จากอ้อยหลักสิบบาทเปลี่ยนเป็นสุราหลักร้อย ‘กมธ.สุราชุมชน’ ลงพื้นที่ชัยภูมิ ศึกษาเหล้ากลั่นจากอ้อย เพิ่มมูลค่าหลายสิบเท่า

นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย ในฐานะ ประธานกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาร่าง พ.ร.บ ภาษีสรรพสามิต นำกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่โรงกลั่นสุรา ใน ต.ตาเนิน จ.ชัยภูมิ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 เพื่อเยี่ยมชมกรณีศึกษาการผลิตสุราชุมชน ที่ยกระดับผลผลิตทางการเกษตร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ

โดย ‘สุราขาว’ ที่นี่ถือได้ว่าเป็นสุรากลั่นจากน้ำอ้อยที่มีชื่อเสียงของประเทศ แปรรูปจากอ้อยที่เดิมเคยขายได้กิโลกรัมละ 2-3 บาท มาขายเป็นสุราขวดละ 600 บาท ซึ่งเป็นต้นทุนอ้อยต่อขวดเพียงไม่ถึง 10 บาทต่อขวด) เป็นตัวอย่างการต่อยอดสร้างรายได้ให้เกษตรกร และสามารถสร้างรายได้เพิ่มให้กับประเทศได้มากอย่างแน่นอน

ทั้งนี้นายเชิงชาย ชาลีรินทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย ในฐานะกรรมาธิการ ที่ร่วมคณะมาด้วยยังกล่าวว่า การส่งเสริมสุราชุมชน นอกจากจะสร้างรายได้เพิ่มให้ผู้ผลิตแล้ว ยังสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพให้คนในชุมชนได้ด้วย เปลี่ยนผู้ที่ที่มีรายได้จากการขายผลผลิตทางเกษตรทางตรง มาจ้างงานเพิ่มเพื่อเปลี่ยนเป็นขายสินค้าแปรรูป แล้วยังช่วยสื่อสารเสน่ห์ของแต่ละพื้นที่ เพื่อสร้างการรับรู้ในเวทีโลก ต่อยอดอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อเนื่องได้อีกด้วย

“การแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต ครั้งนี้ให้ความสำคัญกับการสร้างหลักประกันทางโอกาสของกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย ว่าจะสามารถเข้าถึงสิทธิในการเป็นผู้ผลิตสุราได้ และได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ซึ่งการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการเป็นไปอย่างราบรื่นและรวดเร็ว มั่นใจว่าจะสามารถตกผลึกร่วมกันได้ภายในช่วงปิดสมัยประชุมนี้ เพื่อส่งกลับเข้าพิจารณาในวาระ 2-3 ในสภาผู้แทนราษฎรช่วงเดือนธันวาคมนี้ต่อไป” นายชนินทร์ กล่าว