โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

แบรนด์ความงามไทยแรงไม่หยุด ‘ศรีจันทร์-มิซูมิ’ เพิ่มดีกรีรุก ตปท.

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 08 ก.ค. เวลา 11.31 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. เวลา 23.31 น.

แบรนด์ความงามสัญชาติไทยฮอตฮิตข้ามแดน MizuMi เชื่อภายใน 3 ปีโอกาสทองแบรนด์ไทยรุกตลาดโลก หลังอานิสงส์แบรนด์รุ่นพี่บุกเบิกตลาด-ซอฟต์พาวเวอร์ภาพยนตร์-ซีรีส์ จุดกระแสฮิต “สุวาอิ เมคุ” เทรนด์แต่งหน้าแบบไทยในญี่ปุ่น ด้านศรีจันทร์เดินหน้าผนึกพันธมิตรรุกอาเซียน-จีน ต่อยอดความสำเร็จญี่ปุ่น-ลาว

ถึงเวลาแบรนด์ไทยผงาด

นายจิรวุฒิ โรจน์รัตนวลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิวเทรี่ยม จำกัด ผู้บริหารเชนร้านสินค้าความงาม BEAUTRIUM ที่มีถึง 72 สาขาทั่วประเทศ ฉายภาพว่า ปัจจุบันแบรนด์สินค้าความงามสัญชาติไทยมาแรง ทั้งด้านความนิยมจากผู้บริโภค และจำนวนผู้เล่นในตลาด เห็นได้จากข้อมูลของสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ที่ระบุว่า ในตลาดเครื่องสำอางไทยนั้น เครื่องสำอางผลิตในประเทศมีสัดส่วนถึง 85% ส่วนเครื่องสำอางนำเข้ามีสัดส่วนเพียง 15% สอดคล้องกับพอร์ตสินค้าของบริษัทที่ใน 2,000 แบรนด์ มีแบรนด์ไทยวางจำหน่ายมากกว่า 500 แบรนด์ และสร้างยอดขายประมาณ 50% ของยอดขายรวม ตัวเลขเหล่านี้สะท้อนชัดถึงจำนวนผู้เล่น และดีมานด์สินค้าความงามแบรนด์ไทยของผู้บริโภค

ด้านนางวริษฐา สืบพันธ์วงษ์ ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท มิซึฮาดะ กรุ๊ป จำกัด ผู้ผลิตสินค้าความงามสัญชาติไทย แบรนด์ MizuMi และ Gentle Colors กล่าวว่า สาเหตุที่ปัจจุบันผู้บริโภคไทยหันมานิยมสินค้าความงามแบรนด์ไทยนั้น เนื่องจากคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาทำธุรกิจความงามนั้น มุ่งทำด้านแบรนดิ้งที่ชัดเจน โดยนอกจากคุณภาพสินค้าแล้ว คุณภาพของแพ็กเกจจิ้ง คุณภาพของการสื่อสารก็เทียบเท่าอินเตอร์แบรนด์ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ที่ต่างจากผู้เล่นยุคก่อน ๆ การสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น บวกกับราคาที่จับต้องได้ง่ายกว่า และการทำตลาดที่เข้าใจผู้บริโภคมากกว่า เป็นตัวจุดประกายให้ผู้บริโภคไทยหันมองแบรนด์ไทยเป็นตัวเลือกที่ดึงดูด อีกปัจจัยสำคัญ คือ เกิดอีโคซิสเต็มที่สนับสนุนแบรนด์ไทย เช่น เพจลงทุนแมน, ลงทุนเกิร์ล ซึ่งเน้นนำเสนอความพยายามและความสำเร็จของผู้ประกอบการ SMEs ไทย ทำให้เกิดกระแสเกิดความภูมิใจที่ใช้แบรนด์ไทย และได้ส่งเสริมผู้ประกอบการไทยขึ้นในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่

“เชื่อว่ากระแสนิยมแบรนด์ไทยที่ชัดเจนมาตั้งแต่ปี 2567 จะคงอยู่ต่อเนื่องไปในอนาคตแน่นอน ตราบเท่าที่ผู้เล่นในตลาดต่างพยายามรักษาคุณงามความดีของตัวเองไว้”

อีก 3 ปีโอกาสทองรุก ตปท.

นางวริษฐากล่าวต่อไปว่า ในปี 2568 นี้และอีก 3 ปีข้างหน้าเป็นจังหวะดีมากที่ไทยบิวตี้จะรุกตลาดโลก เนื่องจากบางแบรนด์ที่ออกไปทำตลาดต่างประเทศแล้ว แล้วทำได้ดีช่วยสร้างความประทับใจและความเชื่อมั่นต่อแบรนด์และสินค้าความงามไทยในสายตาผู้บริโภคต่างประเทศ โดยเฉพาะด้านราคาจับต้องได้ง่ายและคุณภาพเกินคาด เมื่อการยอมรับแบรนด์ไทยมากขึ้นทั้งในไทยและต่างประเทศ เท่ากับตลาดเปิด ผู้บริโภคต่างชาติยอมรับง่ายขึ้น โอกาสที่แบรนด์ไทยรายอื่น ๆ จะประสบความสำเร็จในต่างประเทศก็สูงขึ้นตามไปด้วย

สำหรับ MizuMi จะต่อยอดกระแสความพร้อมนี้ โดยภายในปี 2568 จะบุกตลาดต่างประเทศเพิ่มอีก 1 ประเทศ หลังปัจจุบันทำตลาดในเวียดนามอยู่ก่อนแล้ว และในปี 2569 จะพยายามขยายเพิ่มอีก 1 ประเทศด้วย

ไปในทิศทางเดียวกับ นายรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จํากัด ผู้ผลิตสินค้าความงามแบรนด์ “ศรีจันทร์” (SRICHAND) และ “ศศิ” (sasi) เปิดเผยว่า ขณะนี้ความนิยมแบรนด์สินค้าความงามสัญชาติไทยและความงามสไตล์ไทย หรือ Thai Beauty/T-Beauty ได้ก้าวข้ามพรมแดนไปยังหนึ่งในประเทศของผู้เล่นรายใหญ่ด้านความงามอย่าง ญี่ปุ่น แล้ว สะท้อนจากการเกิด “สุวาอิ เมคุ” เทรนด์การแต่งหน้าแบบไทยขึ้นในญี่ปุ่น โดยเป็นการรองพื้นแบบกึ่งแมตต์ ปัดขนคิ้วให้ตั้งขึ้นเล็กน้อย โชว์ขนคิ้วที่เรียงตัวเป็นธรรมชาติ ตาใช้อายแชโดว์โทนธรรมชาติ กรีดอายไลเนอร์และปัดขนตาล่างให้ยาว ปากใช้ลิปสติกเนื้อเซมิแมตต์ และปัดแก้มเป็นวงรี โดยใช้สีที่ดูสุขภาพดี

ปรากฏการณ์นี้เป็นผลจากซอฟต์พาวเวอร์ต่าง ๆ ทั้งภาพยนตร์ และละครซีรีส์ที่ไปแพร่ภาพในประเทศต่าง ๆ เช่นเดียวกับการทำตลาดของผู้ประกอบการแต่ละรายที่พยายามรุกตลาดต่างประเทศ นอกจากนี้ สภาพอากาศของไทยยังทำให้ผู้บริโภคต่างชาติเชื่อว่า เครื่องสำอางไทยใช้ได้ในหลายสภาพอากาศทั้งร้อนและฝนตก

“ศรีจันทร์” ปูพรมทั่วอาเซียน-จีน

นายรวิศกล่าวต่อไปว่า บริษัทเตรียมผลักดันแบรนด์ศรีจันทร์สู่โกลบอลแบรนด์ ด้วยการขยายตลาดต่างประเทศเพิ่ม ทั้งการส่งสินค้าเข้าจำหน่าย และสร้างการรับรู้กับผู้บริโภค โดยมุ่งประเทศในโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และจีนเป็นหลัก เนื่องจากวัฒนธรรมใกล้เคียงกับไทยและระยะทางขนส่งไม่ไกล โดยจะใช้โมเดลจับมือพันธมิตรมาเป็นดิสทริบิวเตอร์ เน้นคัดเลือกรายที่พร้อมร่วมมือกันสร้างแบรนด์ในระยะยาว มากกว่าเน้นยอดขายเพียงด้านเดียว ทั้งนี้ อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรในแต่ละประเทศ ซึ่งมีทั้งขั้นเจรจาและขั้นเริ่มทดลองทำตลาด เนื่องจากแต่ละประเทศต่างมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันทั้งด้านดีมานด์สินค้าและการรับสื่อ แม้แต่ลาวที่วัฒนธรรมใกล้กันแต่ยังรับสื่อแตกต่างกับไทย

ที่ผ่านมาบริษัทส่งสินค้ากลุ่มแป้งเข้าไปจำหน่ายในญี่ปุ่นผ่านช่องทางออฟไลน์มากกว่า 2,000 ร้านค้าทั่วประเทศ และ BANDAI ยักษ์บริษัทของเล่นสัญชาติญี่ปุ่นขอซื้อลิขสิทธิ์ตัวแป้งที่จำหน่ายในประเทศญี่ปุ่นทั้ง 6 แบบ เพื่อนำไปผลิตเป็นกาชาปอง เช่นเดียวกับตลาดลาว ซึ่งตั้งแต่ปี 2564-2567 ยอดขายเติบโตเฉลี่ย 112.5% ต่อปี โดยหมวดสกินแคร์ได้รับความนิยมสูง เช่น Moisture Burst Series, Sunscreen แป้งฝุ่นและรองพื้น จากการสร้างการรับรู้ผ่านการสนับสนุนกิจกรรมระดับประเทศ เช่น การประกวด Miss Universe Laos ในปี 2022-2024 จัดงานและสนับสนุน Laos Fashion Week 2024 ฯลฯ รวมถึงใช้ Local Brand Presenter คือ “Nethdao” อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังของลาว

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แบรนด์ความงามไทยแรงไม่หยุด ‘ศรีจันทร์-มิซูมิ’ เพิ่มดีกรีรุก ตปท.

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...