วันที่ 5 ตุลาคม 2566 นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม เผยว่า หอภาพยนตร์ (องค์การมหาชน) จัดกิจกรรมขึ้นทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ประจำปี 2566 โดยภาพยนตร์ส่วนหนึ่งมาจากประชาชนกว่า 1,000 คน ที่ร่วมเสนอรายชื่อ โดยพิจารณาคัดเลือกตามหลักเกณฑ์คุณค่า ความสำคัญทางประวัติศาสตร์ อิทธิพลต่อสังคม วัฒนธรรมและศิลปะ
และมีภาพยนตร์ 10 เรื่อง ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนในปี 2566 ที่แสดงให้เห็นถึงรากฐานวัฒนธรรมภาพเคลื่อนไหวอันแข็งแรงของผู้สร้างไทย
โดยรายชื่อภาพยนตร์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภาพยนตร์ของชาติประจำปี 2566 ได้แก่
- ปักธงไชย ปี 2500
2. Thailand ปี 2501
3. กตัญญูปกาสิต ปี 2501
4. โกนจุก ปี 2510
5. วันมหาวิปโยค ปี 2516
6. เทวดาเดินดิน ปี 2519
7. สัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทยที่กลับออกจากป่า ปี 2528
8. เพลงสุดท้าย ปี 2528
9. 14 ตุลาสงครามประชาชน ปี 2544
10. หัวใจทรนง The Adventure of Iron Pussy ปี 2546
นายเสริมศักดิ์ กล่าวต่อว่า ปี 2566 เป็นปีครบรอบ 50 ปี เหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 มีภาพยนตร์สามเรื่องที่เกี่ยวพันกับเหตุการณ์นี้ได้รับการคัดเลือก ได้แก่ วันมหาวิปโยค เป็นบันทึกเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ที่ ทวีศักดิ์ วิรยศิริ นักข่าวภาพยนตร์อิสระได้ถ่ายเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ไว้
ส่วนหนัง สัมภาษณ์ผู้เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทยที่กลับออกจากป่า ปี 2528 เป็นฟุตเทจหายากที่ ไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ได้สัมภาษณ์อดีตนักศึกษาและนักเคลื่อนไหวที่ออกจากป่าหลังจากไปเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์ไทย เช่น จิระนันท์ พิตรปรีชา, เสกสรรค์ ประเสริฐกุล, จรัล ดิษฐาอภิชัย, เหวง โตจิราการ, เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ, เกรียงกมล เลาหไพโรจน์, คณะวงดนตรีคาราวาน และชาวบ้านคนอื่น ๆ ไกรศักดิ์ตั้งใจจะตัดต่อฟุตเทจเป็นสารคดี แต่ทำไม่เสร็จสิ้น คงเหลือไว้แต่ฟุตเทจที่มีความกว่า 11 ชั่วโมง
เรื่องสุดท้ายได้แก่ 14 ตุลาสงครามประชาชน ปี 2544 ภาพยนตร์ชีวประวัติ เสกสรรค์ ประเสริฐกุล บุคคลสำคัญทางการเมืองในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของประวัติศาสตร์ไทย เป็นงานกำกับโดย บัณฑิต ฤทธิ์ถกล ส่วนภาพยนตร์เทวดาเดินดิน ปี 2519 โดย ม.จ. ชาตรีเฉลิมยุคล เป็นหนังที่จับภาพวัยรุ่นไทยในช่วงเวลาแห่งความเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้อย่างเข้มข้น เป็นทั้งหนังสะท้อนสังคมและหนังแอคชั่นผจญภัยไปพร้อม ๆ กัน
นอกจากนี้ ภาพยนตร์คลาสสิกที่ได้รับการขึ้นทะเบียนที่สำคัญยังมีปักธงไชย ปี 2500 สร้างโดยบริษัท ละโว้ภาพยนตร์ของพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ ถือเป็นผลงานที่เก่าแก่ที่สุดที่ยังคงหลงเหลืออยู่ของพระองค์ ผู้ทรงเป็นนักทำหนังที่มีบทบาทสำคัญต่อวงการภาพยนตร์ไทย
และเป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรก และหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เล่าถึงสงครามปราบฮ่อ สมัยรัชกาลที่ 5 กตัญญูปกาสิต ปี 2501 หนังร่วมทุนไทยฮ่องกงที่ประสบความสำเร็จทั้งที่ไทยและต่างแดนด้วยความสามารถของยอดฝีมือแห่งวงการหนังไทยยุคหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 ทั้ง ครูเนรมิต ผู้กำกับ ส.อาสนจินดา ผู้เขียนบท และบรรดานักแสดงชั้นครู
ขณะที่ภาพยนตร์ LGBTQ 2รสชาติอันแตกต่าง และแสดงให้เห็นการเดินทางของหนังแห่งความหลากหลายทางเพศของไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนในปีนี้ ได้แก่ เพลงสุดท้าย ปี 2528 หมุดหมายสำคัญแห่งประวัติศาสตร์ความหลากหลายทางเพศในภาพยนตร์ไทย ที่ส่งอิทธิพลต่อเนื่องอย่างกว้างขวางยาวนานมาจนถึงปัจจุบัน
กำกับโดย พิศาล อัครเศรณี และอีกเรื่องได้แก่ หัวใจทรนง ปี 2546 งานกำกับร่วมของ อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล และ ไมเคิล เชาวนาศัย กับเรื่องราวของสายลับไออ้อน พุซซี่ งานที่คารวะสุนทรีศาสตร์ของหนังไทยุค 16 มม.พร้อมไปกับการสร้างอารมณ์ขันสำหรับผู้ชมร่วมสมัย