ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (11 เม.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น โดยที่ "ดาวโจนส์" เพิ่มขึ้น 619.05 จุด แรงหนุนจากกลุ่มธนาคารขนาดใหญ่ ที่เริ่มรายงานผลประกอบการไตรมาสแรก และนักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การค้า
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 40,212.71 จุด เพิ่มขึ้น 619.05 จุด หรือ +1.56% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 5,363.36 จุด เพิ่มขึ้น 95.31 จุด หรือ +1.81% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 16,724.46 จุด เพิ่มขึ้น 337.15 จุด หรือ +2.06%
ดัชนีหุ้นหลักทั้ง 3 ตัวปิดตลาดพุ่งขึ้นอย่างมาก หลัง ซูซาน คอลลินส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาบอสตันยืนยันว่า หากจำเป็น เฟดก็พร้อมจะเข้าแทรกแซงเพื่อให้ตลาดการเงินยังคงทำงานได้อย่างราบรื่น
นอกจากการยืนยันของคอลลินส์แล้ว จอห์น วิลเลียมส์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก ยังระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐ ไม่ได้เข้าสู่ภาวะเงินเฟ้อสูง และการเติบโตต่ำ (stagflation) และเฟดจะดำเนินการเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะดังกล่าว
หุ้นทั้ง 11 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักในดัชนีเอสแอนด์พี 500 ต่างก็ปิดในแดนบวก โดยกลุ่มวัสดุพื้นฐาน และกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นมากที่สุดเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์
สำหรับการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกเริ่มต้นด้วยสัญญาณที่ดี โดยเจพีมอร์แกน เชส มอร์แกน สแตนลีย์ และเวลส์ ฟาร์โก ต่างรายงานผลกำไรดีกว่าคาด
อย่างไรก็ตาม คำเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจถดถอย จากข้อพิพาทด้านการค้านั้น ทำให้นักลงทุนบางส่วนยังลังเลต่อแนวโน้มของกลุ่มธนาคาร
อ่านข่าวเพิ่มเติม
เดือดหนัก! จีนฟาดกลับอีกรอบ ขึ้นภาษีนำเข้า 125% ต่อสินค้าสหรัฐ
'เจโทร' ชี้ 'ภาษีทรัมป์' เสี่ยงทำ 'จีดีพีโลก' หายกว่า 7 แสนล้านดอลล์
ติดตามเราได้ที่
เว็บไซต์: https://www.thebangkokinsight.com/
Facebook: https://www.facebook.com/TheBangkokInsight
X:https://twitter.com/BangkokInsight
Instagram: https://www.instagram.com/thebangkokinsight/
Youtube:https://www.youtube.com/channel/UCYmFfMznVRzgh5ntwCz2Yxg