โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

ลงทุน “กองทุนรวม” แบบสบายใจ... ต้องเข้าใจกลไก “ซื้อ-ขาย” !!!

Wealthy Thai

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 11 ก.พ. 2566 เวลา 23.09 น. • สรวิศ อิ่มบำรุง

Wealthy Way: คนไทยคุ้นเคยกับ “การฝากเงิน” กับแบงก์มาตั้งแต่เล็ก จึงมีความคุ้นเคยและรู้สึกว่าสะดวกสบายไม่ยุ่งยากอะไร หลายคนมีเงินฝากมากกว่า 1แบงก์ เดินเข้าแบงก์โน่น ออกแบงก์นี้ เปิดกันได้ทันใจ
แต่เมื่อจะขยับไปสู่โพรดักต์การลงทุนอื่นๆ ก็เกิดความ “ไม่คุ้นชิน” และ “ไม่คุ้นเคย” จนบางครั้งก็เป็นอุปสรรคในการลงทุนได้เช่นเดียวกัน
เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า…หลายๆ อย่างก็ “แตกต่างจากการฝากเงิน” จริงๆ ไม่ว่าจะลงทุนในหุ้น, ตราสารหนี้ หรือ “กองทุนรวม” ก็ตาม
วันนี้ ทีมงาน ‘Wealthy Thai’ จะพามาทำความเข้าใจ “กลไกการซื้อ-ขาย” กองทุนรวมกันอีกครั้ง

“เงินฝาก” คนไทยคุ้นเคย-เข้าใจง่าย…แต่คาดหวัง “ผลตอบแทนที่ดี” ตอบโจทย์ความมั่งคั่งไม่ได้

การ “ฝาก-ถอน” เงินตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรยุ่งยาก เอาเงินไป ‘ฝากเงิน’ แบงก์ เงินเข้าบัญชี เงินในบัญชีก็ขึ้นมาตามยอดที่ฝาก เห็นกันในเวลานั้นเลยแบบ Real Time ในทางตรงข้ามเมื่อ ‘ถอนเงิน’…ก็จะมีเงินหายไปจากบัญชีให้เห็นกันจะๆ เลย ออกมาเป็นเงินสดให้จับต้องได้ทันทีแบบ Real Time อีกเช่นกัน

“จำนวนเงินในการ ‘ฝาก-ถอน’ ก็ตาม “จำนวน” นั้นๆ เลย มี 10,000 บาท ก็ 10,000 บาท ตรงไปตรงมา ไม่ต้องแปลงอะไรให้ยุ่งยาก ครบรอบจ่ายดอกเบี้ยก็จะมีเงินเพิ่มเข้ามาในบัญชี หรือครบปีเงินอาจจะหายไปเป็นค่าธรรมเนียมต่างๆ เช่น ค่าบัตร ATM เป็นต้น ใครๆ ก็ทำได้ ไม่ยุ่งยากอะไร”

NAV” เคลื่อนไหว ‘ขึ้น-ลง’ ได้…ตาม “ผลตอบแทน” ที่กองทุนเข้าไปลงทุน

แต่ “กองทุนรวม” ไม่ใช่เงินฝากแบงก์ เป็นเครื่องมือการลงทุนอย่างหนึ่ง กลไกการ ‘ฝาก (ซื้อ)’ หรือ ‘ถอน (ขาย)’ จะใช้ศัพท์คนละอย่าง…ถ้าผ่านกองทุนรวมจะเปลี่ยนเป็น ‘ซื้อ-ขาย’ แทน และการแสดงผลก็จะต่างกับเงินฝากแบงก์ เพราะจะแสดงเป็นจำนวน “หน่วยลงทุน” แทน
ส่วน “มูลค่า” จะเป็นเท่าไรนั้น ก็ขึ้นกับ “มูลค่าสินทรัพย์สุทธิต่อหน่วย” (NAV) นั่นเอง ซึ่งมูลค่า NAV นี้ก็จะขึ้นกับผลตอบแทนที่กองทุนได้รับจากการเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ ซึ่งสามารถเคลื่อนไหว “ขึ้น-ลง”ได้ตามการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์ที่กองทุนไปลงทุนเป็นสำคัญ

ตัวอย่าง: ถ้าคุณมีเงินฝากในบัญชี 10,000 บาท ตัวเลขที่เป็นตัวเงินก็จะอยู่ที่ 10,000 บาท ไปตลอด (สมมติไม่นับรวมดอกเบี้ยรับ หรือค่าธรรมเนียมที่โดนหัก)
แต่ถ้ามีเงินในกองทุนรวม 10,000 บาท ซื้อไว้ที่หน่วยละ 10 บาท ก็จะมีหน่วยอยู่ 1,000 หน่วย (=1,000หน่วย * 10 บาท) ในอนาคตกองทุนไปลงทุนแล้วเกิดผลขาดทุน NAV เหลือ 9 บาท เงินคุณก็จะเหลือ 9,000 บาท ในทางตรงข้ามถ้าไปลงทุนแล้วมีกำไร NAV เพิ่มเป็น 11 บาท เงินคุณก็จะเพิ่มขึ้นเป็น 11,000 บาท ได้เช่นกัน ในขณะที่จำนวนหน่วยที่ถือเท่าเดิม

“กองทุนรวม” ตอน ‘ซื้อ-ขาย’ ยังไม่รู้ราคา-ต้องรอ “สิ้นวัน”…และมี “ค่าธรรมเนียม” เข้ามาเกี่ยวข้อง

จุดแตกต่างของ “กองทุนรวม” อีกอย่าง คือ ตอน “ซื้อ-ขาย” นักลงทุนจะยังไม่ทราบว่าซื้อ-ขายได้ที่ราคา (NAV) เท่าไร ต้องรอจน “สิ้นวัน” ที่จะมีสรุปการลงทุน ณ สิ้นวันว่าที่กองทุนไปลงทุนมานั้น ได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร เพื่อนำมาคำนวณ “ราคา (NAV) ปิด ณ สิ้นวัน” (End of Day) อีกครั้ง แล้วก็ใช้ราคาสิ้นวันนี้ไปคำนวณว่าผู้ลงทุนจะซื้อได้กี่หน่วย หรือขายได้เงินเท่าไรต่อไปนั่นเอง
“จุดที่ต่างจากเงินฝากแบงก์อีกอย่าง คือ ตอนที่ขายคืนนั้น นักลงทุนจะไม่ได้รับเงินทันที แต่จะได้รับเงินหลังจากวันที่ทำรายการขายแล้ว โดยจะมีระบุไว้ชัดเจนว่ากี่วัน เช่น การชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุน: T+4 คือ 4 วันทำการนับจากวันทำรายการขายคืน (และต้องทำการขายในเวลาทกำการที่ระบุไว้ด้วย เช่น 08:30-15:30 น. ก็ต้องขายในช่วงเวลานี้ จึงจะเข้าเงื่อนไข ถ้าเลยเวลาจะไปนับวันทำรายการในวันถัดไปแทน ทั้งกรณีซื้อและขาย)

นอกจากนี้ การลงทุนผ่าน “กองทุนรวม” จะมีเรื่องของ “ค่าธรรมเนียม” เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยจะเก็บจาก 2 ส่วนใหญ่ๆ ได้แก่

  • ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากกองทุน (% ต่อปี ของ NAV) ไม่ได้เก็บจากผู้ลงทุนโดยตรง แต่กองทุนจะหักค่าธรรมเนียมส่วนนี้ออกจากราคา NAV ของกองทุนที่อัปเดตทุกวัน โดย % ค่าธรรมเนียมส่วนนี้จะเป็น % ต่อปี โดยจะเอาไปหาร 365 แล้วนำไปหักออกจาก NAV วันต่อวัน

  • ค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วย (% ของมูลค่าซื้อขาย) ซึ่งเป็นส่วนที่เรียกเก็บจากผู้ถือหน่วยลงทุนโดยตรง ซึ่งค่าธรรมเนียมส่วนนี้จะเกิดขึ้นตอน “ซื้อ” หรือ “ขาย” หน่วยลงทุน โดยจะเก็บเป็น % ของมูลค่าซื้อขาย คิดรวมเข้าไปในราคา NAV ที่ บลจ. แจ้งให้ทราบตอนยืนยันคำสั่งซื้อขาย

“นักลงทุนหลายคนที่ไม่เข้าใจอาจรู้สึกเชิงลบเอาได้ง่ายๆ เพราะไปซื้อกองทุน 10,000 บาท ทำไมพอยืนยันคำสั่งซื้อเสร็จสรรพ มูลค่ามาไม่เต็ม 10,000 บาท (หลายคนตกใจ นึกว่าโดนหลอก โดนโกง แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย) นั่นเพราะมีการหักค่าธรรมเนียมในการขายไปนั่นเอง ซึ่งถ้าเข้าใจแล้ว ก็จะลงทุนได้อย่าง ‘สบายใจ’ด้วยเช่นกัน เพราะนี่คือส่วนหนึ่งของกลไกในการ ‘ซื้อ-ขาย’ กองทุนเท่านั้นเอง”
ตัวอย่าง กองทุน L ราคา NAV เท่ากับ 10 บาท เก็บค่าธรรมเนียมซื้อ 1% ถ้าเราซื้อ เราต้องซื้อที่ราคา 10.1 บาท หรือถ้ากลับกันกองทุนไม่เก็บค่าธรรมเนียมตอนซื้อ แต่เก็บค่าธรรมเนียมตอนขายออก ก็จะขายได้ที่ราคา 9.9 บาทแทน
“จริงๆ มันไม่ใช่อุสรรคในการลงทุน หากแต่เป็นกลไกปกติของเครื่องมือมากกว่า ถ้าคุณเข้าใจแล้วลองลงทุนดูจะพบว่า…ไม่ใช่เป็นปัญหาหรืออุปสรรคแต่ประการใด”
เห็นมั้ยว่า…กลไก “ซื้อ-ขาย” กองทุนนั้นไม่ได้ยุ่งยากลำบากแต่ประการใด ‘เงินฝากออมทรัพย์’ ในบัญชีของคุณจะสามารถเพิ่มค่าได้อีกมาก ถ้านำมาลงทุนให้ ‘ถูกที่-ถูกทาง’ เท่านั้นเอง อย่าลืมว่า… ‘ผลตอบแทนที่ดี’นั้น ใครๆ ก็ทำได้ ไม่ขึ้นกับฐานะแต่ประการใด

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...