โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

ส่อแวววุ่น สิทธิ์ขาย Jeep ในไทย P&S – TNP ใครคือตัวจริง?

Manager Online

เผยแพร่ 16 เม.ย. 2564 เวลา 04.57 น. • MGR Online

ส่อแววดราม่าสำหรับสิทธิ์ในการทำตลาดรถยนต์แบรนด์ จี๊ป(Jeep) ในประเทศไทย ว่าแท้จริงแล้วใครเป็นผู้ได้สิทธิ์ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ระหว่าง P&S และ TNP ซึ่งทั้งสองรายต่างอ้างสิทธิ์การเป็นตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ

หลังจากที่กลุ่ม P&S ได้มีการประกาศว่าเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ จี๊ป ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในช่วงปลายปี 2563 พร้อมทั้งมีการใช้ชื่อ Jeep Thailand และวางแผนลงทุนสร้างโชว์รูมพร้อมศูนย์บริการแบบครบวงจรขึ้นอีกด้วย โดยจะตั้งอยู่แถวนิมิตใหม่ สร้างความตื่นตัวให้แก่ลูกค้าที่สนใจในแบรนด์รถยนต์จี๊ปเป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ความสับสนได้เกิดขึ้นเมื่อช่วงงานมอเตอร์โชว์ล่าสุด โดยทางกลุ่ม TNP ได้เข้าร่วมจัดแสดงรถยนต์ จี๊ป ภายในงานดังกล่าวด้วย โดยมีการระบุว่าเป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อจี๊ป อย่างเป็นทางการในประเทศไทยเช่นเดียวกัน และเมื่อสอบถามเจ้าหน้าที่ของบูธดังกล่าวภายในงานระบุว่า มีการทำตลาดมาอย่างยาวนานถึง 9 ปีแล้ว แต่เมื่อสอบถามขอสัมภาษณ์ผู้บริหารในรายละเอียด ได้รับการบอกกล่าวว่า จะติดต่อกลับมาอีกครั้ง แต่สุดท้ายแล้วไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด

หมายความว่า ประเทศไทยกำลังมีตัวแทนจำหน่ายรถยนต์จี๊ปอย่างเป็นทางการถึงสองรายซ้อนกันอยู่ ในเวลานี้ โดยกลุ่ม P&S มีฐานธุรกิจมาจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายตู้เซฟนิรภัยต่างๆ ส่วนทางกลุ่ม TNP เติบโตมาจากธุรกิจซื้อ-ขายรถยนต์มือสอง

ทั้งนี้ราวหนึ่งปีก่อนหน้า ทางกลุ่มของ BRG ซึ่งเป็นผู้นำเข้ารถยนต์อิสระได้ประกาศว่า เป็นผู้ได้รับสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายรถยนต์จี๊ปในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีการเปิดตัวแบรนด์ที่งานมอเตอร์ เอ็กซ์โป เมื่อปลายปี 2562 พร้อมกับการจัดแสดงรถยนต์จี๊ปในงานดังกล่าว ซึ่งเมื่อทีมงานสอบถามไปยังผู้บริหารของกลุ่ม BRG จึงได้ทราบว่าทางกลุ่ม ยุติการทำตลาดรถยนต์จี๊ปเรียบร้อยแล้ว โดยไม่มีการระบุเหตุผลแต่อย่างใด

ทีมงานเอ็มจีอาร์ มอเตอริ่ง จึงได้มีการเสาะหาข้อมูลในเชิงลึกต่อไปว่า เรื่องราวการได้สิทธิ์ของทั้ง P&S และ TNP เกิดขึ้นได้อย่างไร ข้อมูลจากแหล่งข่าวระบุว่า ทั้งสามรายได้รับการแต่งตั้งจากชาวต่างชาติคนหนึ่งซึ่งเป็นคนเดียวกัน โดยไม่ทราบที่มาที่ไปของชาวต่างชาติคนนั้น

สำหรับเอกสารการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ จากกลุ่ม FCA หรือ Stellantis ซึ่งเป็นบริษัทฯ แม่ ที่เป็นเจ้าของแบรนด์จี๊ป ยังมิได้มีรายใดเปิดเผยต่อสาธารณชนว่า เป็นการแต่งตั้งในลักษณะใด ซึ่งระดับของการแต่งตั้งจะมีตั้งแต่ ผู้จัดจำหน่าย(Distributor) หรือ ผู้นำเข้า (Importer) หรือ ตัวแทนจำหน่าย (Dealer) รวมถึงเป็นการแต่งตั้งโดยใคร ประเด็นนี้ยังเป็นสิ่งที่รอการพิสูจน์อยู่

เหนืออื่นใด เมื่อทีมงานตรวจสอบข้อมูลไปยัง Stellantis และเวปไซต์อย่างเป็นทางการของแบรนด์พบว่า จี๊ป ยังไม่มีการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแต่อย่างใด ฉะนั้นแล้ว จึงยังไม่สามารถระบุได้อย่างแน่ชัดว่า บริษัทฯ ใดที่จะเป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของจี๊ปที่แท้จริง

อนึ่ง หากดูในเรื่องของความเป็นไปได้ในการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการโดยทั่วไปแล้ว ทุกแบรนด์ที่จะมีการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่ายจะมีตัวแทนจากบริษัทแม่ ซึ่งทำหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลพื้นที่ และรับมอบอำนาจจากบริษัทแม่ ให้มาดำเนินการแต่งตั้งและลงนามเซ็นสัญญาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ

สำหรับแบรนด์ จี๊ป หากจะมีการแต่งตั้งผู้จัดจำหน่าย กลุ่มที่มีแนวโน้มว่าจะได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการมากที่สุดคือ กลุ่มเอ็มจีซี (MGC)หรือ มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชัน เนื่องจาก ปัจจุบันทาง เอ็มจีซี เป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถยนต์แบรนด์ Maserati และ Peugeot ซึ่งทั้งสองแบรนด์นี้ อยู่ในเครือของ Stellantis

ยิ่งไปกว่านั้นหากจับสัญญาณจากการแถลงประจำปีของ “ดร.สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ” หัวเรือใหญ่ ที่กล่าวเป็นนัยยะว่า ทางกลุ่ม Stellantis ได้ยื่นข้อเสนอเข้ามาให้ MGC ทำตลาดแบรนด์เพิ่มเติม โดยมีสามารถเลือกทุกแบรนด์ในเครือได้ทั้งหมด ซึ่งมีการเจรจาพูดคุยเกือบทุกแบรนด์ถึงความเป็นไปได้ในเชิงธุรกิจ และคาดว่าจะมีทำเพิ่มอีก 1-2 แบรนด์

“เงื่อนไขการทำแบรนด์ใหม่ของกลุ่มเอ็มจีซี คือ จะต้องไม่กระทบกับแบรนด์เดิมที่เราทำอยู่ เนื่องจากเป็นการให้เกรียติซึ่งกันและกัน ในการทำธุรกิจ ส่วนจะทำแบรนด์ใดบ้าง ยังไม่สามารถระบุได้ในเวลานี้ โดยเรามีแผนการขยายกิจการให้คลอบคลุมทุกตลาด” ดร.สัณหวุฒิ กล่าว

สำหรับกลุ่ม Stellantis ในตลาดโลกคือการรวมตัวกันของกลุ่ม FCA ของอิตาลี-อเมริกา และ PSA ของฝรั่งเศส โดยแต่ละกลุ่มมีแบรนด์ดังต่อไปนี้ FCA มีแบรนด์ Alfa Roemo, Abarth, Chrysler, Lancia, Dodge, Jeep, FIAT, Fiat Professional, Maserati, Opel และ Ram Trucks ส่วน PSA มีแบรนด์ Peugeot, Citroen, DS, Opel และ Vauxall โดยทั้งสองกลุ่มได้ควบรวมกิจการกันแล้วเสร็จต้นปี 2564 พร้อมกับใช้ชื่อใหม่ว่า Stellantis

ฉะนั้นเมื่อมองถึงแบรนด์ในมือของกลุ่ม เอ็มจีซี ที่มีอยู่ในปัจจุบันแล้ว จี๊ป จะกลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีความเป็นไปได้ในการที่ เอ็มจีซี จะเลือกเป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ส่วนจะทำหรือไม่ ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตาดูกันต่อไป

กลับมามองในมุมของลูกค้าที่กำลังตัดสินใจจะซื้อรถยนต์ จี๊ป จากทิศทางของการเข้ามาทำตลาดในเมืองไทย ทุกแบรนด์ จะให้การดูแลรถเก่าที่เจ้าของซื้อก่อนหน้า ฉะนั้นจึงคลายกังวลว่าจะมีการปฏิเสธการดูแลหลังการขาย โดยอาจจะมีเงื่อนไขของประการเพิ่มขึ้น เช่นการเรียกเก็บค่าแรกเข้า เป็นต้น

ส่วนในด้านของการรับประกัน ประเด็นนี้คือ สิ่งที่น่ากังวลใจมากกว่า เพราะ มีเพียงผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการเท่านั้นที่สามารถให้การรับประกันได้ หรือหากคุณซื้อจากที่ใด จำเป็นจะต้องเคลมกับผู้ที่จำหน่ายให้ ซึ่งในกรณีนี้ ยังไม่มีความชัดเจนในเรื่องของการได้รับสิทธิ์การเป็นตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ

ส่วนรถยนต์ จี๊ป ที่มีทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน มีหลากหลายโมเดล และมีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มค่อนข้างสูง โดยจี๊ปเลือกทำเฉพาะรถแบบอเนกประสงค์เอสยูวี มีทั้งหมด 6 รุ่นหลัก ได้แก่

Gladiator รถปิกอัพอเนกประสงค์ ที่เปิดตัวใหม่ล่าสุดเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ใช้เครื่องยนต์ดีเซลV6 ขนาด 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 264 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4ล้อ Selec Trac และยางแบบออฟโรด โดยกล้องบันทึกภาพด้านหน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานรุ่นแรกของจี๊ป และระบบเสริมความปลอดภัยอย่างครบถ้วน ราคาจำหน่ายในอเมริกาเริ่มต้นที่ 33,565 ดอลลาร์ หรือราว 1,040,000 บาท

Cherokee รถอเนกประสงค์แบบเอสยูวี ที่สร้างชื่อให้กับจี๊ปมากที่สุดรุ่นหนึ่ง โดยเปิดตัวทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2556 หรือ 8 ปีก่อนหน้านี้เรียกว่า ผ่านการปรับปรุงโฉมหลายครั้งจนเข้าสู่ช่วงปลายอายุโมเดลของเจเนอเรชันที่ 5 แล้ว หัวใจมีให้เลือกหลายขนาดทั้งเบนซินและดีเซลตั้งแต่ 2.0 ลิตรไปจนถึง 3.2 ลิตร พร้อมระบบส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีดหรือ เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ราคาจำหน่ายในอเมริกาเริ่มต้นที่ 26,755 ดอลลาร์ หรือราว 829,000 บาท

Grand Cherokee L เรือธงของจี๊ปที่มากับขนาดใหญ่และความหรูหราที่สุดในสายการผลิต โดยมีการเปิดตัวเจเนอเรชันที่ 5 โฉมใหม่ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มกราคมปีนี้ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญเพราะมีการขยับขนาดจาก เอสยูวีขนาดกลางขึ้นไปเป็น เอสยูวีขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง เพื่อต่อกรกับคู่แข่งจากฝั่งยุโรป ขุมพลังมากับเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.6 ลิตร กำลังสูงสุด 290 แรงม้า ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อใหม่ล่าสุด ช่วงล่างเป็นแบบถุงลม ราคาในอเมริกาเริ่มต้นที่ 36,995 ดอลลาร์ หรือราว 1,140,000 บาท โดย Grand Cherokee โฉมก่อนหน้ายังคงมีจำหน่ายอยู่ด้วยในไลน์การขาย

Wrangler รถระดับสัญลักษณ์ที่เป็นตำนานซึ่งยังคงยืนหยัดทำตลาดควบคู่กับแบรนด์จี๊ปมาโดยตลอด นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง โดยมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบตัวถัง ทั้ง 2 ประตู และ 4 ประตู เอสยูวีและหลังคาเปิดประทุน ขุมพลังมีให้เลือกอย่างหลากหลายเช่นเดียวกันทั้ง แบบ 4 สูบ ขนาด 2.0 และ 2.2 ลิตร หรือแบบ V6 ขนาด 3.6 ลิตร ไปจนถึงV8 ขนาด 6.4 ลิตร และล่าสุดกับรุ่นปลั๊กอินไฮบริดที่เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ กับระยะทางวิ่งด้วยไฟฟ้าล้วนสูงสุด 40 กม. ราคาเริ่มต้นในอเมริกา 28,475 ดอลล่าร์ หรือราว 882,000 บาท ส่วนรุ่นPHEV นั้นราคาเริ่มต้นที่ 47,995 ดอลลาร์หรือราว 1,490,000 บาท

Compass รถในระดับคอมแพคเอสยูวี(C-Suv) ที่จี๊ประบุว่าเป็นการเปิดตัวโฉมใหม่แบบโมเดลเชนจ์ เมื่อ 6 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่เปิดตัวภายใต้กลุ่ม Stellantis ซึ่งรุ่นนี้ถือว่าสำคัญมากเพราะมีสัดส่วนยอดขายกว่า 40% จากยอดขายทั้งหมดของจี๊ปในยุโรป รวมถึงมียอดขายในรุ่นที่เป็นปลั๊กอินไฮบริดมากถึง 1 ใน 4 ของยอดขายทั้งหมดอีกด้วย ตัวรถได้รับการปรับปรุงระบบใหม่หมดทั้งคัน รวมถึงการอัพเกรดระบบการขับขี่อัตโนมัติเป็นเลเวล 2 อีกด้วย ราคาจำหน่ายในอเมริกา(โฉมก่อนหน้า) เริ่มต้นที่ 23,915 ดอลลาร์ หรือราว 741,000 บาท

Regenerade รถในระดับ ซับ-คอมแพคเอสยูวี (B-Suv) เปิดตัวทำตลาดมาตั้งแต่ปี 2557 โดยมากับทางเลือกขับเคลื่อนล้อหน้าและขับเคลื่อนสี่ล้อ อันเป็นจุดเด่นของรถในเครือจี๊ปทุกรุ่น หัวใจมีให้เลือกตั้งแต่เบนซินขนาด 1.0 ลิตรเทอร์โบ ไปจนถึงขนาด 2.4 ลิตร ส่วนดีเซลมีให้เลือกขนาด 1.6-2.0 ลิตรเทอร์โบ พร้อมทางเลือกแบบปลั๊กอินไฮบริด ระบบส่งกำลังมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 5-6 สปีด และเกียร์อัตโนมัติ 6,7 และ 9 สปีด ราคาจำหน่ายในอเมริกา 22,850 ดอลลาร์ หรือราว 708,000 บาท

ทั้งหมดนี้คือ เรื่องราวของจี๊ปในปัจจุบัน ซึ่งในอดีต จี๊ป เคยเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในยุคทศวรรษที่ 90 ก่อนที่จะโดนพิษของต้มยำกุ้งทำให้ต้องยุติการทำตลาดไป ส่วนจะกลับมาทำตลาดได้อีกครั้งหรือไม่อย่างไร สาวกแบรนด์จี๊ป คงต้องติดตามเอาใจช่วยกัน

เครดิตภาพจาก Jeep P&S, กรังด์ปรีซ์, www.stellantis.com, www.jeep.com

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0