรค์ นรกแต่ซื้อความรู้สึกไม่ได้
12 ส.ค. 2563 เวลา 22.57 น.
kamthorn
กระทิงแดงเป็นระดับสากลจริงๆ กินกันทุกชนชั้น ไม่เว้นแม้แต่พวกเทวดาบนสวรรค์
12 ส.ค. 2563 เวลา 22.43 น.
ดูทั้งหมด