โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

วุ่นไม่จบ!จัดซื้อที่ดินสหกรณ์ตร.ตรัง นายทะเบียนสั่งกก.-ผจก.นำเงิน14.7 ล.คืนสหกรณ์ฯ อีกฝั่งพึ่งศาลปกครอง

77kaoded

เผยแพร่ 10 พ.ย. 2565 เวลา 06.47 น. • 77 ข่าวเด็ด

ตรัง-คืบหน้าตรวจสอบสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ในการจัดซื้อที่ดินกว่า14.7 ล้านบาท แพงเกินจริง ล่าสุด นายทะเบียนมีคำสั่งให้กรรมการและผู้จัดการสหกรณ์ฯ นำเงินคืนกลับสหกรณ์ ขณะที่กรรมการและผู้จัดการยังยื้อ ร้องศาลปกครองพิจารณาคำสั่งนายทะเบียน ส่วนตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ฯเข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญาแล้ว

จากกรณีที่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ร้องเรียนสื่อมวลชนและร้องต่อนายทะเบียนสหกรณ์ กรณีพบคณะกรรมการและผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง มีการจัดซื้อที่ดิน เพื่อเตรียมจะก่อสร้างอาคารที่ทำการแห่งใหม่ ใกล้ถนนเลี่ยงเมือง ต.บ้านควน อ.เมือง จ.ตรัง เนื้อที่ 3 ไร่ 57 ตารางวา เป็นจำนวนเงินสูงถึง 14.7 ล้านบาท ขณะที่ราคาประเมินทั่วไปเพียง 6,285,000 บาท ส่วนราคาประเมินของสำนักงานที่ดิน จ.ตรัง ทั้งแปลงเพียง 471,375 บาท ซึ่งถือเป็นราคาที่แพงเกินจริง หรือสูงไร่ละเกือบ 5 ล้านบาท

ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายสมศักดิ์ บุญโยม สหกรณ์จังหวัดตรัง กล่าวว่า หลังจากที่สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ร้องเรียนนายทะเบียนว่ามีการจัดซื้อที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานแพงกว่าความเป็นจริง เพื่อให้ทางสำนักงานสหกรณ์จังหวัด ดำเนินการตามขั้นตอน โดยได้มีการเชิญผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปให้ข้อมูล พร้อมกับมีการขอเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่างๆได้แก่ เรื่องของการประชุมคณะกรรมการหรือว่าการประชุมใหญ่ของสมาชิกสหกรณ์ รวมทั้งผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนไปให้ปากคำแล้ว ก็ได้มีคำสั่งให้คณะกรรมการของสหกรณ์และผู้จัดการสหกรณ์ได้แก้ไขข้อบกพร่องในเรื่องที่เกิดขึ้น ด้วยการให้นำเงินกลับคืนให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ทั้งนี้หลังจากมีการออกคำสั่งไปแล้ว ทางคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ก็ได้มีการยื่นอุทธรณ์คำสั่ง พร้อมกับยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเข้ามา โดยระบุว่า กระบวนการต่างๆที่ดำเนินการอยู่เป็นกระบวนการที่ถูกต้องแล้ว การจัดซื้อที่ดินในราคานั้น จากสภาพพื้นที่ที่ตั้งไม่ได้แพงเกินความเป็นจริง ทั้งนี้ ทางนายทะเบียนก็จะต้องพิจารณาถึงเอกสารพยานหลักฐานต่างๆ จะต้องใช้ความรอบคอบและรัดกุมในการพิจารณา ถ้าผลการยื่นอุทธรณ์ออกมาว่าคงตามคำสั่งเดิม ก็เป็นสิทธิของคณะกรรมการและผู้จัดการสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง จะพิจารณายื่นร้องต่อศาลปกครองต่อไป ซึ่งล่าสุด ผลการพิจารณาออกมาแล้ว นายทะเบียนคงคำสั่งเดิมให้กรรมการและผู้จัดการคืนเงินให้กับสหกรณ์ฯทั้ง 14.7 ล้านบาท

ทางด้าน พ.ต.ต.รชต มณีรัตน์ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อนายทะเบียนสอบถามถึงขั้นตอนการดำเนินการเอาผิดกับคณะกรรมการและผู้จัดการสหกรณ์ฯ ทั้งทางแพ่งและทางอาญา พร้อมยื่นหนังสือขอหลักฐานคำสั่งและรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความดำเนินคดีทั้งทางแพ่ง และทางอาญากับผู้ที่เกี่ยวข้อง

โดย พ.ต.ต.รชต มณีรัตน์ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง กล่าวว่า ตนเองได้รับหนังสือจากสำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรังในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ สรุปว่าให้คณะกรรมการทั้งชุดเก่าและชุดใหม่ รวมทั้งผู้จัดการให้แก้ไขข้อบกพร่อง ด้วยการคืนเงินทั้ง 14.7 ล้านบาท คืนกลับให้กับสหกรณ์ฯ ไม่ว่าจะได้มาด้วยวิธีใดก็ตาม ทั้งจากขายกลับคืนให้เจ้าของเดิม หรือขายออกไป ก็ขอให้นำเงินมาคืน โดยทางกรรมการและผู้จัดการสหกรณ์ก็ได้อุทธรณ์คำสั่งต่อนายทะเบียน ล่าสุด ได้ข้อยุติแล้ว เมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา ว่านายทะเบียนยกคำร้องขออุทธรณ์ดังกล่าว และขณะนี้ทางคณะกรรมการและผู้จัดการได้ยื่นร้องต่อศาลปกครองแล้ว ผลยังไม่ออกมา ส่วนตัวในฐานะตัวแทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ได้เข้ายื่นหนังสือสอบถามนายทะเบียนสหกรณ์ ถึงกรอบการทำงานหลังจากนี้ว่า นายทะเบียนจะดำเนินการฟ้องร้องกับผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อที่ดินในทางแพ่งและในทางอาญาหรือไม่ และมีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการคืนเงินภายในกี่วัน เพราะในคำสั่งไม่ได้มีการระบุเวลาในการแก้ไขข้อบกพร่องดังกล่าว ซึ่งควรจะต้องกำหนด ไม่ใช่ปล่อยไว้ และยื่นหนังสือขอเอกสารรายละเอียดเกี่ยวกับรายชื่อบุคคลที่เกี่ยวข้องในการจัดซื้อที่ดิน ในฐานะสมาชิกจะนำหลักไปแจ้งความดำเนินคดีคดีอาญาในข้อหาร่วมกันทุจริตต่อไป

นอกจากนั้น ตนเองได้ทำหนังสือถึงสำนักงานตรวจบัญชีสหกรณ์จังหวัดตรัง ให้ตรวจสอบช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานตรวจสอบบัญชีสหกรณ์ ได้สรุปผลตรวจสอบพบบกพร่องใน 4 เรื่อง ประกอบด้วย 1.ผู้จัดการไม่ได้จัดทำงบประมาณรายจ่ายในเรื่องการจัดซื้อที่ดินก่อนจะเข้าประชุมใหญ่ เพื่อชี้แจงที่มาที่ไปของเงิน 2.ประธานคณะกรรมการตั้งคณะกรรมการจัดสรรหาที่ดินโดยไม่ชอบผิดระเบียบขั้นตอนของกฎหมาย 3. เรื่องการประกาศจัดหาที่ดินไม่ได้บอกวิธีการจัดหา เช่น การเปิดประมูล การเสนอราคาอย่างไร ไม่มีการแต่งตั้งคณะคณะกรรมการกลางในการจัดหาที่ดินก่อนการพิจารณาอนุมัติ และ 4. ทางผู้จัดการและคณะกรรมการได้อ้างในที่ประชุมว่าที่ดินผืนดังกล่าวราคา 14.7 ล้านบาทนั้น เป็นราคาที่ได้ว่าจ้าง บริษัท ไซมอน ลิม มาประเมินราคา ทั้งๆที่เป็นการประเมินส่วนตัวไม่ได้ทำในนามบริษัทแต่อย่างใด และเอกสารหลุดออกตามแบบประเมินราคา พบที่ดินแปลงดังกล่าวราคาประเมินเพียง 6,285,000 บาทเท่านั้น อีกทั้งในการประชุมใหญ่ เพื่อขออนุมัติพบว่ามีการหมกเม็ดผิดระเบียบขั้นตอน เร่งรีบดำเนินการ ซึ่งตามระเบียบจะต้องตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีก่อน เพื่อขออนุมัติที่ประชุมใหญ่ หลังจากที่ประชุมใหญ่อนุมัติในกรอบวงเงินแล้ว ประธานและกรรมการจะต้องไปกำหนดกรอบในการจัดหาที่ดินแล้วก็ต้องมีการตั้งคณะกรรมการจัดหาที่ดิน เมื่อได้ที่ดิน ก็จะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมใหญ่อีกครั้งในปีถัดไป ไม่จำเป็นต้องรวบรัดตัดตอน แต่ที่กรรมการและผู้จัดการดำเนินการคือ หาที่ดินก่อน แล้วมาขออนุมัติจัดซื้อทีหลัง ซึ่งถือเป็นการทำผิดระเบียบโดยชัดเจน และราคาสูงกว่าราคาประเมินมาก ซึ่งเงินที่เสียไปเป็นเงินของสมาชิกสูญเปล่าไปโดยไม่ได้ประโยชน์ สมควรต้องดำเนินคดีฟ้องร้องทั้งทางแพ่ง และอาญากับกรรมการ ล่าสุด ขณะนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจตรัง ไปเช่าอาคารชั่วคราวเดือนละ 25,000 บาท ปีนึงก็ประมาณ 250,000 บาท ซึ่งก็เสียเปล่าเช่นกัน ทำให้เห็นว่าคณะกรรมการตัดสินใจผิดพลาดตั้งแต่ตอนต้น จะอ้างเอาความจำเป็นเร่งด่วนว่าสำนักงานจังหวัดจะขอที่คืนที่ทำการเก่า เพื่อไปสร้างหอประชุมก็ฟังไม่ขึ้น ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน และถ้ามองในลักษณะความจำเป็นสามารถซื้ออาคารพาณิชย์ใกล้เคียงกับชุมชนที่เส้นทางคมนาคมสะดวกได้

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...