โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

อวยพรตอนวิวาห์ - ศุ บุญเลี้ยง

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 14 ต.ค. 2563 เวลา 05.16 น. • ศุ บุญเลี้ยง
ภาพโดย Tron Le / unsplash.com

หลานสาวส่งการ์ดเชิญมาให้พร้อมทั้งบอกว่า อยากให้ลุงไปช่วยเป็นประธานในงานแต่ง ในความหมายคือขึ้นไปกล่าวคำอวยพรบนเวที 

เวทีซึ่งต้องมีทุกงานมงคลสมรส เห็นและฟังมาหลายครั้ง 

ไม่รู้หรอกว่าใครเป็นคนกำหนดว่าต้องมีคนกล่าว 

เหมือนงานศพต้องมีทอดผ้าไตรก่อนเผา  งานแต่งก็ต้องมีการกล่าวคำอวยพรก่อนไชโย

"เอาวะ" ผมตอบรับเกียรตินั้น ด้วยความกังวล

เพราะเคยไปมาหลายงาน พอตอนประธานกล่าวบางครั้งก็ไม่ค่อยมีคนสนใจจะฟัง อาจเพราะสภาพเครื่องเสียงหรือบางทีก็กล่าวกันนาน เคยไปงานหนึ่งขนาดท่าน ‘ประธานสภา’ มาเองก็ยังไม่ค่อยมีคนสนใจนัก

จนถึงวันงาน มีอาการตื่นเต้นเล็กน้อย

ในงานมีประธานฝ่ายเจ้าบ่าว เป็นรองคณบดี จากสถาบันดุริยางคศิลป์ดนตรี ซึ่งบ่าวสาวจบการศึกษามา 

ท่านกล่าวได้เข้าที มีปรัชญาว่า "การเป็นนักดนตรีนั้นเมื่อมีการแสดง ควรต้องรู้บทบาทว่า เครื่องดนตรีชิ้นไหนเป็นหลัก ชิ้นใดเป็นรอง บางครั้งอาจต้องมีการลื่นไหลอิมโพรไวส์ไปตามสถานการณ์ การฝึกซ้อมและผ่านการเล่นดนตรีน่าจะช่วยให้ชีวิตรู้บทบาทหน้าที่แห่งตน"  แล้วก็ยกไวน์ขึ้น ไชโยๆๆ สามครั้ง

ถึงตาข้าพเจ้าประธานฝ่ายเจ้าสาว ต้องกล่าวบ้าง…

เนื่องจากทั้งบ่าวสาวเคยเรียนดนตรี เคยเป็นนักดนตรี คงจะได้ขึ้นเวทีมาบ้าง แต่เวทีงานแต่งแบบนี้ ขึ้นบ่อยๆ คงไม่ค่อยจะดี  แม้แต่ประธานอย่างกระผม ก็ไม่ได้ขึ้นกล่าวบ่อยๆ ย่อมมีความตื่นเต้นเป็นธรรมดา แขกเหรื่อก็คงทำใจให้อภัยไว้ล่วงหน้า

ดังนั้น…จึงจะขอนำคำซึ่งเคยได้ยินได้ฟังมาจากงานต่างๆ ที่พ่อและลุง เคยกล่าวให้ได้ยินได้ฟังไว้มาบอกกล่าวต่อ เพราะนอกจากไม่ต้องคิดใหม่แล้ว ยังสามารถนำไปใช้ได้จริง นั่นคือ…"

“ก่อนแต่งงานต้องใช้เหตุผลมากมายในการเลือกคนรัก

แต่หลังจาก แต่งงานแล้ว อย่าใช้เหตุผลมากนัก ให้ใช้ความรักนำทาง

เพราะเหตุผลทุกคนย่อมมี และต่างก็คิดว่าเหตุผลของตนนั้นดี ต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผล จึงมักเอาเหตุผลของแต่ละฝ่ายมาเป็นเหตุให้ทะเลาะกัน 

แต่หากใช้ความรัก เรามักจะรอมชอมกัน เพราะเราคงไม่อยากทะเลาะกับคนที่เรารักนักหรอก เหตุผลอาจจะด้อยไปบ้าง แต่หากเราคิดว่าคนนี้เป็นคนที่เรารัก ก็มักจะจบลงด้วยดี”

“และถึงแม้ว่าเราจะเลือกแล้วเลือกอีก กว่าจะได้คู่มา ก็อาจจะมีบางสิ่งบางอย่างซึ่งเราไม่ต้องการติดมาด้วย พอจะต้องมาอยู่กินด้วยกัน คงต้องทำใจกับพฤติกรรมบางอย่างของคนที่เราอยู่ด้วยให้ได้  อยู่ๆ กันไปหากไม่ได้ดังใจ ประสาคนไทยอาจจะต้องพึ่งพาสิ่งศักดิ์สิทธิ์คอยยึดเหนี่ยวจิตใจบ้าง 

ก็ขอให้นึกถึง หลวงพ่อ‘ทน’ ซึ่งมีคาถาว่า อดทน อดทน และอดทน เพื่อให้ผ่านพ้นปัญหาไปด้วยกันได้  แต่หากพบเห็นอะไรไม่ถูกอกถูกใจบ้าง ครานี้ให้นึกถึงบารมีของ หลวงปู่ ‘ชา’  คือทำจิตใจให้ชาๆ อย่าให้มันกระทบกระเทือนมาก 

เมื่ออยู่ไปนานๆ ถ้าหลวงปู่‘ชา’ ยังเอาไม่อยู่ทีนี้ก็ให้พึ่งพา หลวงตา ‘เฉย’ คือวางเฉย กับปัญหาทั้งหลายเสีย ก็จะทำให้ลดความระหองระแหงต่อกันได้ “

สุดท้ายนี้ อยากจะอวยพรและแนะนำว่า

อย่ามองความรัก เปราะบางเป็นแก้ว แตกร้าวได้ง่าย

แต่ให้มองว่าความรักเป็นเหมือนดั่งต้นไม้ สามารถผลิดอกออกใบได้เสมอ…

( แล้วประธานก็ร้องเพลง ‘รักเป็นดั่งต้นไม้’ ที่คุณประภาส ชลศรานนท์ แต่งไว้ท่อนหนึ่ง )

…..หมั่นเพียรดูแลต้นไม้ของเรา

ไม่เปรียบเอารักเป็นแก้วบางใส

แตกหักลงคงด้วยพลั้งไป 

ยังออกกิ่งใบเติบโตสูงงาม…

 

คำอวยพรใดๆ ก็คงไม่ช่วยได้มากเท่ากับ กำลังใจซึ่งทั้งสองจะต้องมีให้แก่กัน  จึงขอให้ทั้งคู่ คอย…

….ต่อเติมแรงใจ เมื่อท้อ 

แบ่งปันในยามทุกข์ตรมไม่หวั่น

ต่างคน เติมใจ ให้กัน

เติมใจ ซึ่งกัน…จนเต็ม

 

จบการกล่าวของประธานด้วยการร้องเพลงท่อนสุดท้ายของเพลง ‘เติมใจให้กัน’ ซึ่งประธานได้ประพันธ์ไว้นานแล้ว ( แบบไม่มีไชโยต่อท้าย )


ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก "ศุ บุญเลี้ยง" ได้ทุกวันพุธ บน LINE TODAY และสามารถอ่านบทความอื่นได้ที่เพจ ศุ บุญเลี้ยง

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...