โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

พรรคประชาชน ชี้รถไฟฟ้า 20 บาท อุ้มนายทุน ชู 'ตั๋วร่วม' 8-45 บาท

PostToday

อัพเดต 13 ก.ค. เวลา 03.01 น. • เผยแพร่ 13 ก.ค. เวลา 09.47 น.

ในขณะที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้ประกาศนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ซึ่งมีกำหนดเริ่มในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 ประเด็นค่าโดยสารขนส่งสาธารณะก็ได้กลายเป็นหัวข้อถกเถียงสำคัญในสังคมไทย อย่างไรก็ตาม พรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนที่แตกต่างออกไป โดยเห็นด้วยว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าในปัจจุบันมีราคาสูงเกินไปและควรได้รับการปรับลดเพื่อบรรเทาภาระของประชาชน แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการของพรรคเพื่อไทยที่ใช้เงินงบประมาณจำนวนมากเพื่ออุดหนุนนายทุน บทความนี้จะเจาะลึกถึงข้อเสนอและวิสัยทัศน์ของพรรคประชาชนที่มุ่งแก้ไขปัญหานี้อย่างยั่งยืนภายใต้แนวคิด "ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน"

โดยได้แถลงการณ์ถึงจุดยืนพรรครายละเอียดดังนี้

เอาให้ชัด! จุดยืนพรรคประชาชน #ขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน ]

ตามที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยประกาศจะทำนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม 2568 นี้

พรรคประชาชนเห็นด้วยว่าค่าโดยสารรถไฟฟ้าในปัจจุบันมีราคาแพง ควรถูกปรับลดเพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน

แต่เราไม่เห็นด้วยกับวิธีการของพรรคเพื่อไทยที่ใช้เงินของรัฐ ซึ่งก็คือเงินภาษีประชาชนทั้งประเทศ ไปอุดหนุนให้นายทุนรถไฟฟ้าอย่างไร้ฐานคิดกล่าวคือรัฐบาลไม่ทราบต้นทุนของรถไฟฟ้าแต่ละสายด้วยซ้ำ แต่กลับตั้งราคาขึ้นมาลอยๆ ที่ 20 บาท

การทำแบบนี้ส่งผลให้ 1) รัฐต้องทุ่มเงินอุดหนุนจำนวนมาก ที่สุดท้ายเข้ากระเป๋านายทุนรถไฟฟ้าเต็มๆ 2) เป็นนโยบายที่คิดไม่ครบ ใช้งบประมาณจำนวนมากโดยละเลยผู้ใช้รถเมล์ซึ่งมีความยากลำบากและฐานรายได้ต่ำกว่าผู้ใช้รถไฟฟ้า 3) ขาดความยั่งยืน นโยบายนี้ต้องลุ้นแบบปีต่อปี เพราะไม่ได้ออกเป็นกฎหมาย ขึ้นอยู่กับรัฐบาลต่อไปจะทำต่อหรือไม่

ข้อเสนอพรรคประชาชน คือการทำค่าโดยสารร่วม 8-45 บาท รวมระบบรถไฟฟ้าและระบบรถเมล์ ผ่านร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม เสนอโดย สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ซึ่งตอนนี้ผ่าน กมธ. แล้ว กำลังรอเข้าสภาวาระที่ 2

ข้อดีของ “ค่าโดยสารร่วม” (Common Fare) คือผู้เดินทางไม่ต้องจ่าย ‘ค่าแรกเข้า’ ซ้ำซ้อน สามารถเดินทางข้ามสายหรือข้ามระบบ (เช่นจากรถไฟฟ้าไปรถเมล์) อย่างไร้รอยต่อ เช่น ขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียว 5 สถานี ต่อด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 5 สถานี ต่อด้วยรถเมล์จนถึงจุดหมาย ทั้งหมดนี้ราคาไม่เกิน 45 บาท

อีกสิ่งสำคัญที่จะเกิดขึ้นหากร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ของพรรคประชาชนผ่านสภาฯ คือจะมี “ตั๋วร่วม” (Common Ticket) หรือตั๋วใบเดียวที่ใช้ได้ทุกขนส่งสาธารณะเพื่อความสะดวก ประชาชนไม่ต้องลงทะเบียนผ่านแอปฯ ให้วุ่นวายยุ่งยาก เช่นเดียวกับกรุงลอนดอนที่มีบัตร Oyster สิงคโปร์มีบัตร EZ-Link ฮ่องกงมีบัตร Octopus

คำถามที่หลายคนอาจสงสัย…

ราคา 8-45 บาทมาจากไหน?

พรรคประชาชนคิดบนพื้นฐานสัญญาสัมปทานที่ผูกพันกับรัฐในปัจจุบันที่คิดเป็นเที่ยว (8-25 บาทสำหรับรถเมล์ และ 15-45 บาทสำหรับรถไฟฟ้า) แต่ช่วยคนที่ลำบากจริงๆ คือต้องเดินทางหลายเที่ยวก่อน โดยกำหนดเพดานสูงสุดที่ 45 บาท (เหมือนเดินทางเที่ยวเดียว แม้ต้องขึ้นรถไฟฟ้าหลายสาย ขึ้นรถเมล์หลายต่อ)

นโยบายพรรคประชาชน รัฐต้องอุดหนุนด้วยไหม?

รัฐอุดหนุนแต่ไม่เหมือนกับพรรคเพื่อไทย (ที่อุดหนุนตรงไปที่นายทุนใหญ่รถไฟฟ้า) โดยในนโยบายพรรคประชาชนคาดว่าใช้ 7,000 ล้านบาทต่อปี เงินอุดหนุนส่วนมากไปช่วยระบบรถเมล์ซึ่งฐานผู้ใช้มีรายได้น้อยกว่ารถไฟฟ้า และในส่วนรถไฟฟ้า ไม่เอื้อนายทุนเพราะอยู่บนฐานของสัมปทานเดิม (15-45 บาท) เพียงแต่ช่วยอุดค่าแรกเข้าซ้ำซ้อนเพราะถือเป็นความผิดของรัฐไทยในอดีตที่มองปัญหาเป็นสายๆ แบ่งเค้กเป็นรายๆ ทำให้ประชาชนเดือดร้อน

พรรคประชาชนออกแบบนโยบาย “ค่าโดยสารร่วม 8-45 บาท รวมระบบรถไฟฟ้าและระบบรถเมล์” เพื่อแก้ปัญหาที่โครงสร้าง คิดครบรอบด้านเพื่อประโยชน์ของผู้โดยสารทุกกลุ่มภายใต้แนวคิดขนส่งสาธารณะเพื่อทุกคน โดยจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดเพื่อช่วยคนที่เดือดร้อนจริงๆ มากหน่อย ไม่ใช่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าแบบปะผุ โปรยไปทั่วให้เหลือ 20 บาท แต่แท้จริงคือการประเคนผลประโยชน์ให้นายทุนรถไฟฟ้า ที่มีความสนิทสนมกับนายใหญ่ในรัฐบาล

เราเชื่อมั่นว่านโยบาย “ค่าโดยสารร่วม 8-45 บาทตลอดทาง” จะสร้างระบบขนส่งสาธารณะ ที่ไม่ได้มีแค่รถไฟฟ้า ให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก มีค่าโดยสารที่เป็นธรรม เงินทุกบาททุกสตางค์จากภาษีของประชาชนทั้งประเทศ ถูกใช้อย่างสมเหตุสมผลและมีความยั่งยืน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...