เจาะอินไซด์เทรนด์โลก 2025 ความต่างของช่วงวัย เปิดโลกพฤติกรรม 'คน 5 เจน'

เจาะอินไซด์เจาะเทรนด์โลก 2025 ความต่างของช่วงวัย เปิดโลกพฤติกรรม ‘คน 5 เจน’

ความรวดเร็วของเทคโนโลยี ข้อมูลข่าวสาร วิกฤตในด้านสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ล้วนเป็นตัวเร่งให้มุมมองความคิดและพฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะ “พฤติกรรมการบริโภค” ที่จะเห็นได้ว่าหลายกระแสมาเร็วไปเร็ว ทั้งยังเกิดปรากฏการณ์ในแต่ละเจเนอเรชั่นที่ต้องเร่งศึกษา ทำความเข้าใจ เพื่อฉายภาพปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับแต่ละเจเนอเรชั่น โครงการ “คิด” Creative Thailand ภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA จึงอยากชวนทุกคนมาเจาะลึก 5 ไฮไลต์สำคัญของคนในแต่ละรุ่นที่สะท้อนถึงพฤติกรรมและการบริโภคที่จะเปลี่ยนแปลงไปในปี 2025 จากอีบุ๊ก “เจาะเทรนด์โลก 2025” หรือ “Trend 2025 : “BEYOND IMAGINATION” ที่รับรองได้เลยว่ารู้ก่อน วางกลยุทธ์ได้ไวกว่า และก้าวได้ไกลกว่าใครอย่างแน่นอน

• Baby Boomer (1946-1964) “ฮิปสเตอร์วัยเกษียณ”

ผลสำรวจจาก Pew Research Center เผยข้อมูลสำคัญว่า เจนบูมเมอร์กว่า 85% เช็กสมาร์ตโฟนและออนไลน์อย่างน้อย 1 ครั้งต่อวัน และกว่า 31% ออนไลน์อยู่ตลอดเวลา และกลุ่มบูมเมอร์ยังเป็นกลุ่มที่สามารถปรับตัวเข้าหาระบบออนไลน์ และ e-commerce ได้อย่างรวดเร็ว โดยปี 2024 ที่ผ่านมาผู้คนที่อายุมากกว่า 65 ปีใช้จ่ายไปกับการช้อปสินค้าออนไลน์เฉลี่ย 187 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน ก้าวกระโดดจากเมื่อ 3 ปีก่อน และมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้นได้อีก

โดยรายงานจาก Worldpanel ชี้ให้เห็นว่า แนวโน้มสินค้าที่ผู้บริโภคกลุ่มนี้น่าจะสนใจมากที่สุด คือสินค้าอุปโภคบริโภคในกลุ่มที่เกี่ยวกับการดูแลร่างกายและความสวยความงาม ส่วนกลุ่มบูมเมอร์ที่มีกำลังซื้อสูงอาจจะมองไปถึงเทคโนโลยี ด้านเวชศาสตร์การชะลอวัย ที่ไม่ได้เป็นไปเพื่อความสวยงาม แต่ทำให้รู้สึกกระปรี้กระเปร่า เป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง อย่างเช่นเทคโนโลยีการฟื้นฟูเซลล์ในระดับดีเอ็นเอ เป็นต้น ในส่วนกิจกรรมที่คนวัยนี้สนใจ คือ การเดินป่า แคมป์ปิ้ง เดินเล่นตามชายหาดตามสไตล์หนุ่มสาวฮิพสเตอร์ แต่เป็นในแบบที่พรีเมียม

• Generation X (1965-1980) “สนามอารมณ์วัยเก๋า”

กลุ่มคนที่พร้อมเปย์ ถ้าคุ้มจริง และยังวิ่งหาวันเวลาเก่าๆ

สาเหตุสำคัญที่ทำให้กลุ่มเจนเอ็กซ์กลายเป็นสนามอารมณ์ของยุคนี้ เป็นเพราะการเปลี่ยนผ่านอำนาจที่กลุ่มบูมเมอร์เริ่มลดบทบาทลง และกลุ่มเจนเอ็กซ์กลายเป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจแทน ทั้งในแวดวงธุรกิจและอิทธิพลทางการเมือง แต่สิ่งที่เจนเอ็กซ์แตกต่าง คือการรับมือกับภาวะดังกล่าวที่ดีกว่าบูมเมอร์

นอกจากนี้ในโลกการทำงาน คนกลุ่มนี้ยังสามารถปรับตัวได้เก่ง เข้าใจการใช้เทคโนโลยีได้ดี และมีความมั่นคงทางอารมณ์มากกว่า รับมือกับสถานการณ์ในสังคมที่ทำงานได้ดีกว่าคนเจเนอเรชั่นอื่นๆ อีกทั้งคนกลุ่มนี้เป็นกลุ่มผู้บริโภคสินค้าฟุ่มเฟือยระดับพรีเมียมในลำดับต้นๆ โดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับความงามซึ่งเป็นกลุ่มสินค้าที่ผู้บริโภคหญิงเจนเอ็กซ์พร้อมจ่าย และคนกลุ่มนี้ยังเป็นกลุ่มกำลังซื้อในสัดส่วนที่สูงกว่าคนเจเนอเรชั่นอื่นๆ

• Millennials (1980-1995) “คนเหนื่อย 2025”
  

ผู้มองหาแรงใจรายวัน สนใจการบาลานซ์ชีวิต และคิดถึงความอิสระ

เป็นช่วงวัยที่ต้องเผชิญทั้งความเครียดจากการทำงาน ความคาดหวังต่อความมั่นคงทางการเงิน การสร้างครอบครัว และกรอบความสำเร็จอีกมากมาย แต่จากงานวิจัยโดย Stylist ที่สำรวจกลุ่มผู้หญิงในวัย 30 ปีขึ้นไปพบว่า มีเพียง 34% เท่านั้นที่ทำตามเป้าหมายได้ ความเหนื่อยล้ากับเป้าหมายที่ใหญ่ ส่งผลให้คนกลุ่มนี้เริ่มปรับมุมมอง เกี่ยวกับความสำเร็จจากเป้าใหญ่สู่เป้าความสำเร็จรายวัน โดยเฉพาะในเรื่องเกี่ยวกับสุขภาวะ เน้นการสร้างบาลานซ์ให้ชีวิตด้วยการแบ่งเวลาการทำงานและใช้ชีวิตให้สมดุลมากที่สุด ทำให้สินค้าและบริการที่อำนวยความสะดวกอย่างเช่นยิม 24 ชั่วโมง สวนสาธารณะ รวมถึงบาร์ที่เสิร์ฟเครื่องดื่ม และอาหารสุขภาพ ฯลฯ

นอกจากนี้ ประเทศที่คนกลุ่มนี้นิยมไปเที่ยวคือ กลุ่มประเทศ Blue Zone อาทิ โอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น, โลมา ลินดา แคลิฟอร์เนีย, ซาร์ดิเนีย อิตาลี, อิคาเรีย กรีซ และนิคอยา คอสตาริก้า เพื่อไปสัมผัสวิถีชีวิต ความเป็นอยู่ และอาหารการกินของคนท้องถิ่นจริงๆ ซึ่งคนกลุ่มนี้มีอัตราการหย่าร้างมากที่สุด คาดว่าจะมีจำนวนคนโสดในช่วงอายุ 25-44 ปีมากขึ้นถึง 45% ภายในปี 2030

• Gen Z (1996-2011) เจนนี้มาแน่ “ผู้ปั้นเทรนด์ในโลกดิจิทัล”

ช่วงวัย 20 ปี ที่เพิ่งจะก้าวสู่โลกการทำงานก็ต้องเจอกับวิกฤต First Job Crisis ภาวะการปรับตัวเข้ากับสังคมและการทำงานไม่ทันท่วงทีหลังโควิด-19 ระบาด ทำให้กลุ่มเจนซีกลายเป็นคนกลุ่มแรกๆ ที่จะถูกคัดออกจากที่ทำงานหากบริษัทจำเป็นต้องลดจำนวนคน สอดคล้องกับผลสำรวจจาก WGSN และ UNICEF ที่รายงานว่า เจนซีและเซนเนียล (กลุ่มมิลเลนเนียลช่วงปลาย คาบเกี่ยวกับคนเจนซี) กว่า 44% หางานได้ยากกว่าเมื่อเทียบกับวัยเดียวกันในยุคพ่อแม่

ด้วยเหตุนี้เอง ทำให้คนกลุ่มนี้มองหางานที่อิสระและยังตอบโจทย์ความสนใจของตนเองได้ จึงได้ผันตนเองเป็นออนไลน์ครีเอเตอร์ ติ๊กต็อกเกอร์ และอินฟลูเอนเซอร์บนโลกโซเชียลมีเดียมากขึ้น ขณะเดียวกัน โซเชียลมีเดียทำให้พวกเขารู้สึกเหงามากขึ้น จึงทำให้เกิดพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เรียกว่า JOLO หรือ Joy of Logging Off ที่คนเจนซีเริ่มลดการใช้งานโซเชียลมีเดียลง และเริ่มออกมาใช้ชีวิตกันมากขึ้น เช่น การออกไปคาเฟ่กินอาหารอร่อยๆ กับกลุ่มเพื่อน การเข้าร่วมกิจกรรมตามชุมชนใกล้บ้าน การทำเวิร์กช็อป หรือการวางแผนท่องเที่ยว

ในด้านการจับจ่ายใช้สอย กลุ่มเจนซีเลือกที่จะจับจ่ายใช้สอยอย่างสมเหตุสมผลและมองถึงความคุ้มค่า จึงทำให้คนกลุ่มนี้สนใจสินค้าแฟชั่นมือสอง และแฟชั่นจากแบรนด์ในประเทศ

• ALPHA (2010-2024) “ผู้กุมชะตาโลกอนาคต

กับการอยากเห็นผู้คนบนโลกมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า

เป็นกลุ่มที่การตลาดต้องให้ความสนใจ เพราะในปี 2025 กลุ่มอัลฟาจะมีจำนวนถึง 2.2 พันล้านคน และจะกลายเป็นกลุ่มเจเนอเรชั่นที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และอีก 5 ปีถัดไป เจนอัลฟารุ่นแรกจะมีอายุครบ 20 ปี ซึ่งพร้อมเข้าสู่ตลาดแรงงาน และเริ่มมีอิทธิพลในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น คนกลุ่มนี้มีมุมมอง ความคิด และค่านิยมการให้ความสำคัญกับบางสิ่งที่อาจส่งผลต่อพฤติกรรมการบริโภคได้ เพราะเป็นกลุ่มที่เติบโตกับโลกดิจิทัล ทำให้มีความใฝ่ฝันที่จะทำงานในฐานะคอนเทนต์ครีเอเตอร์มากที่สุด

นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่ากลุ่มเจนอัลฟาจะกลายมาเป็นผู้ขับเคลื่อนธุรกิจและอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ สุขภาวะ และสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น โดยเลือกประกอบอาชีพ หรือทำธุรกิจที่มุ่งเป้าส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพกาย สุขภาพจิต และความเป็นอยู่ทางสิ่งแวดล้อมในอนาคต

สามารถดาวน์โหลดอีบุ๊กเจาะเทรนด์โลก “Trend 2025 : BEYOND IMAGINATION” ฟรี ที่ https://www.tcdc.or.th/th/all/service/resource-center/e-book/34560-Trend-2025

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เจาะอินไซด์เทรนด์โลก 2025 ความต่างของช่วงวัย เปิดโลกพฤติกรรม ‘คน 5 เจน’

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th