โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

โครงการ AWS Tech for Digital Future เสริมศักยภาพเยาวชนไทยด้วยทักษะดิจิทัล

Positioningmag

อัพเดต 07 พ.ค. เวลา 10.21 น. • เผยแพร่ 07 พ.ค. เวลา 10.14 น. • PR News

AWS เปิดตัวโครงการ Tech for Digital Future ในประเทศไทยเพื่อเตรียมความพร้อมให้กับนักเรียนระดับมัธยม ศึกษาตอนปลาย (มัธยมศึกษาปีที่ 4-6) ด้วยพื้นฐานด้านดิจิทัลและคลาวด์ที่จำเป็นสำหรับอนาคตดิจิทัลของประเทศ ไทย
โครงการนำร่องนี้เป็นความร่วมมือระหว่างมูลนิธิไอแคร์ประเทศไทยและสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (TURAC) และได้ดำเนินการตั้งแต่เดือนธันวาคม 2567 ถึงเดือนมีนาคม 2568 โดยมีนักเรียนจาก 17 โรงเรียนในจังหวัดชลบุรีและอ่างทองเข้าร่วม โครงการนี้จัดขึ้นเพื่อให้นักเรียนได้รับการฝึกอบรมผ่านหลักสูตรที่เน้นการผสมผสานระหว่างพื้นฐานของการประมวลผลบนคลาวด์และปัญญาประดิษฐ์เชิงสร้างสรรค์ (Generative AI) กับประสบการณ์จริง นักเรียนสามารถเข้าถึงหลักสูตรออนไลน์ AWS Skill Builder เพื่อเรียนรู้ด้วยตัวเอง และนำความรู้มาปฏิบัติโดยการพัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานได้จริงผ่าน PartyRock ซึ่งเป็นโปรแกรมของ AWS เพื่อสร้าง Generative AI แบบไม่ต้องเขียนโค้ด


การเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริง
โครงการ Tech for Digital Future นำเสนอประสบการณ์การศึกษาที่ครอบคลุมโดยยึดจากแกนหลักสามส่วน อันดับแรกนักเรียนจะเริ่มต้นด้วยการเรียนรู้เกี่ยวกับ AWS และพื้นฐานการประมวลผลบนคลาวด์เพื่อสร้างรากฐานทางทฤษฎีที่แข็งแกร่ง จากนั้นจึงสามารถเข้าถึงหลักสูตรเรียนออนไลน์บน AWS Skill Builder เพื่อจัดเตรียมการเรียนรู้เชิงลึกที่มีโครงสร้างชัดเจน สุดท้ายแล้วนักเรียนสามารถนำความรู้ทั้งหมดไปประยุกต์ใช้ผ่านการปฏิบัติจริงด้วย PartyRock หลักสูตรนี้มุ่งเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงและพัฒนาโซลูชัน GenAI ที่สร้างสรรค์เพื่อตอบโจทย์ แทนที่จะเน้นรายละเอียดทางเทคนิคที่ซับซ้อน แนวทางเชิงปฏิบัตินี้ทำให้นักเรียนสามารถเข้าถึงเทคโน โลยีขั้นสูงได้และส่งเสริมการวิเคราะห์แก้ไขปัญหา ส่งผลให้เกิดโครงการต่าง ๆ ตั้งแต่เครื่องมือทางการศึกษาไปจนถึงแอปพลิเคชันที่ให้บริการสำหรับชุมชน
Emmanuel Pillai, Head of Training and Certification ASEAN ที่ AWS กล่าวว่า “เรามีความมุ่งมั่นในการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตให้กับบุคลากรและนักพัฒนาไทย โครงการ Tech for Digital Future เป็นตัวอย่างของความมุ่งมั่นที่เรามีต่อกลุ่มนักพัฒนา ด้วยการมอบการศึกษาด้านคลาวด์เพื่อเร่งกระบวนการเรียนรู้ซึ่งนำไปสู่การสร้างสรรค์นวัตกรรม สิ่งที่เราชื่นชมที่สุดคือการได้เห็นนักเรียนที่มีพื้นฐานและระดับประสบการณ์ที่หลากหลายกลายเป็นผู้ที่มีความสามารถด้านคลาวด์ และพร้อมแก้ไขปัญหาสังคมและธุรกิจในโลกปัจจุบันได้อย่างมั่นใจ”
การผสานการเรียนการสอนเชิงทฤษฎีกับการประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติ ช่วยให้นักเรียนสามารถทำความเข้าใจเกี่ยวกับทฤษฎีเทคโนโลยีคลาวด์ควบคู่กับการใช้งานจริง แนวทางการเรียนรู้วิธีนี้ทำให้ผู้สำเร็จการศึกษามีความพร้อมในการรับมือกับชีวิตการทำงานในยุคปัจจุบันที่อาศัยความรู้ด้านเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก


ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ผ่านมุมมองนักเรียน
นักเรียนที่ได้เข้าร่วมโครงการต่างมีความกระตือรือร้นอย่างมากและพร้อมนำไปความรู้ใหม่ไปทดลองใช้ นายณัฐดนัย สันรัมย์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จากโรงเรียนพนัสพิทยาคาร ได้เล่าถึงประสบการณ์ของตนเองว่า "การได้ทดลองใช้งานฟรีบนคลาวด์ของ AWS ได้เปิดโอกาสในการเรียนรู้ที่น่าตื่นเต้น ซึ่งโดยปกติแล้วนักเรียนอย่างผมจะไม่สามารถเข้าถึงได้ ผมไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าการประมวลผลบนคลาวด์และ AI จะเข้าถึงได้ง่ายขนาดนี้ โครงการนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้ทักษะมากมายที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนและอาชีพในอนาคตของผม ผมได้เรียนรู้วิธีการสร้างแอปพลิเคชันที่สามารถสร้างความแตกต่างอย่างแท้จริงให้กับชุมชนของเรา"
ด้านของคุณครูเองก็มองเห็นถึงคุณค่าของโครงการนี้ นายกฤษฎา บุญศรี คุณครูจากโรงเรียนพนัสพิทยาคาร กล่าวว่า “โครงการนี้เป็นความคิดริเริ่มที่ยอดเยี่ยมในการส่งเสริมเยาวชนให้มีความรู้และความสามารถ การประมวลผลบน คลาวด์จะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาประเทศ ขอบคุณ AWS ที่ทำให้เราตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการใช้คลาวด์”
เฉลิมฉลองความสำเร็จของนักเรียน
การแข่งขันแสดงผลงานของนักเรียนเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2568 ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์พัทยา โดยผู้เข้ารอบสุดท้าย 10 คนจากผลงานที่ส่งเข้าประกวดกว่า 60 ชิ้น ได้จัดแสดงผลงานอันสร้างสรรค์ของตนที่สร้างบน PartyRock ก่อนถึงรอบชิงชนะเลิศ นักเรียนที่ได้เข้ารอบได้รับการอบรมติวพิเศษจากทีม AWS Startup และสถาปนิกโซลูชันผู้เชี่ยวชาญ (Solution Architect) เพื่อปรับแต่งแนวคิดและกลยุทธ์การนำเสนอผลงาน ผลงานเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายและนวัตกรรมที่สร้างสรรค์โดยนักเรียน ตั้งแต่เครื่องมือสำหรับเตรียมการสัมภาษณ์งาน ระบบที่ให้คำแนะนำด้านอาชีพ ไปจนถึงแอปพลิเคชันด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับการติดตามคาร์บอนฟุต พริ้นท์และการทำฟาร์มอัจฉริยะเป็นต้น


ดร. จตุพันธ์ รุจิรานุกูล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดชลบุรีและระยอง กล่าวว่า “โครงการ Tech for Digital Future เป็นตัวอย่างความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการเสริมสร้างศักยภาพด้านดิจิทัลของประเทศ การร่วมกับ AWS ช่วยให้เรามั่นใจได้ว่าบุคลากรจะได้รับทักษะด้านคลาวด์ที่สำคัญอย่างยิ่งในทุกภาคส่วนของเศรษฐกิจ โครงการนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลในระดับประเทศ และแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการพัฒนาบุคลากรในประเทศให้ขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมและเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล”
คณะกรรมการ 5 ท่านจาก AWS และมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นผู้ประเมินผลงานของนักเรียน โดยพิจารณาจากแนวคิด การดำเนินการและผลกระทบเป็นหลัก ผลของการประกวดคือ SwiftNet AI ที่ถูกพัฒนาโดย นายรชต นกประเสริฐ และนายณัฐดนัย สันรัมย์ จากโรงเรียนพนัสพิทยาคารเป็นผู้ชนะ ซึ่งเป็นเครื่องมือเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพงานวิศวกรรมเครือข่าย ภายในงานมีแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมงาน รวมถึงนายกเทศมนตรีเมืองพัทยา นายปรเมศวร์ งาม พิเชษฐ์ ดร.จตุพันธ์ รุจิรานุกูล รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดชลบุรีและระยอง และ นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ AWS Thailand เข้าร่วมด้วย
นายรชต นกประเสริฐ และนายณัฐดนัย สันรัมย์ นักเรียนจากโรงเรียนพนัสพิทยาคารแสดงความเห็นว่า “ก่อนที่จะได้เริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับคลาวด์ พวกผมคิดว่ามันจะยากและซับซ้อนมาก แต่โครงการ Tech for Digital Future กลับทำให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกและน่าตื่นเต้น สิ่งที่เราชอบมากที่สุดคือการได้ทดลองใช้ PartyRock เพื่อสร้างแอปพลิเคชันที่ช่วยให้วิศวกรเครือข่ายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานด้วยคลาวด์และ AI ด้วยอายุเพียง 17 ปี และอยากที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWS เพื่อที่ในอนาคตเราจะได้สร้างเทคโนโลยีที่ช่วยแก้ปัญหาสำคัญในสังคมเราได้อย่างแท้จริง ขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนช่วยให้เราได้เรียนรู้และพัฒนาทักษะคลาวด์และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเรียนรู้บนคลาวด์เท่านั้น”
นายวัตสัน ถิรภัทรพงศ์ Country Manager ของ AWS Thailand กล่าวทิ้งท้ายว่า “ประเทศไทยกำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจดิจิทัลแห่งภูมิภาค การมอบประสบการณ์และพื้นฐานเบื้องต้นด้านคลาวด์และ AI ไม่เพียงแต่จะช่วยพัฒนาทักษะทางเทคนิคให้กับบุคลากรเท่านั้น แต่ยังเสริมพลังให้เยาวชนไทยสามารถแก้ไขปัญหาจริงในสังคมด้วยเทคโนโลยีระดับโลกอีกด้วย เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตดิจิทัลของประเทศไทย ด้วยการทำงานร่วมกับสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และชุมชนต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อขยายโอกาสไปยังทั่วประเทศและสร้างความมั่นใจให้กับเยาวชนไทยในการก้าวเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลได้อย่างเต็มตัว”

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...