พรุ่งนี้ ขึ้นปีมะโรง วันพุธที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2566 ตรงกับเดือน 1 ขึ้น 1 ค่ำ (จากปฏิทินหลวง) ถือเป็นขึ้นปีใหม่ “ไทย” ในอุษาคเนย์
ขึ้นปีใหม่สมัยดั้งเดิมดึกดำบรรพ์หลายพันปีมาแล้วของประชาชนหลายชาติพันธุ์ บริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา ภาคกลางของไทย คือ เดือน 1 ขึ้น 1 ค่ำ (หรือเดือนอ้าย เป็นช่วงหลังลอยกระทงเดือน 12 ทางจันทรคติ)
ปีมะโรง ตั้งแต่เดือน 1 ขึ้น 1 ค่ำ เป็นต้นไป (มะโรง เป็นภาษาอะไร? แปลว่าอะไร? ยังหาไม่พบ) ที่ผ่านมามักเข้าใจผิดไปว่าปีนักษัตรเปลี่ยนตอนสงกรานต์ ซึ่งไม่ใช่อย่างนั้น
คนไทย พบว่าเรียกตนเองว่าไทยครั้งแรกในรัฐอโยธยา (จ. พระนครศรีอยุธยา) รับประเพณีขึ้นปีใหม่ เดือน 1 ขึ้น 1 ค่ำ แล้วเรียกชื่อตามคำไท-ไตว่า “เดือนอ้าย” (อ้าย แปลว่าลำดับที่ 1)
ขึ้นปีใหม่ปีมะโรง ตั้งแต่เดือน 1 ขึ้น 1 ค่ำ เทียบปฏิทินสากล (สุริยคติ) ตรงกับวันพุธที่13 ธันวาคมพ.ศ. 2566
สงกรานต์–ขึ้นปีใหม่ของทมิฬ–อินเดียใต้
สงกรานต์-เมษายน ขึ้นปีใหม่(หมายถึงเปลี่ยนศักราช) ของอินเดียใต้ (ทมิฬ) หลายพันปีมาแล้ว เป็นพิธีกรรมทางศาสนาพราหมณ์-ฮินดู เมื่อพระอาทิตย์โคจรย้ายจากราศีมีนสู่ราศีเมษ
ราว 1,500 ปีมาแล้ว หรือเรือน พ.ศ. 1000 ชนชั้นนำบ้านเมืองในภูมิภาคอุษาคเนย์ (SEA) รับวัฒนธรรมทมิฬอินเดียใต้ เป็นพิธีเปลี่ยนศักราช (ขึ้นปีใหม่) มาไว้ในราชสำนักของบ้านเมืองนั้นครบถ้วนเหมือนกัน
นับแต่นั้นทุกบ้านเมืองในอุษาคเนย์มีขึ้นปีใหม่ 2 ระดับ ดังนี้
ชนชั้นนำในราชสำนักขึ้นปีใหม่เปลี่ยนศักราช ตรงกับสงกรานต์ เมษายน เป็นพิธีพราหมณ์ (หลังจากนั้นปรับเป็นพุทธ)
ประชาชนทั่วไปในชุมชนขึ้นปีใหม่เปลี่ยนปีนักษัตร เดือนอ้าย (ราวธันวาคม) เป็นพิธีผี (หลังจากนั้นปรับเป็นพุทธ)
รัฐอโยธยา–อยุธยา สืบเนื่องวัฒนธรรมจากรัฐรุ่นก่อน จึงมีขึ้นปีใหม่ 2 ระดับ และไม่พบว่าเรียก “ปีใหม่ไทย” เพราะรู้ว่าไม่เป็นสมบัติเฉพาะ “ไทย” พวกเดียว แต่เป็นวัฒนธรรมร่วมทั้งภูมิภาคอุษาคเนย์
กรุงรัตนโกสินทร์แผ่นดินร.3 ให้ความสำคัญสงกรานต์ทั้ง2 ระดับ แต่ไม่พบเรียก “ปีใหม่ไทย” และไม่พบ “สาดน้ำ” ดูได้จากนิราศเดือน ของ เสมียนมี (หมื่นพรหมสมพัตสร) เมื่อพรรณนาเดือนห้าสงกรานต์ ขึ้นต้นว่า
โอ้ฤดูเดือนห้าหน้าคิมหันต์
พวกมนุษย์สุดสุขสนุกครันได้ดูกันพิศวงเมื่อสงกรานต์
ทั้งผู้ดีเข็ญใจใส่อังคาสอภิวาทพุทธรูปในวิหาร
ล้วนแต่งตัวทั่วกันวันสงกรานต์ดูสะคราญเพริศพริ้งทั้งหญิงชาย
สงกรานต์ของทมิฬอินเดียใต้ถูก “ตู่” เรียก “ปีใหม่ไทย” เมื่อหลังรับลัทธิชาตินิยมจากยุโรป แต่เริ่มยังไง? ทำไม? เมื่อไร? ไม่ทราบ
รัฐบาลไทย (มีกระทรวงวัฒนธรรม) ไม่ควร “ตู่” เรื่องสงกรานต์ ถ้าจะ “ขาย” สงกรานต์ (ซึ่งไม่เสียหาย) ก็ควรบอก “ข้อมูล” ความจริงให้ครบถ้วน (ถ้าบอกไม่ครบก็เสียหาย)