แฟนๆสุดอาลัย ทองใส ทับถนน มือพิณ เพชรพิณทอง อันดับ 1 ของเมืองไทย
แฟนๆสุดอาลัย ทองใส ทับถนน มือพิณ เพชรพิณทอง อันดับ 1 ของเมืองไทย จากไปอย่างสงบ
เพจ เพชรพิณทอง นพดล ดวงพร โพสต์อาลัย ทองใส ทับถนน อดีตมือพิณเพชรพิณทอง ว่า “คุณอรนุช พงษ์ภาพ ตัวแทนครอบครัวเพชรพิณทองและชาวคณะ
ขอแสดงความเสียใจและร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของ คุณอาทองใส ทับถนน อดีตมือพิณเพชรพิณทอง รุ่นแรกปี 2513-2545 #ทองใสทับถนน #เพชรพิณทอง #นพดลดวงพร #นพดลดวงพรและชาวคณะ”
โดย ทองใส ทับถนน จากไปอย่างสงบ เวลา 04.53 น. วันพุธที่ 20 มีนาคม 2567
ทองใส ทับถนน มือพิณอันดับ 1 ของเมืองไทย เกิดเมื่อ วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 ที่บ้านหนองกินเพล ตำบลหนองกินเพล อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
ทองใส ทับถนน. เริ่มฝึกดีดพิณเมื่ออายุ 4 ปี โดยมีครูบุญบ้านท่างอยอำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นผู้ฝึกสอนการดีดพิณเป็นคนแรก
อายุได้ 8 ปี ได้เล่นพิณประกอบคณะหมอลำ ของนายปิ่น ทับถนน ผู้เป็นพ่อ จากนั้น จึงได้เรียนรู้ลายพิณโบราณกับครูบุญชู โนนแก้ว แห่งบ้านโนนสังข์อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ ศิลปินมือพิณพื้นบ้านตาพิการ
เมื่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่4 จึงได้ตระเวนเล่นดนตรีกับคณะหมอลำปิ่น ทับถนน เรื่อยมา
พ.ศ. 2511 เมื่ออายุได้21 ปี
ได้เข้าประจำการเป็นทหารเกณฑ์ ที่กองพันทหารปืนใหญ่ ค่ายสรรพสิทธิประสงค์ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จึงได้มีโอกาสเป็นนักดนตรี วงดนตรีสากล ประจำกองพันทหารปืนใหญ่ ได้นำพิณมาประยุกต์กับดนตรีสากลสมัยใหม่และเรียนรู้การเล่นดนตรี ตามแบบสากลนับแต่นั้นเป็นต้นมา
หลังพ้นเกณฑ์ทหารในปีพ.ศ. 2513 ครูทองใส ทับถนน จึงกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดและได้สมัครเข้าเป็นนักดนตรีคณะลูกทุ่งอีสาน“พิณแคนแดนดอกบัว” ของ นายนพดล ดวงพร ภายใต้ฉายาทองใสหัวนาค ทั้งนี้เพราะมีพิณแกะสลักเป็นรูปพญานาคเป็นเครื่องดนตรีคู่กาย
และได้เล่นดนตรีกับวงดนตรีเพชรพิณทองตลอดมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2514 จนได้ยุติวงเมื่อพ.ศ.2546
ตั้งแต่อยู่วงดนตรีเพชรพิณทอง เคยขาดงาน 1 วันเพราะจำวันเดินทางไม่ได้
ความสามารถที่พิเศษอีกอย่าง ที่ไม่มีใครทราบ ของทองใส ทับถนน คือ ต้องปักเสื้อนักเรียนให้น้องนุช (อรนุช โกศัลวัฒน์ ) ใส่ทุกปี โดยก่อนเปิดเทอม ทองใส ทับถนน ต้องถือเสื้อ สะดึงและด้ายปักเสื้อนักเรียน เดินสายไปกับวงด้วยตลอด ว่างก็หยิบมาปัก
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แฟนๆสุดอาลัย ทองใส ทับถนน มือพิณ เพชรพิณทอง อันดับ 1 ของเมืองไทย
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th