โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

SMEs-การเกษตร

ตามไปดูเกษตรกรที่ตำบลพระแท่น จังหวัดกาญจนบุรี ปลูกพริกกะเหรี่ยง-ข้าวโพดหวาน

เทคโนโลยีชาวบ้าน

อัพเดต 28 มิ.ย. 2564 เวลา 09.44 น. • เผยแพร่ 28 มิ.ย. 2564 เวลา 08.05 น.

ผมเองเป็นผู้ที่ชื่นชอบกินก๋วยเตี๋ยวมาก (ยกเว้นก๋วยเตี๋ยวเนื้อ) มากชนิดที่เจอที่ไหนไม่ได้ต้องแวะชิมให้รู้ดำรู้ดีกันไปว่ามีรสชาติที่พอจะเข้าเทียบท่าไหนได้ (ฮา) แต่ต้องออกตัวก่อนว่าไม่ใช่นักชิมมืออาชีพ และรสชาติที่คุ้นเคยมากจนทำให้การกินเกิดรสชาติแซ่บ คือ ต้องเผ็ด (แบบไม่โหด) ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นก๋วยเตี๋ยวประเภทใดจึงต้องเผ็ดนำไว้ก่อน

 

จำได้ว่าเมื่อหลายสิบปีก่อนมีก๋วยเตี๋ยวประเภ

ทหนึ่งที่ให้ชื่อว่า “ก๋วยเตี๋ยวหมูพริกกะเหรี่ยง” ขายอยู่หลายแห่ง ถือว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวที่มีความอร่อยตรงพริกปรุงที่นำพริกกะเหรี่ยงมาใช้ทำให้รสชาติหอม น้ำซุปรสเด็ดจัดจ้าน ปัจจุบันก๋วยเตี๋ยวพริกกะเหรี่ยงยังคงมีจำหน่ายอยู่ แต่ไม่แพร่หลายเหมือนก่อน ค่อนข้างหากินยาก

พริกกะเหรี่ยง ไม่ใช่พริกขี้หนูสวน ชอบแสงแดดจัด การปลูกพริกกะเหรี่ยงของคนกะเหรี่ยงจะปลูกแบบพืชไร่โดยการเอาเมล็ดพริกผสมกับเมล็ดพืชอื่นๆ อาทิ เมล็ดฟัก แฟง แตงกวา ฯลฯ หว่านในไร่ หลังจากที่หยอดเมล็ดข้าวไปแล้วเมล็ดข้าวงอกก่อนและเป็นร่มเงา ให้ต้นกล้าผักซึ่งรวมถึงต้นกล้าพริกด้วย ระหว่างที่รอต้นข้าวให้ผลผลิตชาวกะเหรี่ยงจะได้กินผักชนิดต่างๆ เป็นอาหาร เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จต้นพริกกะเหรี่ยงอยู่ในระหว่างออกดอกและติดผลพอดี ชาวกะเหรี่ยงทยอยเก็บเกี่ยวพริกกะเหรี่ยงได้ต่อเนื่องถึง 5-6 เดือน

ชาวกะเหรี่ยงบอกถึงคุณลักษณะที่เด่นเฉพาะตัวของพริกกะเหรี่ยงคือ ต้องปลายแหลม ก้นโต สีส้มจัด (ไม่แดงคล้ำ) เผ็ดแต่ไม่แสบลิ้นและมีกลิ่นหอม พริกกะเหรี่ยงมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม มีลำต้นใหญ่ การแตกแขนงดี สามารถเก็บผลผลิตติดต่อกันได้ระยะเวลานาน นิยมแปรรูปเป็นพริกแห้งโดยใช้พริกกะเหรี่ยงสด 3 กิโลกรัม เมื่อเป็นพริกแห้งได้น้ำหนักเฉลี่ย 1-1.3 กิโลกรัม ปัจจุบันโรงงานที่ผลิตซอสพริกนิยมนำเอาพริกกะเหรี่ยงแห้งไปปั่นผสมกับพริกหนุ่มเขียวเพื่อเพิ่มความเผ็ดและมีกลิ่นหอม

คุณชาติ และ คุณเสน่ห์ สามีภรรยา ตระกูลจันทร์คงวงษ์ อยู่บ้านเลขที่ 6/2 บ้านสำนักเย็น ตำบลพระแท่น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี มีอาชีพทำไร่ ทำสวน อยู่เพียงลำพังสองคน เพราะบรรดาลูกต่างหันหลังให้กับอาชีพที่สร้างรายได้มาตั้งแต่บรรพบุรุษ

คู่สามีภรรยานี้เดิมทีทำไร่ข้าวโพดมาก่อน พอมาช่วงหลังเห็นว่าควรหารายได้เพิ่มด้วยการปลูกพืชเศรษฐกิจอย่างอื่น จึงตัดสินใจแบ่งเนื้อที่จำนวน 4 ไร่ เพื่อปลูกพริกกะเหรี่ยงและพริกพันธุ์ศรแดงเพชรมาเป็นเวลาปีเศษ และที่น่าสนใจพวกเขายังปลูกผักชีไทยและผักชีลาวร่วมด้วย

ปลูกพริกกะเหรี่ยงและพริกศรแดงเพชรดำ

เพิ่มรายได้

คุณเสน่ห์ ให้รายละเอียดการปลูกพริกกะเหรี่ยงว่า ก่อนอื่นต้องไถพรวนดินแล้วจึงใส่ขี้วัวลงไปจากนั้นให้ฉีดพ่นยาที่เป็นยาป้องกันหญ้าร่วมกับยาป้องกันการจับตัวของดินที่ชาวบ้านเรียกว่า ยาดิน เพื่อป้องกันไม่ให้ดินกระด้างแล้วจับตัวกันเป็นก้อน ซึ่งหากดินจับเป็นก้อนแล้วน้ำจะไม่ลงไปด้านล่างของราก

เธออธิบายต่อว่า หากต้องการปลูกพริกกะเหรี่ยงและพริกพันธุ์ศรแดงเพชรดำต่อจากปลูกข้าวโพดก็ให้จัดการดูแลบำรุงดินตามวิธีข้างต้นเรียบร้อยแล้วให้พักดินทิ้งไว้ประมาณ 2 เดือน เพื่อปล่อยให้ดินว่างก่อนที่จะเริ่มปลูกพริกด้วยวิธีการหยอดเมล็ดพริกในระยะห่างประมาณ 1 ศอก และเพื่อเป็นการใช้ผืนดินอย่างคุ้มค่าจึงได้หว่านผักชีไทยและผักชีลาวลงไปในแปลงพริก

แมลงศัตรูพืชและโรคพืช

หลายอย่างสร้างปัญหา ต้อง…ระวัง!

เมื่อพริกเริ่มโตจะต้องหมั่นฉีดพ่นยาทุก 10-15 วัน ส่วนศัตรูพืชที่สร้างปัญหามาก ได้แก่ เพลี้ย หนอนพริก หนอนหนังเหนียว และหนอนเด้ง นอกจากแมลงศัตรูพืชแล้วโรคพืชก็สร้างปัญหาไม่แพ้กันโดยเฉพาะโรคใบลาย ซึ่งจะต้องมีการฉีดพ่นยาด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกัน พอโตเป็นต้นอ่อนก็ต้องคอยเฝ้าดูนกมารบกวน ปุ๋ยที่ใช้ฉีดพ่นเพื่อบำรุงต้นพริก ใช้ปุ๋ยเรือใบสูตร 16-16-16 หรือ 15-15-15 ตามด้วยปุ๋ยคอกขี้วัว

ปัญหาในการปลูกพริกอีกอย่างที่พวกเขามักเจอแล้วยังหาสาเหตุไม่ได้ เกิดจากยอดพริกที่มีลักษณะด้วนๆ งอๆ ลักษณะคล้ายกุ้งแห้ง

ส่วนผลผลิตพริกทั้งสองชนิดจะเก็บทุก 5-7 วัน ได้กว่า 300 กิโลกรัม การให้น้ำในการปลูกพริกต้องดูจากสภาพอากาศก่อน หากไม่มีฝนให้น้ำทุก 2-3 วัน โดยไม่ต้องให้น้ำมากให้พอแฉะ เพราะพริกไม่ชอบน้ำมาก แต่ถ้ามีฝนตกมากก็ปล่อย ดังนั้น สามารถปลูกได้ทุกฤดู แต่ควรมีการดูแลน้ำให้พอเหมาะเท่านั้น ส่วนสภาพอากาศก็ไม่ได้สร้างปัญหาแต่ประการใดเช่นกัน เพียงแต่ต้องควบคุมเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิดและสม่ำเสมอเท่านั้น

ราคาขึ้น-ลง ตามความต้องการของตลาด

อยากได้ราคาสูงต้องปรับเวลาปลูก

เจ้าของสวนกล่าวถึงราคาพริกว่า มีความไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด โดยบอกว่าราคาที่ดีที่สุดจะเป็นช่วงเทศกาลกินเจ แต่หลังจากนั้นราคาจะลดลงไปเรื่อยๆ และยังบอกต่ออีกว่าในช่วงราคาสูงถึงกิโลกรัมละกว่า 50 บาท แต่เมื่อราคาลดลงบางครั้งเหลือเพียงกิโลกรัมละไม่ถึง 20 บาท เธอบอกว่าหลังจากถึงเวลาเก็บพริกก็จะว่าจ้างการเก็บทั้งหมด เสร็จแล้วจะให้น้องชายนำไปขายที่ตลาดสี่มุมเมือง

คุณเสน่ห์ ยังแจงให้ฟังว่า ในช่วงที่ราคาพริกลดลงมาก รายได้แทบจะไม่เหลืออะไรเลยเพราะต้องหักค่าใช้จ่ายหลายอย่างที่เป็นทุนออกไป รวมถึงค่าจ้างเก็บพริกด้วย แถมยังบอกว่าคนเก็บพริกยังมีรายได้มากกว่าเจ้าของสวนพริกเสียด้วยซ้ำ แต่ต้องทำเพราะเป็นอาชีพ

แม้ราคาตกก็ไม่กระทบนัก

เพราะปลูกข้าวโพดหมุนเวียนกับพริก

ถึงแม้ว่าบางช่วงราคาจะลดลงมากแต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของคุณเสน่ห์มากนัก เพราะที่สวนของคุณเสน่ห์จะปลูกพืชผักสวนครัวไว้หลายประเภท สามารถนำรายได้อย่างอื่นมาชดเชยได้ในบางครั้งคราว เธออธิบายถึงวิธีแก้ปัญหาราคาพริกที่ลดลงว่า ต้องพยายามปลูกให้ผลผลิตออกในช่วงที่มีความต้องการของตลาดจึงจะทำให้ได้ราคาสูงตามต้องการ และตั้งข้อสังเกตว่าในช่วงที่ราคาพริกสูงมักอยู่ในช่วงเข้าพรรษาของทุกปี

คุณเสน่ห์ให้เหตุผลที่เลือกปลูกพริกกะเหรี่ยงกับพริกศรแดงเพชรดำว่า เพราะได้เคยลองปลูกพริกชนิดอื่นมาแล้วแต่ราคาไม่ดีเหมือนกับพริกทั้งสองชนิด

การปลูกพืชในไร่ของคุณเสน่ห์และสามีจะมีลักษณะแบบหมุนเวียน เมื่อเก็บเกี่ยวพริกเสร็จก็เตรียมปลูกข้าวโพดต่อไป จะทำเช่นนี้สลับกัน

ระยะเวลาการปลูกข้าวโพดหวานตั้งแต่ปลูกไปจนเก็บผลผลิตใช้เวลาประมาณ 65-70 วัน ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศที่เป็นตัวแปร เพราะถ้าอากาศหนาวเย็นมากจะใช้เวลามากกว่าในช่วงอากาศปกติ เจ้าของสวนเปิดเผยว่า ผลผลิตข้าวโพดถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี ที่ผ่านมาได้ประมาณกว่า 10 ตัน

คุณเสน่ห์ให้รายละเอียดว่า นอกจากที่ดินส่วนตัวสำหรับใช้ปลูกข้าวโพดแล้ว เขายังเช่าที่ดินอีกแปลงที่อยู่ด้านข้างแต่มีระดับต่ำกว่าเพื่อใช้ปลูกข้าวโพดหวานโดยเฉพาะ นอกจากข้าวโพดหวานแล้วยังปลูกข้าวโพดข้าวเหนียวอีกด้วย

ข้าวโพดไม่ชอบน้ำมาก

ต้องคอยปรับให้พอเหมาะ

เจ้าของสวนให้รายละเอียดการปลูกข้าวโพดว่า ไม่ชอบน้ำมากเช่นเดียวกับพริก ดังนั้น หากมีฝนตกตามธรรมชาติจะงดให้น้ำ

“ที่ผ่านมาถ้าเป็นช่วงที่แล้งมากก็จะนำน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ แต่หากช่วงที่มีฝนมาก น้ำมาก แล้วเกิดการท่วมขังก็จะใช้วิธีเจาะร่องระบายน้ำออกด้านข้างเพื่อให้ไหลลงคลอง แต่หากเป็นที่ดินอีกแปลงที่มีระดับต่ำกว่า เกิดมีน้ำมามากที่เป็นน้ำล้นคลองขึ้นมาก็จะได้รับความเสียหาย พืชผลก็จะได้รับความเสียหายเหมือนกัน” เจ้าของสวนให้รายละเอียดเพิ่ม

ปัญหาการปลูกข้าวโพดที่พบมักจะเป็นโรคใบลายและใบกรอบ ซึ่งหากพบในต้นใดก็จะไม่มีเมล็ด ไม่มีฝัก สาเหตุที่เป็นอย่างนั้นน่าจะเกิดจากเมล็ดพันธุ์ที่ได้มาในครั้งแรก ส่วนปัญหาอื่นที่พบคือมีหนอนมากินเมล็ดข้าวโพดหรืออาจมีเพลี้ยในช่วงที่อากาศร้อน

ส่วนดินที่ใช้ปลูก คุณเสน่ห์ ย้ำว่า ต้องให้ความสำคัญในการดูแลมาก อย่าให้ดินด้าน ต้องคอยฉีดยาบำรุงดินเป็นครั้งคราว มิเช่นนั้นจะปลูกพืชไม่งาม ตลอดจนการเจริญเติบโตของพืชจะไม่ได้ขนาดตามที่ต้องการ นอกจากนั้น แต่ละช่วงการปลูกจะต้องพักดินเป็นช่วง ช่วงละประมาณ 1 เดือนสำหรับข้าวโพด แล้วจึงเริ่มปลูกรุ่นต่อไป ถ้าเป็นพริกจะต้องพักประมาณ 2 เดือน

เจ้าของสวนเล่าว่า ผักที่ปลูกเสริมเพื่อสร้างรายได้คือ ผักชีไทยและผักชีลาว จะให้ราคาดีในช่วงประมาณเดือนกรกฎาคมไปจนถึงช่วงปีใหม่ ไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มากเพราะได้ปุ๋ยและการดูแลเอาใจใส่จากต้นพริก และจะเก็บไปเรื่อยๆ เมื่อต้นโตได้ขนาด

ขอขอบคุณ ข้อมูลจากศูนย์นวัตกรรมเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...