โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สงกรานต์ปีนี้อาจมีเงินหายไปถึง 6,000 ล้านบาท

Reporter Journey

อัพเดต 11 เม.ย. เวลา 17.25 น. • เผยแพร่ 11 เม.ย. เวลา 09.54 น. • Reporter Journey

สงกรานต์ปีนี้อาจมีเงินหายไปถึง 6,000 ล้านบาท

สงกรานต์ หนึ่งในเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ในประเทศไทย ที่ทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติเฝ้ารอ ทว่าจากหลายเหตุการณ์ในรอบเดือนที่ผ่านมา และจากข้อมูลนักท่องเที่ยวและบทวิเคราะห์จากสถาบัน สงกรานต์ไทยปีนี้อาจไม่คึกคักเท่าปีที่ผ่าน ๆ มา ทั้งในแง่ของจำนวนนักท่องเที่ยวและเม็ดเงินสะพัด

ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ttb analytic ออกบทวิเคราะห์ที่ชี้ให้เห็นว่าเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ เงินสะพัดระหว่างเทศกาลอาจ #สะดุด มีแนวโน้มลงลงจากปี 2567 ถึง 13.5% ซึ่งหมายถึงจากตัวเลข 42,000 ล้านบาทในปีก่อน เหลือเพียง 36,000 ล้านบาท สะดุดหายไปถึง 6,000 ล้านบาท

หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ ttb analytic มองว่าเม็ดเงินปีนี้จะลดลงมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่หดตัวลง จริง ๆ ปี 2568 สถานการณ์นักท่องเที่ยวในไทยก็เปิดมาดี ๆ

-ในเดือนมกราคม ประเทศไทยมีสัญญาณการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวสูงกว่าที่สถาบันคาดการณ์

-แต่พอเข้าเดือนกุมภาพันธ์ นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับพลิกหดตัว 6.9% ซะอย่างงั้น

เรื่องนี้เป็นผลมาจากกระแสนิยมการท่องเที่ยวในไทยเริ่มอ่อนแรง ประกอบกับความกังวลด้านความไม่ปลอดภัยในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน 2 สาเหตุข้างต้นเป็นผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงไปถึง 45% เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม และพอเข้าเดือนมีนาคมสถานการณ์นักท่องเที่ยวจีนก็ยังไม่ดีขึ้น เมื่อถึงช่วงปลายมีนา เข้าเมษา ไทยก็เจอเหตุแผ่นดินไหวตึกถล่มเข้าไปอีก เกิดเป็นภาพที่น่ากลัวและเผยแพร่ไปทั่วโลก

นี่ยังไม่รวมความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจทั่วโลกจากพ่อใหญ่ทรัมป์ที่ตั้งกำแพงภาษีนานาประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อกระเป๋าสตางค์ของคนทั่วโลกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง (เจอเหตุการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้เข้าไปนักท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวกี่โมง)

พอเข้าเดือนเมษาในช่วงสงกรานต์นี้ ttb analytic จึงคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยราว 2.24 ล้านคน ลดลง 18.9% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการท่องเที่ยวในประเทศไทยในช่วงสงกรานต์ และถ้ามองเป็นตัวเลขเงินสะพัด จะมีเงินจากนักท่องเที่ยวต่างชาติหายไปราว ๆ 4,700 ล้านบาท

ซึ่งถ้าใครยังจำกันได้ ในปี 2567 รัฐบาลเคยพยายามปลุกกระแส Soft Power ผ่านเทศกาลสงกรานต์ไทย เปิดประเทศสาดน้ำไปเลยยาว ๆ 21 วัน ในชื่อแคมเปญ “มหาสงกรานต์” พอมาปีนี้ 2568 ดูเหมือนนโยบาย Soft Power ที่จะผลักดันประเทศไทยผ่านเทศกาลต่าง ๆ เช่น สงกรานต์ จะสลายหายไปในอากาศเรียบร้อย เพราะตอนนี้หรือก่อนหน้าก็ไม่เห็นการสื่อสารใด ๆ ที่พยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวไทยในช่วงสงกรานต์อีก เรื่องนี้สะท้อนถึงปัญหาสำคัญในการสร้าง Soft Power อย่างมากนั่นก็คือ ‘ความต่อเนื่องและความสม่ำเสมอ’ ทางนโยบาย

Soft Power คงกลายเป็น buzzword ที่เคยฮิตไปช่วงเวลาหนึ่งเฉย ๆ

กลับมาที่เทศกาลสงกรานต์ ttb analytic ยังประเมินว่าเป็นที่น่าเสียดายที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมายังประเทศไทยได้ไม่มากเท่าที่ควร ทั้ง ๆ ที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่าง ๆ ในไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เช่น

-ค่าที่พักต่อวัน ปรับตัวขึ้น 6.2%

-ค่าเดินทางต่อวัน ปรับตัวขึ้น 9.4%

-ค่าอาหารต่อวัน ปรับตัวขึ้น 17.1%

-ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ต่อวัน ปรับตัวขึ้น 14.2%

ttb analytic ทิ้งท้ายบทวิเคราะห์ไว้อย่างน่าสนใจว่า จากนี้จะเป็นโจทย์ใหญ่ของรัฐบาลที่ต้องหาแรงกระตุ้นทางเศรษฐกิจด้านอื่น ๆ เพิ่มเพื่อชดเชยรายได้ของประเทศ (และผู้ประกอบการ) ที่หายไปในช่วงสงกรานต์ 2568 และต้องหาทางฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาไทยอีกครั้งในช่วงครึ่งปีหลัง

ที่มา ttb analytics

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...