โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

Vanus Couture แบรนด์ห้องเสื้อชั้นนำระดับประเทศ ที่สะท้อนความงดงามที่แตกต่างของเจ้าสาว เพื่อความทรงจำแสนพิเศษในวันสำคัญของชีวิต

HOWE MAGAZINE

อัพเดต 20 ก.พ. เวลา 09.03 น. • เผยแพร่ 20 ก.พ. เวลา 02.03 น. • https://howemagazine.com/

เบื้องหลังชุดแต่งงานอันโก้หรู ที่สะท้อนเอกลักษณ์ความงดงามของวัฒนธรรมไทยในแบบร่วมสมัย คือแรงบันดาลใจและความมุ่งมั่นของ ดร.สรรค์ สุดเกตุ เจ้าของแบรนด์ห้องเสื้อวนัช กูตูร์ และ ณภัทร์ นิยมแย้ม ผู้ร่วมก่อตั้ง ที่สร้างมาตรฐานสูงลิบ! ให้กับวงการชุดวิวาห์ จนก้าวสู่การเป็นแบรนด์ห้องเสื้อ ที่ได้รับความไว้วางใจจากเหล่าคนดังและเจ้าสาวทั่วประเทศ พร้อมก้าวไกลต่อไปด้วยวิสัยทัศน์ในการยกระดับขับเคลื่อนสู่สากล อะไรคือเคล็ดลับที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จ พบคำตอบนี้ได้จากบทสัมภาษณ์ ที่จะเผยแง่มุมในการสร้างสรรค์ผลงานน่าจับใจ ของสองนักออกแบบที่อยู่เบื้องหลังความงามสง่านี้

HOWE : สิ่งที่เป็นแรงบันดาลใจในการก่อตั้งห้องเสื้อวนัช กูตูร์

ณภัทร์: “มาจากการที่เราอยู่ในวงการเวดดิ้งมากกว่า 20 ปี เห็นพัฒนาการจากเดิม เริ่มมีการเป็นเน้นพรี-เวดดิ้งเป็นหลัก แต่ ณ ปัจจุบันลูกค้ามักค้นหาชุดแต่งงานที่เป็นแบบคัสตอม-เมด เลือกใช้วัตถุดิบที่ดีมากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าสาวแต่ละท่าน ตรงนี้จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เราก่อตั้ง ห้องเสื้อวนัช กูตูร์ ขึ้นเพื่อทำชุดตอบโจทย์เจ้าสาวทุกท่าน”

HOWE : เอกลักษณ์ที่ทำให้ห้องเสื้อวนัช กูตูร์ โดดเด่นในวงการแฟชั่นชุดแต่งงาน

ดร.สรรค์ : “วนัช กูตูร์ มีจุดเด่นคือชุดไทย โดยการนำผ้าไทยมาสร้างสรรค์ทำให้เกิดเป็นผลงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มเจ้าสาว หรือคนที่ต้องการชุดไทยสำหรับสวมใส่ไปทำบุญ จนเกิดเป็นภาพที่ออกมาดูงดงาม ซึ่งความงามของชุดไทย ก่อกำเนิดมาจากการรวบรวมในลักษณะของรูปแบบชุดต่างๆ ตั้งแต่สมัยอดีต ไม่ว่าจะเป็นยุคสุโขทัย อยุธยา นำมาทำเป็นชุดไทยพระราชนิยม ซึ่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ท่านทรงริเริ่มขึ้น จนเกิดเป็นอัตลักษณ์ของชาติ แล้วเราก็นำชุดไทยเหล่านั้นเข้ามาร่วมกับวัฒนธรรมการแต่งงาน ทำให้ผลงานตรงนี้ ได้ต่อยอดขึ้นมา สามารถมาใช้ได้จริงกับรูปแบบวิถีของคนไทย”

HOWE : การรักษาความงามดั้งเดิมของชุดไทย ควบคู่ไปกับการสอดผสานความร่วมสมัย สร้างความท้าทายอย่างไรบ้าง

ณภัทร์ : “สิ่งที่ท้าทายนอกจากเรื่องงานดีไซน์ ซึ่งเราจะต้องนำความร่วมสมัย ณ ปัจจุบันมาประยุกต์ใช้กับชุดไทยดั้งเดิม ให้ มีความทันสมัยมากขึ้น นอกจากนี้ความท้าทายยังอยู่ตรงการใช้ผ้าไหมไทย ซึ่งถือเป็นอัตลักษณ์สำคัญจากชาวบ้านที่ทอผ้าไหมขึ้นมา เป็นผืนผ้าที่มีเอกลักษณ์ของตัวเองและมีราคาที่ค่อนข้างสูง จึงท้าทายในการที่เราจะยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของชุดไทยแบบพระราชนิยมให้คงอยู่”

HOWE : เคยได้รับโจทย์ที่ยากที่สุดแบบไหน

ณภัทร์: “น่าจะเป็นช่วงโควิดที่ผ่านมา เนื่องจากมีการล็อกดาวน์ ทำให้การทำงานกับเจ้าสาวในการเจอกันตัวต่อตัวยากขึ้น การทำงานมีข้อจำกัดว่าเราจะต้องทำชุดเจ้าสาวในช่วงเวลาที่กำหนด ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก ๆ แต่เราก็ผ่านมันมาได้ด้วยดี”

ดร.สรรค์ : “อีกหนึ่งโจทย์ยากและมีความแปลก คือการได้ร่วมงานกับตุ๊กตาแบร์บริค ทางประเทศญี่ปุ่นเข้ามาชวนคอนแลบกัน นับว่ามีความยากพอสมควร เพราะสเกลของตุ๊กตาไม่ได้เหมือนกับมนุษย์ซะทีเดียว ดังนั้นเราต้องปรับรูปแบบให้อยู่บนตัวของเขาให้ได้ แล้วตุ๊กตาก็ไม่ได้ความนุ่ม ตรงนี้จะทำยังไงให้ชุดดูสวยงามอยู่ในความแข็งของตัวเขา ก็เป็นสิ่งท้าทายสำหรับเรา ที่จะต้องทำให้คนอื่นสามารถจับต้องได้ด้วย”

ณภัทร์: “เราร่วมทำตุ๊กตาแบร์บริคเมื่อปีที่แล้ว ทางญี่ปุ่นเขามีการเลือกคอนแลบกับแบรนด์ทั่วโลก ให้ทำชุดหรือมีการเพ้นต์ลวดลายต่าง ๆ ลงบนตุ๊กตาแบร์บริค ซึ่งวนัช กูตูร์ เป็นแบรนด์เดียวที่ได้ทำชุดไทย เวดดิ้ง เดรส บนหุ่นตุ๊กตานี้ แล้วมีการนำไปจัดแสดงโชว์ทั่วโลก ส่วนแพลนปีนี้อยากให้รอติดตาม เพราะเรากำลังคุยว่าจะทำวางจำหน่ายกันอยู่ครับ”

ดร.สรรค์ : “ต้องมาคุยและสรุปกันอีกที ว่าแบร์บริครุ่นลิมิเต็ดที่ทำร่วมกับวนัช กูตูร์ จะผลิตออกมาเป็นหลักร้อยหรือหลักพัน ซึ่งจะมีการจำหน่ายทั่วโลก ก็ถือว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์อีกอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ผลงานของคนไทย ได้เผยแพร่สู่สายตาชาวต่างชาติ”

HOWE : วนัช กูตูร์มีแนวทางการทำงานอย่างไร ในช่วงฤดูแต่งงานที่คึกคัก

ดร.สรรค์ : “จริง ๆ แล้วชุดแต่งงานขึ้นอยู่กับความฝันที่ลูกค้าต้องการเป็นหลัก แน่นอนโอกาสที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าอยากจะได้เพิ่มเติม ในช่วงที่ใกล้ถึงวันงานแต่งก็ย่อมมีอยู่แล้ว แต่ทางเราเองก็ต้องมีไทม์ไลน์ที่ค่อนข้างชัดเจน และมีหลักการความเป็นไปได้แจ้งให้กับลูกค้ารับทราบก่อน ว่าสิ่งที่เรากำลังทำ โอกาสเป็นไปได้แค่ไหนในเวลาจำกัด ตรงนี้ทำให้ผลงานของเราออกมาเพอร์เฟกต์เต็มรูปแบบ ลูกค้าเองก็มั่นใจที่จะสวมใส่ในวันงานสำคัญของเขา”

ณภัทร์: “ทุกปีเราจะทราบอยู่แล้วว่าเดือนไหนเป็นเดือนมหาฤกษ์ เป็นช่วงที่มีการจัดงานมงคลมากที่สุดประจำปี ด้วยความที่เราทำแบรนด์มากว่า 10 ปี เราจึงมีการแพลนงานกันล่วงหน้าและเตรียมการรับมือไว้ ไม่เคยมีประเด็นเรื่องการรับมือไม่ไหวอยู่แล้วครับ”

HOWE : เทรนด์แฟชั่นชุดแต่งงานที่คาดว่าจะมาแรงในปีนี้

ดร.สรรค์ : “สำหรับห้องเสื้อวนัช กูตูร์ หลังได้รับฟีดแบคมาจากกลุ่มลูกค้า ที่เข้ามาจองกันในช่วงแต่ปลายปีที่ผ่านมา จนถึงต้นปีนี้ กระแสมาแรงที่สุดตอนนี้ต้องยอมรับเลยว่าเป็น ชุดแต่งงานแนววินเทจ ลักษณะของการใช้ลูกไม้ฝรั่งเศสนำมาตัดเย็บ รวมถึงรูปแบบของชุดที่มีความเข้ารูป ไม่ว่าจะเป็นทรงเมอร์เมด หางปลา หรือทรงทรัมเป็ต จะเห็นได้ว่าเจ้าสาวยุคใหม่มีความใส่ใจในการรักษาหุ่นตัวเองค่อนข้างดี เหมาะสมกับรูปแบบชุดที่เป็นแนวเข้ารูป เน้นโชว์สัดส่วนที่สวยงาม รวมถึงบรรยากาศของชุดก็จะมีความเป็นซีทรูมากขึ้น ไม่ทึบเหมือนในอดีตที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นความเป็นสมัยใหม่ และมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น”

HOWE : ยุคนี้แฟชั่นชุดวิวาห์ของดีไซเนอร์ไทย มีศักยภาพที่จะเติบโตในระดับโลกแค่ไหน

ดร.สรรค์ : “การที่จะทำให้แบรนด์ไทยก้าวไปแข่งขันในระดับโลก ถ้าเป็นในเรื่องของปริมาณอาจจะยังสู้ไม่ได้ เพราะฐานการผลิตหรือแรงงานต่าง ๆ หรือค่าจ้างอัตราต่าง ๆ ก็ยังถือว่าค่อนข้างสูงกว่าประเทศอื่นที่เป็นคู่แข่ง แต่แนวทางในการที่จะแข่งขันหรือพัฒนาได้ ต้องเน้นในเรื่องของคุณภาพ รวมถึงอัตลักษณ์และรูปแบบที่มีความเป็นไทย ผสมผสานกับความเป็นเวสเทิร์น จะเป็นจุดแข็งทำให้กลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการในตลาดนี้ เข้ามาซื้อหรืออุดหนุนผลงานมากขึ้น ดีไซเนอร์ชุดแต่งงานจึงต้องคิดและทบทวน ว่าผลงานของตัวเองที่กำลังทำอยู่ หรือชิ้นงานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นชุดเจ้าสาวหรือชุดเจ้าบ่าวมองแล้วมีความเป็นยูนีกขนาดไหน สามารถทำให้คนอื่นเข้าใจและเข้าถึงผลงานตัวเองได้ เป็นสิ่งที่เราต้องตระหนักถึงเป็นอย่างดี”

HOWE : คุณคิดว่าชุดไทยมีบทบาทอย่างไรในฐานะซอฟต์พาวเวอร์

ดร.สรรค์ : “นอกจากศิลปินดารา คนดังในประเทศไทย ก็มีคนดังระดับโลกที่สนใจชุดไทย เลือกสวมใส่ชุดของเราหลายท่าน เช่น คุณฟ่านปิงปิง ตอนนั้นไดเร็กเข้ามาถึงแบรนด์เรา มีการติดต่อประสานงานจากทีมงาน เพื่อจะสวมใส่ชุดของเราเพื่อมาโชว์ตัวในช่วงเทศกาลมหาสงกรานต์ของไทย รวมถึงศิลปินจากประเทศเกาหลีที่เป็นศิลปินชาย ก็ติดต่อเข้ามาอยากใส่เป็นผ้าไหมไทย แต่มีการผสานความเป็นแฟชั่นเข้าไปในชุดไทยด้วย ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้ชาวต่างชาติได้เห็น รวมถึงมีน้องลิซ่าซึ่งเป็นคนไทยโด่งดังในระดับโลก ที่มักมีภาพสวมชุดผ้าไทย สิ่งเหล่านี้ถือเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ที่ทำให้ต่างชาติได้เห็นชุดไทยว่ามีความน่าสนใจอย่างไร และมีแนวโน้มที่เขาจะให้ความสนใจและซื้อมาใส่มากขึ้น”

HOWE : อยากให้คนจดจำห้องเสื้อวนัช กูตูร์ในแบบใด

ดร.สรรค์ : “สำหรับภาพจำของวนัช กูตูร์ ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาถือว่าเราเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่สร้างสรรค์ผลงานการทำชุดไทยออกมาสำหรับการไปทำบุญที่วัด หรือการเข้าเฝ้าฯ ในพระราชพิธีต่าง ๆ ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่จดจำของบุคคลทั่วไป ว่านอกจากชุดแต่งงาน ถ้าเป็นชุดไทยเข้าวัดหรือไปทำบุญ ก็จะนึกถึงแบรนด์ของวนัช กูตูร์ รวมถึงรูปแบบหรือสีสันที่มีความแตกต่าง ชุดของเราจะเป็นลักษณะของชุดไทยที่มีสีแนวพาสเทล จัดเป็นสีที่ดูมีความเป็นอ่อนเยาว์ ใส่แล้วดูไม่เป็นผู้ใหญ่มาก มองแล้วรู้สึกสบายตา รวมถึงเรายังนำเอาเครื่องประดับสมัยใหม่กับ สมัยดั้งเดิมแบบโบราณมา มิกซ์ แอนด์ แมตช์ ทำให้เวลาใส่ชุดไทยแล้วรู้สึกถึงความเป็นไทย แต่ก็ยังมีความเป็นสมัยใหม่ร่วมอยู่ด้วยกัน ตรงนี้ก็เป็นสิ่งที่ทำให้เจ้าสาวตราตรึง และอยู่ในหัวใจของเหล่าบรรดาเจ้าสาวในทุกวันนี้”

HOWE : มีแนวทางรับมือในช่วงฤดูแต่งงานที่คึกคักอย่างไร

ดร.สรรค์ : “ถ้าให้ยกตัวอย่างช่วงพีคที่สุด อย่างเช่น ในปี 2019 เดือนพฤศจิกายนปีนั้นเรามีลูกค้าทั้งหมด 400 คู่! ซึ่งปกติจะเป็นเดือนที่พีคที่สุดของการจัดงานแต่งงานอยู่แล้ว เรามีการเตรียมความพร้อมและรับมือได้ดีเป็นอย่างมาก เพราะทำนายไว้แล้วว่าในช่วงเวลานั้นจะมีลูกค้าจำนวนมาก ต้องมีการแพลนงาน ทั้งการทำชุดหรือแก้ไขชุด ที่เป็นลักษณะของงานเช่าหรือเช่าตัด จะต้องเสร็จก่อนล่วงหน้าประมาณหนึ่งเดือน หลังจากนั้นจะมีการรอฟิตติ้งครั้งสุดท้าย ช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่วุ่นวายพอสมควร เพราะเจ้าสาวเกือบทุกคนมีความต้องการเพิ่มขึ้น เราเองต้องมีการยืดอายุในการนำชุดไปใช้ โดยให้เข้ามารับก่อนล่วงหน้า เพราะต้องค่อย ๆ ระบายของออกไป ก็จะส่งชุดให้ลูกค้าก่อนประมาณ 10 วัน ดังนั้นความผิดพลาดจึงไม่เกิดขึ้นเลย ตรงนี้ถือเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เราสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในปีอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นครับ”

HOWE : ขอคำแนะนำถึงว่าที่เจ้าสาว ควรเริ่มต้นอย่างไรในการหาสไตล์ที่ใช่สำหรับตัวเอง

ณภัทร์: “เนื่องจากเรามีทีมงานมากประสบการณ์กว่า 10 ปี ในการให้คำแนะนำเจ้าสาว ซึ่งเจ้าสาวทุกท่านถ้ารู้สึกกังวลใจ สามารถติดต่อเราเข้ามาเพื่อรับคำปรึกษา รวมทั้งลองชุดได้ ซึ่งเราจะมีผู้เชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด แต่ถ้าจะให้แนะนำขั้นต้นแบบง่าย ๆ เลยก็คือ เราควรค้นหาตัวเองก่อนว่าเราชอบแบบไหน ลองดูจาก Instagram หรือใน Pinterest ก็ได้ เลือกชุดที่เราชอบประมาณ 3-5 ชุด ที่เห็นแล้วใฝ่ฝันอยากใส่ชุดแบบนี้ แล้วก็นำภาพเหล่านั้นมาปรึกษากับทางห้องเสื้อวนัช กูตูร์ แล้วเราจะช่วยคัสตอมไมซ์ ปรับเปลี่ยนเพื่อตรงกับความต้องการ และเข้ากับตัวคุณให้ได้มากที่สุด”

ดร.สรรค์ : “ชุดแต่งงานเป็นชุดที่มีความหลากหลายมาก อย่างสีขาวเองก็มีหลายเฉด รวมถึงตอนนี้สีนู้ดก็มาแรง เพราะสีผิวของมนุษย์มีความแตกต่างกัน ดังนั้นการจะใส่ชุดให้แมตช์กับตัวเอง เป็นเรื่องของการเลือกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ทรวดทรง ของชุด สีของชุด ล้วนส่งผลให้ชุดนั้น ๆ มีความเหมาะสม พอดี และงดงามสำหรับเจ้าสาวท่านนั้น ๆ ที่มีความแตกต่างกัน”

https://youtu.be/p-mFCRs9D1E

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...