คีธ แฮ็ตเกตต์ อดีตผู้ตัดสิน พรีเมียร์ ลีก ไม่ประทับใจที่รุ่นน้องใช้วิธีการคาดเดาเพื่อให้ประตู นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด จังหวะก้ำกึ่งว่าบอลจะข้ามเส้นหรือไม่ ในเกมบุกชนะ เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ 3-2 เข้ารอบ เอฟเอ คัพ
"สาลิกา" โดนนำต้นเกมแต่นาที 21 ยิงคืนจาก โจ วิลล็อค ซึ่งนายด่านฝั่ง "ลูกโลก" พยายามปัดทิ้งแต่ผู้กำกับเส้นส่งสัญญาณว่าบอลเข้าประตูไปแล้ว
ฝั่ง เบอร์มิ่งแฮม ทีมจ่าฝูงลีกวีน พยายามประท้วงแต่ แมตต์ โดโดฮิว ให้ นิวคาสเซิล ได้ประตูโดยเกมที่ เซนต์ แอนดริวส์ ไม่มีทั้ง VAR และเทคโนโลยีโกล์ไลน์ เพื่อชี้ขาดว่าบอลข้ามเส้น
"ประตูตีเสมอของ นิวคาสเซิล เกิดจาการคาดเดาในเกมฟุตบอลระดับท็อป นั่นเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้น" แฮ็ตเกตต์ ผู้เคยทำหน้าที่บนลีกสูงสดจนถึงปี 1994 แสดงทัศนะถึงจังหวะปัญหา
"มันเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมถึงไม่มีการใช้ โกลไลน์ ในเกมนี้ มันคือเทคโนโลยีที่ทำให้ผู้ตัดสินไม่ต้องคาดเดาว่าบอลข้ามเส้นหรือไม่"
"ผมเคยเป็นหัวหน้าองค์กรผู้ตัดสิน และร้องขอหาให้ พรีเมียร์ ลีก รวมถึง ฟีฟ่า ใช้โกล์ไลน์ เราใช้เวลานานหลายปี"
"เราต้องรอจนเกิดจังหวะ แฟรงค์ แลมพาร์ด ยิงเข้าแต่ไม่ได้ประตูในฟุตบอลโลก เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานฟีฟ่าในตอนนั้นถึงยอมอนุมัติ"
ลีออน ออสมัน อดีตแข้ง เอฟเวอร์ตัน วิเคราะเกมอยู่ร่วมแสดงทัศนะ: "ผู้กำกับเส้นยกธงให้ประตูเร็วมาก เขายกธงส่งสัญญาณให้ประตู แต่ก็ขยับธงไปมาเหมือนให้ลูกทุ่มหรือล้ำหน้า"
"ผมสับสนเหมือนกับทุกคน นิวคาสเซิล คิดว่าพวกเขาไม่ได้ประตูส่วน เบอร์มิ่งแฮม ก็คิดว่ารอดตัวไปแล้ว มันเป็นจังหวะที่ก้ำกึ่ง และเป็นเรื่องยากมากที่จะตัดสิน"