โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

‘(รักษ์) ตึกหุ่นยนต์’ Save สถาปัตย์โลกยุค 80 ‘ไม่ค้านรีโนเวต แต่ต้องคงไว้ซึ่งคุณค่า’

MATICHON ONLINE

อัพเดต 01 พ.ค. 2566 เวลา 05.41 น. • เผยแพร่ 01 พ.ค. 2566 เวลา 05.00 น.

‘(รักษ์) ตึกหุ่นยนต์’ Save สถาปัตย์โลกยุค 80 ‘ไม่ค้านรีโนเวต แต่ต้องคงไว้ซึ่งคุณค่า’

นับเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงในแวดวงสถาปนิกอย่างกว้างขวางมานานหลายสัปดาห์ สำหรับกรณี ธนาคารยูโอบี (UOB) เจ้าของ ‘ตึกหุ่นยนต์’ (Robot Building) รีโนเวตอาคารสำนักงานดังกล่าว ซึ่งเป็นฝีมือการออกแบบของดร.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม พ.ศ.2541 ที่ได้รับการขนานนามว่าทันสมัย แปลกไม่เหมือนใคร ทั้งยังอยู่คู่ย่านสาทรมานานกว่า 3 ทศวรรษ ส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์ผ่านทางโซเชียล ด้วยความเสียดายสถาปัตยกรรมโมเดิร์นที่ถือเป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของคนไทย กระทั่งสมาคมสถาปนิกสยามมีหนังสืออย่างเป็นทางการแนะให้ทบทวนการดำเนินการ ด้วยเหตุผลสำคัญคือความเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัยในยุค 1980 ที่ได้รับการยอมรับจากโลกสากล

ล่าสุด สถาปนิกชื่อดังรวมตัวแถลงกึกก้อง ณ โถงหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แยกปทุมวัน กรุงเทพฯ เมื่อศุกร์ที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา กระทั่งเกิดแคมเปญล่ารายชื่อผ่านเว็บไซต์ change.org คู่ขนาน

ไม่เพียงเท่านั้น ยังเตรียมยื่นต่อวุฒิสภา เร็วๆ นี้

ตึกหุ่นยนต์

มรดกสถาปัตย์ระดับโลกยุค 80

ในการแถลงดังกล่าว กลุ่มรักษ์ตึกหุ่นยนต์ ร่วมกับสมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรมและสิ่งแวดล้อม (SCONTE) และกลุ่ม Docomomo Thai (คณะทำงานระหว่างประเทศว่าด้วยการเก็บข้อมูลและการอนุรักษ์สถาปัตยกรรมโมเดิร์นไทย) มีถ้อยแถลงที่อ่านโดย วิชัย ตันตราธิวุฒิ สถาปนิกผังเมืองชื่อดัง ประธานกลุ่มรักษ์ตึกหุ่นยนต์ มีใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า

“ในการประชุมอย่างไม่เป็นทางการพร้อมกับผู้แทนของธนาคาร UOB ประเทศไทย เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2566 มีความกังวลว่าในแบบปรับปรุงจะไม่หลงเหลือสภาพความเป็นตึกหุ่นยนต์อยู่เลย ในการนี้คุณค่าความสำคัญในฐานะมรดกสถาปัตยกรรมร่วมสมัยไทยที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลกก็จะสูญหายไป…”

แถลงการณ์นี้ยังเปิดเผยด้วยว่า ดร.สุเมธเคยออกจดหมายถึงผู้บริหารธนาคาร เพื่อทักท้วงขอให้มีการพิจารณาการปรับปรุงใหม่โดยคงรูปลักษณ์ภายนอกไว้ เช่นเดียวกับกลุ่ม Docomomo Thai ที่ได้ออกจดหมายเปิดผนึกแจ้งถึงคุณค่าความสำคัญในระดับนานาชาติของอาคารนี้ โดยร้องขอให้มีการพิจารณาเปลี่ยนแปลงแบบปรับปรุงใหม่โดยคงรูปลักษณ์ภายนอกไว้ ให้คงสภาพเดิมที่มีความแท้ เพื่อคงประโยชน์สาธารณะในฐานะมรดกสถาปัตยกรรมโมเดิร์นไทยที่มีความโดดเด่น ทรงคุณค่าในระดับสากล

ด้านวีระพันธุ์ ชินวัตร อุปนายกสมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรมและสิ่งแวดล้อม (SCONTE) กล่าวว่า คุณค่าความสำคัญของอาคารหุ่นยนต์ เป็นหลักฐานที่สะท้อนการปรับตัวของงานสถาปัตยกรรมไทยในยุคสมัยใหม่และยุคหลังสมัยใหม่ในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1980 เป็นต้นไป

“ตึกหุ่นยนต์มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ โดยใช้วิธีการออกแบบที่สื่อให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางวิทยาการด้านคอมพิวเตอร์ในสำนักงาน และเป็นหลักฐานที่สะท้อนถึงการนำไปใช้อ้างอิงเป็นบทเรียนและศึกษาด้านประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมในโรงเรียนสอนสถาปัตยกรรมหลายแห่ง เป็นหลักฐานที่สะท้อนถึงการยอมรับในระดับนานาชาติ มีการเผยแพร่ในสิ่งพิมพ์ในระดับนานาชาติมากมาย รวมถึงการยอมรับของพิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยในต่างประเทศ อาทิ ฮ่องกง นิทรรศการเวนิส เบียนนาเล่ ซิตี้ออนเดอะมูฟ

การอนุรักษ์ ควรรักษาโครงสร้าง โดยเฉพาะกรอบอาคารรวม ทั้งองค์ประกอบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมภายนอกอาคารทั้งหมด เพื่อให้ยังคงเป็นหลักฐานของความสำเร็จของการสร้างสรรค์งานสถาปัตยกรรมของไทย ที่เป็นที่ยอมรับและกล่าวถึงในระดับนานาชาติยุค 1980” วีระพันธุ์กล่าว

UOB แจง คำนึงสิ่งแวดล้อม

สถาปนิกยัน ไม่ค้านรีโนเวต แต่ต้องคงไว้ซึ่งคุณค่า

แถลงการณ์ฉบับเดียวกันยังระบุถึงคำตอบจากเจ้าของตึกคือ ธนาคาร UOB ความว่า

“การออกแบบปรับปรุงของเรา ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน รูปแบบภายนอกอาคารได้ปรับเปลี่ยนโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก และจะนำวัสดุที่เป็นมิตรกับธรรมชาติมาใช้ โดยใช้ผนังใสแทนที่ผนังทึบเพื่อช่วยลดการใช้ไฟและเครื่องปรับอากาศในอาคาร”

ประเด็นนี้ ปองขวัญ ลาซูส ประธาน Docomomo Thai กล่าวว่า สิ่งที่ยูโอบีพูดเป็นสิ่งที่สถาปัตยกรรมยุคใหม่ทำกันอยู่ทั่วไป กล่าวคือการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในตึกทั่วไปนั้นเป็นสิ่งที่ดี แต่อาคารนี้เป็นมรดกสถาปัตยกรรม ที่จะต้องคงไว้ซึ่งคุณค่าของลักษณะวัสดุที่ใช้ รวมถึงเทคโนโลยีในการก่อสร้างยุค 80

“ในยุคนั้นสิ่งที่ ดร.สุเมธออกแบบ ท่านมีเหตุผลของท่าน คือ ความทึบที่อยู่ด้านข้าง ซึ่งเราอาจจะไม่ชอบ เพราะแสงไม่เข้า แต่การที่แสงไม่เข้า เป็นการประหยัดพลังงานมากกว่ากระจก ส่วนที่บอกว่าจะประหยัดพลังงานมากขึ้นด้วยการใช้กระจกรอบด้าน ข้อกล่าวอ้างนี้ 1.ไม่จริง 2.เรื่องการอนุรักษ์ตึกที่มีการคิดสร้างสรรค์อย่างดี ประหยัดพลังงาน ใช้เทคโนโลยีที่ใช้วัสดุทันสมัยในยุคนั้น ยืนยันว่าตึกหุ่นยนต์ของเดิมประหยัดพลังงานกว่า” ปองขวัญกล่าว

นอกจากนี้ ยังมีประเด็นน่าสนใจที่ว่าตึกหุ่นยนต์เป็นสมบัติเอกชน เจ้าของย่อมมีสิทธิดำเนินการใดๆ ได้ตามที่เห็นสมควรหรือไม่

ปองขวัญเผยว่า นี่เป็นคำถามที่ถูกถามมาตลอดว่ามีสิทธิอะไรในการไปยุ่งกับตึกของเอกชน อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 วรรค 2 ถือว่าเข้าข่ายในการใช้สิทธิ

“อ้างตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 25 วรรค 2 เสรีภาพใดที่รัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ หรือให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์วิธีการกฎหมายบัญญัติแม้ยังไม่มีการตรากฎหมายนั้นขึ้นมาบัญญัติใช้ คนหรือชุมชนย่อมสามารถใช้สิทธิหรือเสรีภาพนั้น ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ มาตรา 43 วรรค 1 บุคคลและชุมชนย่อมมีสิทธิอนุรักษ์ ฟื้นฟูและส่งเสริมภูมิปัญญา ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณี
อันดีงามของท้องถิ่นและชาติ และมาตรา 50 วรรค 8 บุคคนมีหน้าที่ดังต่อไปนี้ร่วมมือสนับสนุน อนุรักษ์ และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ทรัพยากรทางธรรมชาติ ความหลากหลายทางชีวภาพ รวมทั้งมรดกวัฒนธรรม” ปองขวัญอ่านรัฐธรรมนูญย้ำชัด

3 ข้อเสนอ สกัดซ้ำรอย

‘สกาลา-อาคารศาลฎีกา’

นอกจากนี้ ปองขวัญยังเสนอ 3 แนวทางอย่างเป็นรูปธรรม ได้แก่

1.ให้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรมผู้ดำเนินการมอบรางวัลศิลปินแห่งชาติ ให้มีการทักท้วงในการจัดทำโครงการนี้ ไปยังเจ้าของธนาคาร หรือยูโอบี (UOB) ประเทศไทย ให้เกิดความเหมาะสม เพื่อร่วมการอนุรักษ์และคุ้มครองมรดกวัฒนธรรมตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ และให้มีการพิจารณาการจัดทำมาตรการป้องกันผลงานศิลปกรรมชิ้นสำคัญเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับนานาชาติ ของศิลปินแห่งชาติที่ได้ถูกประกาศแล้ว

“กรมศิลปากรผู้บังคับใช้กฎหมายโบราณสถาน ให้ดำเนินการออกจดหมาย เพื่อเกิดการหยุดยั้งในการทุบทำลายตึกหุ่นยนต์ ตามคำจำกัดความของโบราณสถานที่มีการประเมิน ในพระราชบัญญัติโบราณสถาน และต้องวางมาตรการในการดำเนินการยกระดับโบราณสถานให้ครอบคลุมไปถึงการปกป้องมรดกสถาปัตยกรรมร่วมสมัยชิ้นสำคัญเราเสียไปเยอะแล้ว เช่น สกาลา หรือตึกอาคารศาลฎีกาและให้มีการทำบัญชีอาคารควรค่าแก่การอนุรักษ์ทั้งในการครอบครองของรัฐและเอกชน โดยอาจมีการกระจายอำนาจท้องถิ่นให้ดูแลจัดการ” ปองขวัญกล่าว

2.ให้มีการเร่งปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ และเทศบัญญัติท้องถิ่น ที่เกี่ยวกับการจัดการบริหารจัดการมรดกสถาปัตยกรรม รวมถึงการออกมาตรการแรงจูงใจในการอนุรักษ์มรดกเหล่านี้ในเชิงเศรษฐกิจ

“เรื่องมาตรการที่ กทม.กำลังเริ่มศึกษาอยู่คือมาตรการ TRD (transit right development) มาตรการโอนสิทธิการพัฒนาของอาคารประวัติศาสตร์หรืออาคารควรค่าแก่การอนุรักษ์ ตามผังเมือง กทม. ซึ่งในจดหมายถึงธนาคาร UOB เราได้แจ้งเรื่องนี้ไปแล้ว ท่านกำลังจะเสียสิทธิในอนาคต หากท่านทุบทำลาย หรือว่าทำให้เสียรูปลักษณ์และคุณค่าทางวัฒนธรรมของอาคารนี้” ปองขวัญกล่าว

จากนั้นเสนอแนวทางที่ 3 ให้สภาสถาปนิกออกระเบียบปฏิบัติ หรือข้อควรปฏิบัติในการออกแบบปรับปรุงอาคาร ที่มีคุณค่าเป็นมรดกสถาปัตยกรรมร่วมสมัยระดับชาติหรือระดับโลกที่ควรแก่การอนุรักษ์

“การปรับปรุงสามารถทำได้โดยคงคุณค่าภายนอกไว้ แต่ภายในจะปรับปรุงอะไรตามที่เขาต้องการไม่มีปัญหา ท้ายที่สุดคือออกคู่มือแนะนำให้สถาปนิกต้องตระหนักถึงเรื่องนี้ และแนะนำให้เจ้าของอาคารทราบเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทำลายมรดกวัฒนธรรมสำคัญของชาติที่ยังไม่ได้รับการปกป้องตามกฎหมาย” ปองขวัญทิ้งท้าย

ส่วนโชคชะตาของตึกหุ่นยนต์จะเป็นเช่นใดต่อไป ยังต้องร่วมกันจับตา

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...