ผุดแฮชแท็กร้อน ชาวทวิตเตอร์รุมแหก หนุ่มหล่อดาว TikTok ชื่อดัง ทำร้ายแฟน : กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นเดือดในโลกออนไลน์ เมื่อเทรนด์ทวิตเตอร์ผุดแฮชแท็กร้อน หลังจากมีสาวรายหนึ่ง ออกมาทวีตข้อความเล่าถึงเรื่องราวที่พี่สาวตนเอง ถูกหนุ่มหล่อดาว TikTok ชื่อดัง ทำร้ายร่างกายปางตาย ซึ่งเธอเขียนระบุว่า
"เราไม่รู้ว่าสามารถใช้ช่วงเวลานี้ออกมาพูดเรื่องความเป็นผู้หญิงได้รึเปล่า แต่มีรุ่นพี่ที่เราสนิทโดนอะไรแบบนี้เหมือนกัน xxxทำร้ายพี่สาวของเรามานานมากๆ แล้ว ต่อยตี กักขัง ลั่นไก รีดไถ ซึ่งxxxอาจจะไปได้ดีในหน้าที่การงาน เราจึงขอออกมาพูดเรื่องนี้"
"เรียนไม่จบ ม.3 เกาะพี่สาวเราเงินค่าทำเพลงทุกอย่างพี่สาวเราเป็นคนออกให้รวมถึงเสื้อผ้า อาหาร ไม่เคยเลี้ยงผู้หญิงเลย เคยขังพี่สาวเราไว้ในห้องน้ำแล้วปาโทรศัพท์พี่สาวเราทิ้งเพื่อที่จะได้ไม่ให้โทรฯ หาเพื่อนหรือครอบครัว แล้วก็ต่อยพี่เราจิกหัวทุกอย่างที่เป็นทำร้ายร่างกาย"
"ขู่ฆ่าและขังพี่สาวเราไว้ในห้องน้ำแล้วก็ราดน้ำใส่พี่สาวเรา ส่วนตัวนั่งเล่นโทรศัพท์ ไปด้วยยิ้มไปด้วย น่ากลัว.. เขวี้ยงโทรศัพท์พี่สาวเราเพื่อไม่ให้โทรฯ หาคนอื่น พี่สาวเราที่โดนทุบตีมาก่อนหน้านี้ ก็ต้องอยู่ในห้องน้ำ" นอกจากนี้เธอได้แนบรูปภาพหลักฐานรูปพี่สาวของเธอถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกายอีกด้วย
ภายหลังต่อมา ก็ได้มีการผุดแฮชแท็กดังกล่าวขึ้น โดยปัจจุบันขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อันดับ 5 ของเมืองไทยแล้ว ทั้งนี้ก็มีชาวเน็ตหลายคนต่างเข้ามาเปิดวาร์ปฝ่ายชายกันสนั่นและก็มีบุคคลที่อ้างว่าเป็นเพื่อนสนิทฝ่ายหญิง ได้แคปแชทที่เคยคุยกันออกมาให้เห็นว่า โดยในข้อความที่มีการคุยกัน สาวผู้เคราะห์ร้ายได้บอกเพื่อนว่า ถูกแฟนหนุ่มทำร้ายร่างกาย และถูกบังคับขู่เข็ญทุกอย่าง รวมถึงโดนต่อว่าสั่งห้ามติดต่อแก๊งเพื่อน
อีกทั้งยังมีการเปิดเผยไอจีไพรเวทของฝ่ายหญิง ที่เคยโพสต์ข้อความถึงแฟนหนุ่ม ที่มีการถูกทำร้ายร่างกายมายาวนาน แต่ที่ยังทนอยู่เพราะความรัก โดยเธอเขียนว่า "ทำไมเราถึงทะเลาะกันแรงมาก ๆ ทะเลาะกันทีหนึ่งเป็นเรื่องใหญ่เลย แต่เธอรู้มั้ย ถึงเราจะทะเลาะกันแบบนี้ เขาก็ยังรักเธอ มาก ๆ มากกว่าทุกคนที่เขารักสะอีก"
อย่างไรก็ตาม ประเด็นดังกล่าวยังคงเป็นกระแสที่มีชาวเน็ตแห่เข้าไปทวีตพูดถึงกว่า 85,000 ครั้ง แบบไม่หยุด พร้อมขอให้ทางฝ่ายชายออกมากชี้แจงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นว่า แท้จริงแล้วใช่หรือไม่ นอกจากนี้ ยังวอนขอหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเคสดังกล่าว หวั่นใจว่าอาจจะมีบริสุทธิ์ไม่ได้รับความเป็นธรรม และกลัวว่าจะเกิดเหตุซ้ำรอยอีก