โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

JSP อัดงบการตลาดเพิ่มเท่าตัวเบิกทางรุกตลาดจีน

การเงินธนาคาร

อัพเดต 22 ม.ค. เวลา 15.33 น. • เผยแพร่ 22 ม.ค. เวลา 08.33 น.

JSP ปักธงปีมะเส็งวางเป้ารายได้โต 15-30% อัดงบการตลาดเพิ่มเท่าตัว เปิดตลาดต่างประเทศนำร่อง ใช้แบรนด์ “สุภาพโอสถ" เจาะตลาด “จีน” หลังเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนอยู่แล้ว

นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) [JSP] เปิดเผยว่า ผลงานในปีที่ผ่านมา JSPมีอัตราเติบโตที่ดีเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนปี 2568 ตั้งเป้ายอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15-30% โดยรายได้จะมาจาก OEM 40% และสินค้า Own Brand 40% ที่เหลือมาจากผลิตภัณฑ์น้ำยาฟอกไต การให้บริหารรับจ้างวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การจัดฝึกอบรม และอื่นๆ

ทั้งนี้ในปี 2568 บริษัทได้วางกลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมองหาตลาดใหม่ๆ โดยขยายตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ปีนี้จะนำร่องขยายไปตลาดจีน

ทั้งนี้ JSPได้รับใบจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในจีนตั้งแต่ปลายปี 67 ปัจจุบันเริ่มทำการนำสินค้าไปวางจำหน่ายแล้วบางส่วน ขณะที่สินค้าของ "สุภาพโอสถ" เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนอยู่แล้ว เนื่องจากปกติคนจีนที่มาท่องเที่ยวในไทยจะนิยมซื้อสมุนไพรไทยแปรรูปกลับไปเป็นของฝาก

นอกจากนี้ JSPจะเพิ่มงบการตลาดมากขึ้นถึงเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา โดยจะเน้นสร้างการรับรู้ในแบรนด์ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมขยายกลุ่มเป้าหมายจากเดิมที่เน้นกลุ่มผู้สูงวัยไปสู่วัยทำงานมากขึ้น ล่าสุด JSP ได้ทำการโฆษณาผ่านสื่อรถไฟฟ้า BTS ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างการรับรู้ไปยังคนรุ่นใหม่ รวมถึงการมีแผนจะใช้พรีเซนเตอร์ที่เป็นคนรุ่นใหม่เพิ่มเข้ามา

นายสิทธิชัย กล่าวว่า ในปี 67 JSPประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะในส่วนของสินค้า Own Brand ภายในตราสินค้า "สุภาพโอสถ" สามารถสร้างยอดขายได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ "น้ำมันงาดำรำข้าว" ที่ทำยอดขายเกิน 1 ล้านกระปุก ซึ่งมองว่าปัจจัยสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จครั้งนี้มาจาก 3 ด้าน คือ

1. โครงสร้างประชากรที่เข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงวัย โดยในปี 2568 ประเทศไทยมีสัดส่วนผู้สูงวัยจำนวน 25% และคาดว่าภายในปี 73 สัดส่วนประชากรสูงวัยจะเพิ่มเป็น 30% จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้สินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้น

2. การใช้เวลาที่ค่อนข้างนานในการเข้าถึงการรักษาทางการแพทย์ ส่งผลให้ประชาชนในกลุ่มวัยทำงานช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป หันมาจับจ่ายสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้นเพื่อป้องกันตนเองก่อนไม่ให้เจ็บป่วย

3. บริษัทได้เพิ่มงบประมาณด้านการตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะการแต่งตั้ง"แม่อี๊ด" ดวงใจ หทัยกาญจน์ เป็นพรีเซนเตอร์น้ำมันงาดำรำข้าว ส่งผลให้เกิดการรับรู้ในกลุ่มผู้สูงวัยมากขึ้น

อ่านข่าว แวดวงธุรกิจ ที่น่าสนใจ ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...