โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

งัดหลักฐานชัด “เกาะกูด” ของไทย เตือน “อุ๊งอิ๊งค์” ระวังตกเก้าอี้

The Publisher

เผยแพร่ 30 ต.ค. 2567 เวลา 03.11 น.

เป็นข้อความและหลักฐานที่นายคำนูน สิทธิสมาน อดีต สว.ได้ค้นคว้าและโพสต์ไว้ในเพจเฟซบุ๊ก รวมถึงฝากให้ The Publisher ร่วมบันทึกไว้ชื่อ “เกาะกูดเป็นของไทยทั้งตัวเกาะ และทะเลอาณาเขต รัฐอื่นจะลากเส้นผ่ากลางไม่ได้”

โดยไล่เรียงเริ่มจากระบุเกาะกูดเป็นของไทยมา 127 ปีแล้ว ตามหนังสือสัญญาระหว่างกรุงสยามกับกรุงฝรั่งเศสเมื่อปี ค.ศ.1907 และไม่ใช่เพียงตัวเกาะ แต่รวมถึงผืนน้ำโดยรอบทั้งหมด ทั้งส่วนที่เป็นทะเลอาณาเขต,เขตต่อเนื่อง,เขตเศรษฐกิจจำเพาะ หรือไหล่ทวีปด้วย

ดังนั้น เมื่อกัมพูชาประกาศกฤษฎีกากำหนดเขตไหล่ทวีปเมื่อปี ค.ศ.1972 โดยลากเส้นเขตไหล่ทวีปด้านทิศเหนือผ่ากลางเกาะกูดตรงมายังจุดกึ่งกลางอ่าวไทยทั้ง 3 แบบ ที่ล่าสุดเขียนเส้นโค้งเว้าอ้อมประชิดตัวเกาะด้านใต้เป็นรูปตัว U ตามที่แนบท้าย MOU 2544 ล้วนมีค่าเสมอกันคือ ผิดทั้งหมด เพราะจงใจละเมิดอธิปไตย และบูรณภาพเหนือดินแดนประเทศไทย

นายคำนูนบอกว่าเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง และเปลือยให้เห็นเจตนาของรัฐบาลเพื่อนบ้านเมื่อ 52 ปีก่อน ที่หวัง “ฮุบ” ทรัพยากรปิโตรเลียมใต้อ่าวไทยเป็นสำคัญ เพราะถ้าไม่มีเส้นเขตไหล่ทวีป ที่ผ่ากลางเกาะกูดจบที่กึ่งกลางอ่าวไทยก่อนวกลงใต้ ก็ไม่สามารถสนองเจตนา “ฮุบ” ได้

ขณะที่ประเทศไทยดำเนินการตอบโต้มาตลอด ทั้งการประกาศพระบรมราชโองการกำหนดเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย พ.ศ.2518 ตั้งประภาคารและกระโจมไฟบนเกาะกูด ส่งกำลังทหารประจำการและลาดตระเวนทั้งตัวเกาะและน่านน้ำ ซ้อมรบทางยุทธวิธีเป็นประจำ ล่าสุดเมื่อมีนาคม 2567

ทั้งนี้ เมื่อกัมพูชาและไทยต่างประกาศเขตพื้นที่ไหล่ทวีปของตนแตกต่างกัน ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน” แต่ทางการไทยไม่เคยยอมรับจนนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้ว่ามีพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนในอ่าวไทย ดังนั้น “ฮุบ” กัมพูชาแปรมาเป็น “ฮั้ว” โดยเริ่มเจรจาเรื่องนี้มาตลอด โดยขอแบ่งผลประโยชน์จากทรัพยากรปิโตรเลียมใต้ทะเลไม่พูดถึงเขตแดน แต่ทั้งหมดไม่มีความคืบหน้า เพราะกัมพูชาจะเจรจาแต่เรื่องผลประโยชน์ ไม่พูดเรื่องเส้นเขตไหล่ทวีปละเมิดอธิปไตยไทย

แต่เมื่อมีการลงนาม MOU ไทย-กัมพูชาปี 2544 ถือเป็นครั้งแรกที่ไทยยอมรับอย่างเป็นทางการ การมีอยู่ของพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อน รวมถึงเขตไหล่ทวีปของกัมพูชา เรื่องนี้ยังถูกพูดถึงมา 20 ปีว่า MOU นี้ถูกหรือผิด และมีความพยายามยกเลิก MOU นี้ และเมื่อลูกสาวของนายกรัฐมนตรีที่ทำ MOU ปี 2544 ได้ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี วิวาทะเดิมจึงเกิดขึ้นอีกครั้ง

พร้อมกับเตือนนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีว่า MOU 2544 คือทางตัน ไม่ใช่ทางออกของปัญหานี้ แต่อาจเป็นได้แค่ทางออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยซ้ำ หากไม่ใช้วิจารณญาณดำเนินการอย่างรอบคอบ

นายคำนูนแนะว่าทางออกเรื่องนี้ต้องแก้ที่ต้นเหตุ คือก่อนเดินหน้าเจรจาเกี่ยวกับทรัพยากรปิโตรเลียมใต้อ่าวไทย ประเทศไทยต้องขอให้กัมพูชายกเลิกกฤษฎีกากำหนดเขตไหล่ทวีปปี ค.ศ.1972 ก่อน จากนั้นกำหนดเขตใหม่ที่ไม่ละเมิดอธิปไตยของไทย ซึ่งหากมีพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนเหลืออยู่ค่อยพิจารณาเจรจากัน ทั้งการปักปันเขตแดนทางทะเล และบริหารจัดการทรัพยากรปิโตรเลียมใต้ทะเลในพื้นที่ทับซ้อนที่เหลือ หรือเรียกว่ายกเลิกเส้นฮุบปิโตรเลียม 1972 ก่อนแล้วค่อยคุยกัน หากกัมพูชาไม่แก้ไขการกระทำผิดในอดีต ก็ไม่มีเหตุใดที่ประเทศไทยต้องไปเจรจาด้วยในเรื่องนี้

.

#ThePublisherTH #สำนักข่าวออนไลน์เพื่อสังคม #เกาะกูด #พื้นที่ทับซ้อน #พื้นที่ทับซ้อนทางทะเล #ไทยกัมพูชา #รัฐบาลแพทองธาร #รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์

- - - - - - - - - - - - - - - - - -

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

https://thepublisherth.com/

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...