สงกรานต์ปีนี้อาจมีเงินหายไปถึง 6,000 ล้านบาท
สงกรานต์ปีนี้อาจมีเงินหายไปถึง 6,000 ล้านบาท
สงกรานต์ หนึ่งในเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ที่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเฝ้ารอ ทว่าจากหลายเหตุการณ์ในรอบเดือนที่ผ่านมา และจากข้อมูลนักท่องเที่ยวและบทวิเคราะห์จากสถาบัน สงกรานต์ไทยปีนี้อาจไม่คึกคักเท่าปีที่ผ่าน ๆ มา ทั้งในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินสะพัด
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ttb analytic ออกบทวิเคราะห์ที่ชี้ให้เห็นว่าเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เงินสะพัดระหว่างเทศกาลอาจ #สะดุด มีแนวโน้มลงลงจากปี 2567 ถึง 13.5% ซึ่งหมายถึงจากตัวเลข 42,000 ล้านบาทในปีก่อน เหลือเพียง 36,000 ล้านบาท สะดุดหายไปถึง 6,000 ล้านบาท
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ ttb analytic มองว่าเม็ดเงินปีนี้จะลดลงมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หดตัวลง จริง ๆ ปี 2568 สถานการณ์นักท่องเที่ยวในไทยก็เปิดมาดี ๆ
-ในเดือนมกราคม ประเทศไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวสูงกว่าที่สถาบันคาดการณ์
-แต่พอเข้าเดือนกุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับพลิกหดตัว 6.9% ซะอย่างงั้น
เรื่องนี้เป็นผลมาจากกระแสนิยมการท่องเที่ยวในไทยเริ่มอ่อนแรง ประกอบกับความกังวลด้านความไม่ปลอดภัยในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 สาเหตุข้างต้นเป็นผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงไปถึง 45% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม และพอเข้าเดือนมีนาคมสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนก็ยังไม่ดีขึ้น เมื่อถึงช่วงปลายมีนา เข้าเมษา ไทยก็เจอเหตุแผ่นดินไหวตึกถล่มเข้าไปอีก เกิดเป็นภาพที่น่ากลัวและเผยแพร่ไปทั่วโลก
นี่ยังไม่รวมความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจทั่วโลกจากพ่อใหญ่ทรัมป์ที่ตั้งกำแพงภาษีนานาประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อกระเป๋าสตางค์ของคนทั่วโลกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง (เจอเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้เข้าไปนักท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวกี่โมง)
พอเข้าเดือนเมษาในช่วงสงกรานต์นี้ ttb analytic จึงคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยราว 2.24 ล้านคน ลดลง 18.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงสงกรานต์ และถ้ามองเป็นตัวเลขเงินสะพัด จะมีเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปราว ๆ 4,700 ล้านบาท
ซึ่งถ้าใครยังจำกันได้ ในปี 2567 รัฐบาลเคยพยายามปลุกกระแส Soft Power ผ่านเทศกาลสงกรานต์ไทย เปิดประเทศสาดน้ำไปเลยยาว ๆ 21 วัน ในชื่อแคมเปญ “มหาสงกรานต์” พอมาปีนี้ 2568 ดูเหมือนนโยบาย Soft Power ที่จะผลักดันประเทศไทยผ่านเทศกาลต่าง ๆ เช่น สงกรานต์ จะสลายหายไปในอากาศเรียบร้อย เพราะตอนนี้หรือก่อนหน้าก็ไม่เห็นการสื่อสารใด ๆ ที่พยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวไทยในช่วงสงกรานต์อีก เรื่องนี้สะท้อนถึงปัญหาสำคัญในการสร้าง Soft Power อย่างมากนั่นก็คือ ‘ความต่อเนื่องและความสม่ำเสมอ’ ทางนโยบาย
Soft Power คงกลายเป็น buzzword ที่เคยฮิตไปช่วงเวลาหนึ่งเฉย ๆ
กลับมาที่เทศกาลสงกรานต์ ttb analytic ยังประเมินว่าเป็นที่น่าเสียดายที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมายังประเทศไทยได้ไม่มากเท่าที่ควร ทั้ง ๆ ที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่าง ๆ ในไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เช่น
-ค่าที่พักต่อวัน ปรับตัวขึ้น 6.2%
-ค่าเดินทางต่อวัน ปรับตัวขึ้น 9.4%
-ค่าอาหารต่อวัน ปรับตัวขึ้น 17.1%
-ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ต่อวัน ปรับตัวขึ้น 14.2%
ttb analytic ทิ้งท้ายบทวิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า จากนี้จะเป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลที่ต้องหาแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ เพิ่มเพื่อชดเชยรายได้ของประเทศ (และผู้ประกอบการ) ที่หายไปในช่วงสงกรานต์ 2568 และต้องหาทางฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาไทยอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง
ที่มา ttb analytics