ไทยกดดันหนัก! หลังเจรจาสหรัฐถูกเลื่อนไม่มีกำหนด-จีนประกาศมาตรการตอบโต้ จับตากนง.หั่นดอกเบี้ย

ไทยกดดันหนัก! หลังเจรจาสหรัฐถูกเลื่อนไม่มีกำหนด-จีนประกาศมาตรการตอบโต้ จับตากนง.หั่นดอกเบี้ย

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -22 เม.ย. 68 10:06 น.

โบรกฯ ประเมินหุ้นไทยมีโอกาสปรับลงต่อเนื่อง หลังการเจรจาการค้าไทยกับสหรัฐฯ ถูกเลื่อนการเจรจาไม่มีกำหนด ขณะที่การเจรจาการค้าโลกลำบากขึ้น หลังจู่ประกาศนโยบายตอบโต้เช่นกัน พร้อมจับตา กนง.มีโอกาสหั่นดอกเบี้ยในการประชุมรอบ 30 เม.ย.นี้ หลังเศรษฐกิจเผชิญความเสี่ยงมากขึ้น

ไทยเผชิญความไม่แน่นอน หลังสหรัฐฯเลื่อนเจรจาการค้า

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า ไทยถูกเลื่อนการเจรจากับสหรัฐฯจากกำหนดการเดิมวันที่ 23 เม.ย. ออกไป โดยยังไม่ได้ระบุวันใหม่ ทำให้ความคาดหวังในช่วงก่อนหน้าเกี่ยวกับพัฒนาการบวกจากการเจรจาการค้าเพื่อลดอัตราภาษีตอบโต้ลงจาก 36% เริ่มไม่แน่นอน

จึงประเมินว่าการเคลื่อนไหวของ SET จะชะลอตัวลงหลังรีบาวด์ได้ค่อนข้างแรงพอสมควรในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังต้องติดตามการทยอยประกาศกำไร 1Q25 ฝั่ง Real Sector หลังกลุ่มธนาคารประกาศออกมาครบแล้ว แม้จะดีกว่าคาดแต่โทนระยะถัดไปยังมอง Conservative ส่วนใหญ่ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่ไม่แข็งแรงและเปิดช่องให้กนง.อาจลดดอกเบี้ยอีก 1-2 ครั้งปีนี้ เราจึงมองว่าหุ้นกลุ่ม Consumer Staple จะยังปรับตัวได้ดีกว่าตลาดต่อเนื่อง

หุ้นไทยถูกกดัน หลังการเจรจาการค้าถูกเลื่อน

บล.เคจีไอ มองตลาดหุ้นไทยมีโอกาสลงต่อ หลังกำหนดเจรจาการค้าถูกเลื่อนออกไป ท่ามกลางการที่ผู้บริหารของธนาคารหลักๆ ให้แนวโน้ม GDP ไทยปี 2568 อ่อนแอ จากแรงกดดันของสงครามการค้า รวมถึงประเด็นเกี่ยวกับการเลื่อนเจรจาการค้า ไทย-สหรัฐฯ และยังไม่มีกำหนดวันเจรจาใหม่ ขณะที่ทางการจีนแถลงว่าจะตอบโต้ประเทศที่ลดการซื้อสินค้าจากจีน เพื่อไปนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มเติม

จับตาไทยเร่งลดดอกเบี้ยรองรับความเสี่ยง

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ มองการเจรจาการค้าโลกยากขึ้น หลังจีนขู่ประเทศที่กำลังเจรจาสหรัฐ หากข้อตกลงกระทบจีน จะถูกนโยบายโต้ตอบ ทำให้ประเทศที่อยู่ในกลุ่มที่ได้ดุลการค้าเพิ่มจากยุค Trump 1.0 สูง (สะท้อนภาพการย้ายฐานจากจีน) อาทิ เม็กซิโก เวียดนาม เกาหลีใต้ อินเดีย ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงหลัก ขณะที่ไทยเป็นกลุ่มที่ได้ผลกระทบเช่นกัน ระยะสั้นติดตามท่าทีจีนต่ออินเดีย หลังนำร่องขึ้นภาษีนำเข้าเหล็กจากจีน 12%

นอกจากนี้การเจรจาการค้าไทยกับสหรัฐเลื่อนออกไปชั่วคราว จากเดิม 23 เม.ย. แต่การเจรจาจะยังคงเกิดขึ้น

ความเสี่ยงภายนอกที่สูง ทำให้โอกาสการลดดอกเบี้ยไทยเร่งขึ้น ล่าสุดต่างชาติซื้อพันธบัตร 6 วันติด ทำให้ Current Equity Risk Premium ยังสูงและดึงดูดการลงทุนระยะกลาง-ยาวมากๆ ที่ 5.28% > Avg. + 2 S.D. ปัจจัยดังกล่าวน่าจะประคอง SET แกว่ง Sideways

วันนี้ตลาดจะกลับมาเน้น กลุ่ม Domestic ที่จำหน่ายสินค้า+บริการจำเป็น อาทิ ร.พ. สื่อสาร ค้าปลีก ผสาน กลุ่มได้ประโยชน์ดอกเบี้ยขาลง อาทิ โรงไฟฟ้า เช่าซื้อ อสังหา หนี้สูง

ติดตามไทยต่อรองผลประโยชน์กับสหรัฐฯ

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุว่า แรงกดดันของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) หลังทรัมป์กดดันอาจปลดเจอโรม พาวเวลล์ ออกจากต าแหน่ง ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมมั่นของนักลงทุน เกิดการเทขายสินทรัพย์สหรัฐฯ เข้าลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย เช่นทอง (ซึ่งปรับตัวขึ้นแตะระดับ 3,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์) ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ สะท้อนค่าเงินอ่อนลงแตะ 98 และ US Bond Yield ปรับตัวขึ้นอีกครั้ง

การเจรจาระหว่างไทย-สหรัฐฯ เพื่อเจรจาหาทางออกจากกำแพงภาษีสหรัฐฯ ถูกเลื่อนออกไป(เดิมนัดคุย 23 เม.ย.) เนื่องจาก USTR ยังไม่แจ้งกำหนดการให้เข้าพบ ประเด็นนี้ยังต้องเฝ้าติดตาม รอความชัดเจน USTR จะให้ไทยเข้าพบเมื่อใด ผลประโยชน์ของไทยจากการต่อรอง โดยคาดว่าไทยจะเสนอซื้อ LNG 1 ล้านตันใน 5 ปี และก๊าซอีเทน 4 แสนตันภายใน 4 ปี และอาจพิจราณานำเข้าสินค้าเกษตรอื่นๆ ด้วย

แนะลงทุนอย่างระมัดระวัง หลังเผชิญความไม่แน่นอนการค้า

บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่า แหล่งข่าวทำเนียบรัฐบาลเผยทีมไทยที่จะเดินทางไปเจรจาเศรษฐกิจและการค้ากับสหรัฐฯ ในวันที่ 23 เม.ย. นี้ถูกเลื่อนออกไป โดยกำหนดการใหม่จะต้องรอการตอบรับจากผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) อีกครั้ง

ช่วงสั้นมอง SET ยังแกว่งตัวผันผวนและการซื้อขายจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนยังกังวลความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการภาษีศุลกากรของสหรัฐที่มีต่อประเทศคู่ค้า รวมทั้งยังต้องติดตามความคืบหน้าการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งหากสถานการณ์ยังยืดเยื้อและทวีความรุนแรงขึ้นจะส่งผลกดดันต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกและบรรยากาศการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก ขณะที่ในประเทศมองยังไร้ปัจจัยบวกใหม่และอยู่ระหว่างจับตาการเข้าเจรจาทางการค้าของรัฐบาลไทยกับสหรัฐ ซึ่งคาดข้อสรุปอาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือน ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงคงแนะนำให้ “Selective Buy”

เรียบเรียง โดย จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช
อีเมล์. charuwan@efinancethai.comอนุมัติ โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
ดูข่าวต้นฉบับ