10 ความจริงที่ทำให้รู้ว่า..เรากำลังทำเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง

ภาพประกอบ @mandy_mandarin 

ว่ากันว่าชีวิตคนเรามันสั้น อยากทำอะไรก็ให้รีบทำ แต่เชื่อไหม..คนส่วนน้อยเท่านั้นแหละที่จะได้ทำในสิ่งที่อยากทำจริง ๆ ส่วนใหญ่คนเรามักเสียเวลาในชีวิตไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เรื่องที่ไม่มีประโยชน์ ไม่มีคุณค่ากับชีวิต ทั้งที่ทุกคนรู้ว่าอดีตมีไว้เป็นบทเรียน ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพื่ออนาคตที่ดีกว่า แต่เราก็ยังเสียเวลาระหว่างทางไปกับเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ กันอยู่ดี

จริงอยู่ที่ทุกเรื่องต้องใช้เวลา การจะทำอะไรสักอย่างต้องให้เวลากับมันอย่างเต็มที่ แต่สำหรับบางคนอาจไม่ได้มีเวลามากพอที่จะใช้ไปกับทุกเรื่อง อย่าลืมสิว่าสิ่งที่ไม่มีวันหวนกลับมาก็คือ “เวลา” แล้วเราจะนั่งเสียเวลาในชีวิตไปแบบไร้ค่ากับ 10 เรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนี้ไปทำไมกัน

1. เรื่องที่เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว

เรื่องบางเรื่อง ของบางอย่าง เราก็ทำได้แค่ปล่อยมันไป

โลกนี้มีปัญหาอยู่ 2 แบบ คือ แบบที่แก้ได้ กับแบบที่แก้ไม่ได้ ถ้าเจอแบบที่แก้ได้ ก็ค่อย ๆ แก้กันไป แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่เจอกับอะไรสักอย่างที่มันแก้ไม่ได้ สิ่งที่ทำได้ก็คือการยอมรับ ถ้ามันเป็นเรื่องที่เราทำอะไรไม่ได้อีกแล้ว ก็แค่ต้องยอมรับ ต้องเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง และหาวิธีใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันมันให้ได้

2. เรื่องที่ไม่ใช่ความต้องการของเราจริง ๆ

เคยลองถามตัวเองไหม..ว่านี่ใช่สิ่งที่เราต้องการจริง ๆ หรือเปล่า ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าคนเราเดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ไม่รู้ความต้องการที่แท้จริงของตัวเอง ทำให้เสียเวลาในชีวิตไปกับการพยายามทำ การพยายามเป็นเหมือนคนอื่น เห็นคนอื่นทำ ก็ทำบ้าง เห็นคนอื่นมี ก็มีบ้าง แต่ไม่เคยรู้เลยว่าใช่สิ่งที่เป็นเราจริง ๆ ไหม

การไม่รู้ความต้องการของตัวเองเป็นจุดอ่อนที่ทำให้ชีวิตมันยาก เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่าควรจะดำเนินชีวิตไปทางไหน อะไรคือเป้าหมาย อะไรคือความต้องการ สุดท้ายก็ไปเรื่อย ๆ ไปวัน ๆ พร้อมกับคำถามที่ว่า “เรากำลังทำอะไร” “เราอยู่ไปเพื่ออะไร” แต่ไม่เคยมีคำตอบใด ๆ เล็ดลอดออกมา

3. การเอาตัวเองไปวุ่นวายกับชีวิตคนอื่น

คนเรามีแนวโน้มที่จะควบคุมคนอื่นโดยใช้ข้ออ้างว่า “หวังดี” แทบจะตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่รู้ไหม..เราไม่มีสิทธิ์ไปวุ่นวายกับชีวิตของใคร แม้คน ๆ นั้นจะเป็นคนที่เราให้กำเนิดมาก็ตาม แน่นอนพ่อแม่ต้องหวังดีกับลูกโดยไม่หวังผลตอบแทน แต่สิ่งที่คนเป็นพ่อแม่ทำได้ก็คือสั่งสอน แนะนำ สนับสนุนเท่านั้น ส่วนการตัดสินใจต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเค้าเอง

การเข้าไปยุ่งกับชีวิตคนอื่นโดยที่เค้าไม่ร้องขอ ก็ไม่ต่างอะไรกับการทำเรื่องไม่เป็นเรื่อง เพราะมันแสดงถึงความไม่เคารพกัน ไม่เชื่อในตัวเค้า ถึงแม้จะมีข้ออ้างอย่าง “หวังดี” มาเป็นเกราะกำบังก็ตาม

4. เรื่องที่อยู่เหนือการควบคุม

ในโลกนี้มีอะไรที่อยู่เหนือการควบคุมมากมาย เราไม่สามารถคอนโทรลอะไรได้ทั้งหมด ต่อให้วางแผนมาดี เตรียมตัวมามากแค่ไหน แต่เรื่องบางเรื่อง ของบางอย่างที่มันต้องเป็นอย่างนั้น มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น ถึงเราจะอยากให้มันเป็นไปตามแผนแทบตายแค่ไหน แผนก็แหกได้เสมอ เพราะฉะนั้นจงเข้าใจความจริงข้อนี้ให้ดี อะไรที่อยู่เหนือความควบคุมของเราไปแล้ว ต่อให้ฟูมฟาย สู้สุดตัว หรือร่ำร้องแค่ไหน เราก็ควบคุมมันไม่ได้อยู่ดี

อย่าลืมว่าความแน่นอนก็คือความไม่แน่นอน ไม่มีอะไรเลยที่ถาวร จีรัง และยั่งยืน ไม่ต้องไปเสียเวลาไปกับสิ่งที่อยู่เหนือการควบคุม เพราะนี่แหละคือสีสันของชีวิต

5. คนที่ไม่รักกันอีกต่อไป

การพยายามยื้อความรักเอาไว้ให้เหมือนเดิมที่สุดไม่ใช่เรื่องผิด แต่ต้องเป็นการยื้อของทั้งสองคน ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่คนหนึ่งไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว แต่อีกคนยังอยากยื้อเค้าเอาไว้ให้ได้นานที่สุดเพียงเพราะแค่ไม่อยากรู้สึกเจ็บ หรือไม่อยากอยู่คนเดียว เพราะเมื่อใจเปลี่ยนไป อะไร ๆ ก็ย่อมต้องเปลี่ยนตาม

เมื่อไม่รักก็คือไม่รัก การไปทำอะไรก็ได้ให้เค้ากลับมารักก็เหมือนการโยนก้อนหินลงทะเล ไม่มีวันที่ทะเลจะตื้นขึ้น และเดี๋ยวคลื่นก็พัดหินกลับเข้าฝั่งในสักวันอยู่ดี มีแต่เราที่เหนื่อยกับเดินหาหินและการออกแรงโยนหินลงทะเล ไม่มีอะไรเลยที่เปลี่ยนแปลง

6. สิ่งที่ไม่มีคุณค่ามากพอ

บ่อยครั้งที่คนเราเสียเวลาไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง และเรื่องแบบนี้มักจะทำให้เราผิดหวังเอามาก ๆ ได้ซะด้วย

ชีวิตคนเราพบเจอเรื่องราวและผู้คนมากมาย บางทีก็ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป บางทีก็ได้ใช้ชีวิตร่วมกันในช่วงเวลาหนึ่ง เค้าอาจเป็นคนที่คุณค่าในช่วงเวลานั้น แต่มีพบก็ต้องมีจาก เมื่อคน ๆ นั้นเดินจากไป ก็หมายถึงคุณค่าในตัวเค้าได้ค่อย ๆ หายไป ไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่เราจะไปเสียเวลากับสิ่งที่สูญค่าไปแล้ว สู้ใช้เวลาไปกับเรื่องที่ควรใช้ ยอมรับอย่างเข้าใจในเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามา แล้วเราจะพบคุณค่าในตัวเอง

7. จมอยู่กับความผิดพลาด แล้วไปต่อไม่ได้สักที

เมื่อพบเจอความผิดหวัง เราอาจท้อแท้ เสียใจ และไม่อยากเริ่มต้นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ใคร ๆ ก็เป็นกัน เราจะเสียใจเท่าไหร่ก็ได้ ผิดหวังมากแค่ไหนก็ได้ ล้มให้ตายยังไงก็ได้ แต่ต้องแค่เสียใจเท่านั้น อย่าได้เสียความตั้งใจเด็ดขาด ล้มแล้วต้องลุก เอาข้อผิดพลาดมาเรียนรู้แล้วก้าวต่อไปให้ได้

การที่เราจมอยู่กับความผิดหวัง ผิดพลาดไม่ใช่เรื่องผิด แต่อย่าให้ความรู้สึกนี้อยู่กับเรานานเกินไป จริงอยู่ที่บางอย่างต้องใช้เวลา แต่ก็ต้องไม่ลืมว่าทุกอย่างมีช่วงเวลาที่เหมาะสมเสมอ ความผิดหวังก็เช่นกัน ถ้าจมอยู่กับมันนานเกินไป เราจะไม่มีวันออกมาจากความผิดหวังครั้งนั้นได้ วิธีที่รวดเร็วที่สุดก็คือต้องรีบตั้งสติให้ได้ เอาความคิดดี ๆ เข้าหาตัวให้ได้ อย่าจมไปกับปัญหา เป้าหมายเปลี่ยนกันได้ แต่ความตั้งใจต้องไม่เปลี่ยน

8. เรื่องที่อธิบายไปก็ไร้ประโยชน์

สุภาษิตไทยที่ว่า “พูดไป สองไพเบี้ย นิ่งเสีย ตำลึงทอง” น่าจะอธิบายเรื่องนี้ได้ดีที่สุด เรื่องบางเรื่อง..อธิบายไปก็ไร้ประโยชน์ สู้เงียบไว้ ไม่พูดอะไรเลยยังจะได้ประโยชน์มากกว่า

เพราะสำหรับคนที่เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ ไม่ฟังเหตุผล ต่อให้เรายกล้านวิธี ร้อยเหตุผลมาอธิบายก็ไม่มีวันเข้าใจ เข้าทำนองอธิบายไปก็ไร้ประโยชน์ นิ่งไว้เสียน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่า

9. เรื่องที่ทำแล้ว..ไม่เกิดประโยชน์

คำว่า “ประโยชน์” ในที่นี้คือประโยชน์ต่อตัวเอง ตัวของเราคนเดียวเท่านั้น เพราะประโยชน์ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน อย่าพยายามเอาบรรทัดฐานของตัวเองไปใส่ให้คนอื่น ดีต่อเรา ก็ใช่ว่าจะดีสำหรับคนอื่น

ลองคิดดูว่าเราเสียเวลาไปกับการทำอะไรที่ไม่เกิดประโยชน์กับชีวิตตัวเองบ้าง เรื่องที่ได้แต่คิด แล้วไม่ทำ เรื่องที่ได้แต่ฝันไปวัน ๆ แต่ไม่เคยเกิดขึ้นจริงสักที นั่นแหละสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ คนเราต้องรู้จักหาสิ่งที่ดี ที่เกิดประโยชน์ใส่ตัว อย่าเสียเวลาในชีวิตที่มันสั้นอยู่แล้วไปกับเรื่องที่ทำแล้ว ไม่มีประโยชน์เลย

10. พยายามเปลี่ยนความคิดคนอื่น

นักปราชญ์จีนท่านหนึ่งกล่าวไว้ว่า ''ถ้ามีขุนเขาขวางอยู่ข้างหน้า อย่าเสียเวลาย้ายขุนเขา แต่จงย้ายตัวเอง'' การพยายามทุกวิถีทางเปลี่ยนความคิดหรือชีวิตคนอื่นก็เช่นกัน เราไม่มีทางทำไม่ได้

เมื่อไหร่ก็ตามที่มีความคิดนี้แว่บขึ้นมา ให้เปลี่ยนจากความพยายามเปลี่ยนเค้า เป็นเปลี่ยนเราแทน เปลี่ยนเป็นเราที่ต้องพยายามเข้าใจคนอื่น คนทุกคนล้วนมีเหตุผลของตัวเอง การที่คน ๆ หนึ่งเชื่อในสิ่งที่เค้ายึดมั่นโดยไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน ไม่ใช่เรื่องผิด ! เพราะฉะนั้นอย่าเสียเวลาย้ายขุนเขา แต่จงเปลี่ยนเส้นทางที่มันง่ายกว่านั้นด้วยการเคารพเค้าและไม่เสียเวลาไปเปลี่ยนความคิดและความเชื่อของใคร

ยังไงความจริงเหล่านี้ก็เคยเกิดขึ้นกับพวกเราทุกคน เราเคยเสียเวลาทำเรื่องไม่เป็นเรื่องกันมาแล้วทั้งนั้น แต่สุดท้ายทุกคนแค่ต้องรู้ตัวเองว่าเวลาในชีวิตมันสั้นลงทุกที เรายังจะอยากเสียในชีวิตไปกับเรื่องพวกนี้จริง ๆ ใช่ไหม ?