JSP อัดงบการตลาดเพิ่มเท่าตัวเบิกทางรุกตลาดจีน
JSP ปักธงปีมะเส็งวางเป้ารายได้โต 15-30% อัดงบการตลาดเพิ่มเท่าตัว เปิดตลาดต่างประเทศนำร่อง ใช้แบรนด์ “สุภาพโอสถ" เจาะตลาด “จีน” หลังเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนอยู่แล้ว
นายสิทธิชัย แดงประเสริฐ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โรงงานเภสัชอุตสาหกรรม เจเอสพี (ประเทศไทย) [JSP] เปิดเผยว่า ผลงานในปีที่ผ่านมา JSPมีอัตราเติบโตที่ดีเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนปี 2568 ตั้งเป้ายอดขายเติบโตเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 15-30% โดยรายได้จะมาจาก OEM 40% และสินค้า Own Brand 40% ที่เหลือมาจากผลิตภัณฑ์น้ำยาฟอกไต การให้บริหารรับจ้างวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การจัดฝึกอบรม และอื่นๆ
ทั้งนี้ในปี 2568 บริษัทได้วางกลยุทธ์สร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยการมองหาตลาดใหม่ๆ โดยขยายตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ปีนี้จะนำร่องขยายไปตลาดจีน
ทั้งนี้ JSPได้รับใบจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในจีนตั้งแต่ปลายปี 67 ปัจจุบันเริ่มทำการนำสินค้าไปวางจำหน่ายแล้วบางส่วน ขณะที่สินค้าของ "สุภาพโอสถ" เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนอยู่แล้ว เนื่องจากปกติคนจีนที่มาท่องเที่ยวในไทยจะนิยมซื้อสมุนไพรไทยแปรรูปกลับไปเป็นของฝาก
นอกจากนี้ JSPจะเพิ่มงบการตลาดมากขึ้นถึงเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา โดยจะเน้นสร้างการรับรู้ในแบรนด์ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมขยายกลุ่มเป้าหมายจากเดิมที่เน้นกลุ่มผู้สูงวัยไปสู่วัยทำงานมากขึ้น ล่าสุด JSP ได้ทำการโฆษณาผ่านสื่อรถไฟฟ้า BTS ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างการรับรู้ไปยังคนรุ่นใหม่ รวมถึงการมีแผนจะใช้พรีเซนเตอร์ที่เป็นคนรุ่นใหม่เพิ่มเข้ามา
นายสิทธิชัย กล่าวว่า ในปี 67 JSPประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะในส่วนของสินค้า Own Brand ภายในตราสินค้า "สุภาพโอสถ" สามารถสร้างยอดขายได้อย่างน่าประทับใจ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ "น้ำมันงาดำรำข้าว" ที่ทำยอดขายเกิน 1 ล้านกระปุก ซึ่งมองว่าปัจจัยสนับสนุนให้เกิดความสำเร็จครั้งนี้มาจาก 3 ด้าน คือ
1. โครงสร้างประชากรที่เข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงวัย โดยในปี 2568 ประเทศไทยมีสัดส่วนผู้สูงวัยจำนวน 25% และคาดว่าภายในปี 73 สัดส่วนประชากรสูงวัยจะเพิ่มเป็น 30% จึงเป็นปัจจัยสนับสนุนให้สินค้าเพื่อการดูแลสุขภาพได้รับความนิยมมากขึ้น
2. การใช้เวลาที่ค่อนข้างนานในการเข้าถึงการรักษาทางการแพทย์ ส่งผลให้ประชาชนในกลุ่มวัยทำงานช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป หันมาจับจ่ายสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้นเพื่อป้องกันตนเองก่อนไม่ให้เจ็บป่วย
3. บริษัทได้เพิ่มงบประมาณด้านการตลาดมากขึ้น โดยเฉพาะการแต่งตั้ง"แม่อี๊ด" ดวงใจ หทัยกาญจน์ เป็นพรีเซนเตอร์น้ำมันงาดำรำข้าว ส่งผลให้เกิดการรับรู้ในกลุ่มผู้สูงวัยมากขึ้น