โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รมว.แรงงาน สั่งตรวจสอบปมลูกจ้างใช้สิทธิลาไปงานศพพ่อ แต่ถูกเลิกจ้าง

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 18 พ.ย. 2565 เวลา 11.48 น. • เผยแพร่ 18 พ.ย. 2565 เวลา 11.29 น.

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน สั่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีลูกจ้างโพสต์ใช้สิทธิลางานศพถูกเลิกจ้าง

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึง กรณีลูกจ้างโพสต์ข้อความในสื่อออนไลน์ว่า ลาไปงานศพพ่อ 8 วัน ถูกนายจ้างเชิญออก ระบุว่าขาดงานหลายวัน ทำงานมาประมาณ 7 เดือน โดยไม่จ่ายค่าชดเชยให้ ผมจึงได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ขณะนี้อยู่ระหว่างพนักงานตรวจแรงงานประสานเพื่อขอข้อมูลและข้อเท็จจริงจากผู้โพสต์ หากพบว่าเป็นความจริงยืนยันให้ความช่วยเหลือให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมายเต็มที่

รมว.แรงงาน สั่งตรวจสอบปมลูกจ้างใช้สิทธิลาไปงานศพพ่อ แต่ถูกเลิกจ้าง
รมว.แรงงาน สั่งตรวจสอบปมลูกจ้างใช้สิทธิลาไปงานศพพ่อ แต่ถูกเลิกจ้าง

ด้าน นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 กำหนดให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อกิจธุระอันจำเป็นได้ปีละไม่น้อยกว่า 3 วันทำงาน และให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในวันลากิจเพื่อกิจธุระอันจำเป็น เท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอดระยะเวลาที่ลา แต่ปีหนึ่งต้องไม่เกิน 3 วันทำงาน

ซึ่งการลากิจธุระอันจำเป็นเป็นสิทธิพื้นฐานที่กฎหมายคุ้มครองแรงงานกำหนดสิทธิให้ลูกจ้างทุกประเภทมีสิทธิลากิจได้ การลากิจธุระอันจำเป็น หมายถึง กรณีที่ลูกจ้างมีกิจธุระอันจำเป็นต้องดำเนินการด้วยตนเอง หรือของครอบครัว เช่น จัดการงานศพบุคคลในครอบครัว ทำบัตรประชาชน เป็นต้น ดังนั้น หากลูกจ้างจะต้องลาไปจัดการศพของบิดาที่ต่างจังหวัด ย่อมถือเป็นกิจธุระอันจำเป็นที่ลูกจ้างสามารถใช้สิทธิลาได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างด้วย หากนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบกิจการ/ลูกจ้าง มีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ กองคุ้มครองแรงงาน โทร. 0 2660 2069 – 71 หรือสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 หรือโทรสายด่วน 1506 กด 3 หรือ 1546

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ Tnews

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0