‘พิชัย’ เผย ‘G Token’ ทางเลือกการลงทุนของประชาชน งวดแรก 5 พันล้าน ภายใน 1-2 เดือนนี้
The Bangkok Insight
อัพเดต 13 พ.ค. เวลา 07.43 น. • เผยแพร่ 13 พ.ค. เวลา 07.30 น. • The Bangkok Insight"พิชัย" เผย "G Token" ทางเลือกการลงทุนของประชาชน รายได้น้อยซื้อได้ มีผลตอบแทน งวดแรก 5 พันล้าน ภายใน 1-2 เดือนนี้
นายพิชัย ชุณหวขิร รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแผนจะออกเครื่องมือระดมทุนแบบใหม่ของภาครัฐ คือ Thailand Digital Token เพื่อเป็นทางเลือกการออมให้กับประชาชน เพิ่มเติมจากรูปแบบเดิมที่มีการออก ‘พันธบัตรออมทรัพย์’
เพื่อให้สามารถเข้าถึงประชาชนรายย่อยได้มากขึ้น ให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงิน และสามารถลงทุนในจำนวนน้อยได้ โดยคาดว่าจะทดลองระบบด้วยการออกงวดแรกราว 5 พันล้านบาท บวก/ลบ ภายใน 1-2 เดือนนี้
เครื่องมือใหม่ของการระดมทุนภาครัฐ
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้รับทราบความคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาพิจารณาแล้วว่า โทเคนดังกล่าว จะไม่ได้นำไปใช้ในการชำระค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment) และจะทำในสัดส่วนที่เหมาะสม แต่รายย่อยจะสามารถนำโทเคนไปแลกเปลี่ยนมือได้ผ่านระบบ Exchange ที่มีอยู่ได้
ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 13 พฤษภาคม ได้มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอวิธีการกู้เงินตามกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะ เพื่อเปิดทางให้มีการออกโทเคนดิจิทัลของภาครัฐ (G Token) ตามมาตรา 10 วรรค 1 แห่ง พ.ร.บ.บริหารหนี้สาธารณะ เพื่อสร้างโอกาสและส่งเสริมการเข้าถึงการลงทุนที่มีคุณภาพของประชาชน
โดยผลักดันให้ G Token เป็นเครื่องมือใหม่ของการระดมทุนภาครัฐ เป็นการนำเทคโนโลยีการเงินาประยุกต์ใช้เพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มทางเลือกการลงทุนให้ประชาชน นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล และขับเคลื่อนประเทศไทยเข้าสู๋สังคมดิจิทัลในอนาคต
ช่องทางการออม-ลงทุน รายได้น้อยก็ซื้อได้
นายพิชัย อธิบายว่า สำนักบริหารหนี้ กระทรวงการคลัง มีหน้าที่จะในการออกตราสารให้กับสถาบันและประชาชน ในการระดมเงิน ถือเป็นส่วนหนึ่งในการระดมเงินในส่วนที่ขาดดุล โดยทั่วไปมีการออกพันธบัตรให้สถาบัน ไม่ว่าจะเป็นการออมออกพันธบัตรออมเงินให้กับประชาชน ซึ่งถือเป็นช่องทางเดิมๆ
ดังนั้นจึงมีแนวคิดว่า จะทำช่องทางใหม่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับนักลงทุน เลยมีการออกเครื่องมือการระดมทุนให้กับรัฐบาล โดยเป็น ’ไทยแลนด์ดิจิทัลโทเคน‘ คือผู้ถือหน่วย หรือเครื่องมือการลงทุน จะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการลงทุนด้วยการฝากเงิน และถือเป็นส่วนหนึ่งของหนี้สาธารณะ ไม่ได้เป็นการพิมพ์เงินใหม่แต่อย่างใด และไม่ได้เป็นประเภทแบบคริปโต ตามที่หลายฝ่ายเข้าใจ โดยข้อดีประชาชนสามารถที่จะลงทุนได้แม้จะลงทุนน้อย
มีจำนวนเงินน้อยก็สามารถลงทุนได้ เมื่ออยู่ในรูปดิจิทัล ซึ่งสามารถออกมาเป็นเศษส่วน ในการที่จะลงทุนน้อย 1,000 บาทก็ได้ 100 บาท ก็ยังได้หากจะลงทุน ขึ้นอยู่กับทศนิยม ประโยชน์ที่ได้ สามารถจะทำให้เราเข้าถึงกลุ่มที่มีความสามารถในการลงทุน ทำให้ขยายฐานของการลงทุน มีทางเลือกที่มากขึ้นให้กับประชาชน
ข้อสำคัญอีกข้อหนึ่งคือ เป็นการวางรากฐานทางนวัตกรรม ซึ่งเป็นพื้นฐานของดิจิทัลอีโคโนมี ซึ่งเป็นเป็นตัวแรกที่ได้วางพื้นฐานตัวนี้ให้ประชาชน ดังนั้น ขายเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลชนิดหนึ่ง วันข้างหน้าเมื่อมีเครื่องมือลงทุน สามารถเข้าไปเทรดในระบบดิจิทัลเอ็กเชนได้ ซึ่งมีระบบรองรับอยู่แล้วได้ผลตอบแทนที่มั่นคงและสม่ำเสมอ
เริ่มภายใน 1-2 เดือนนี้ วงเงิน 5 พันล้านบาท
ส่วนข้อสังเกตจากธนาคารแห่งประเทศไทย นายพิชัยกล่าวว่า กระทรวงการคลังก็รับมาพิจารณาทั้งหมด โทเคนดังกล่าวจะไม่ได้นำไปใช้ในการชำระค่าสินค้าและบริการ (Means of Payment) และจะทำในสัดส่วนที่เหมาะสม โดยครั้งแรกเป็นการทดลอง เพื่อความมั่นคง ว่ามีความปลอดภัยใช้ได้ดี
ดังนั้น การลงทุนครั้งนี้ จึงอยู่ในระดับต่ำ จากเดิมที่เคยออกพันธบัตร อยู่ในระดับ 30,000- 40,000 ล้านบาท แต่ครั้งนี้ จะออกแค่ 5,000 ล้านบาท บวกลบ ซึ่งถือเป็นการทดลองระบบ แม้ระบบจะมีอยู่แล้วของตลาดเพราะมีการเทรดดิจิทัลแอคเซส อยู่แล้ว และย้ำข้อดีรายย่อย ถือได้ แลกเปลี่ยนได้ มีผลตอบแทนได้ ระบบควบคุมดี
ด้าน นายพชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ กล่าวว่า จะออกได้ภายในไม่เกิน 2 เดือนนี้ โดยรายละเอียด และการดำเนินการทุกอย่าง อยู่ภายใต้พระราชกำหนด สินทรัพย์ดิจิทัลปัจจุบันมีผู้ประกอบการในประเทศไทย 7-8 ราย ส่วนช่องทางการซื้อในแง่ประชาชนทั่วไปซื้อเหมือนพันธบัตร คือผ่านธนาคาร หรือบริษัทหลักทรัพย์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการตาม พ.ร.ก.สินทรัพย์ดิจิทัล
อ่านข่่าวเพิ่มเติม
- เฮ! กยศ. คืนเงินผู้กู้ชำระเกินแล้ว 2.5 พันบัญชี จาก 2.8 แสนบัญชี เป็นเงิน 73 ล้านบาท
- ผู้กู้เฮ! กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงิน เดือนพ.ค.-มิ.ย. 2568 ทำอย่างไร? เช็กเลย
- ครม.เคาะงบกลาง 2.8 พันล้าน ให้กยศ.ปล่อยกู้ ภาคเรียนแรกปี 2568 เดือนเม.ย.นี้
ติดตามเราได้ที่