The Pinnacle Leadership Program ปิดม่านหลักสูตรรุ่นที่ 1 อย่างสมบูรณ์
วันที่ 6 ตุลาคม 2566 มหาวิทยาลัยสวนดุสิต หนึ่งในมหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศไทย ร่วมกับ DURIAN CORPORATION ผู้นำด้านการสร้างหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงของไทย จัดกิจกรรมปิดหลักสูตร ณ หอประชุมรักตะกนิษฐ ชั้น 2 มหาวิทยาลัยสวนดุสิต
The Pinnacle Leadership Program by L-NET (PLP) หลักสูตรวิทยาการพัฒนาผู้นำระดับสูงอย่างยั่งยืน (วพส.) เกิดจากความร่วมมือของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต ที่มีความเข้มแข็งทางด้านวิชาการพร้อมกับการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ และ บริษัท ดูเรียน คอร์ปปอเรชัน จำกัด (DURIAN) ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างระบบนิเวศน์นวัตกรรม และการบริหารจัดการหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ที่มีประสบการณ์ทั้งในประเทศ และระดับนานาชาติ ร่วมกันพัฒนาหลักสูตร PLP ซึ่งประกอบไปด้วย 6 Modules หลักในการเรียนรู้ ที่ออกแบบเนื้อหาเฉพาะเพื่อพัฒนาศักยภาพสู่การเป็นสุดยอดผู้นำที่เป็นตำนาน เป็นผู้บริหารระดับแนวหน้าของประเทศ พร้อมด้วยการถ่ายทอดความรู้ และประสบการณ์จริงจากเหล่าผู้นำระดับสูง จากหลากหลายแวดวง
Director’s Talk
ช่วงแรกของวันได้รับเกียรติจากผู้ร่วมก่อตั้งหลักสูตรที่ได้มาพูดถึงความประทับใจในหลักสูตรนี้ โดยเริ่มจาก รศ.ดร.ชนะศึก นิชานนท์ กรรมการและผู้ร่วมก่อตั้งหลักสูตร รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและพัฒนาการศึกษา มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เผยว่า แนวคิดของการทำหลักสูตรนี้เริ่มจากอธิการบดีที่เล็งเห็นว่า ม.สวนดุสิตมีความเข้มแข็งอยู่หลายส่วน ดังนั้งจึงมีคำถามว่า "เราจะถ่ายทอดความรู้เหล่านี้ให้สังคม และประเทศชาติย่างไร" เลยกลายเป็นที่มาของการจัดทำหลักสูตรนี้ ซึ่งสิ่งที่คาดหวังกับสิ่งที่ก้าวมาถึงถือว่าเกินฝันมาก โดยในการทำหลักสูตรนี้เราโชคดีมากที่ได้พาร์ทเนอร์ที่ดีอย่าง ดูเรียน คอร์ปปอเรชัน ที่ช่วยเติมเต็มซึ่งกันและกัน ทำให้จุดแข็งของทั้งสองรวมกันกลายเป็นหลักสูตรนี้ขึ้นมา
ด้าน คุณกฎทอง บุญพรรคนาวิก กรรมการหลักสูตร ที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร และบุคลิกภาพแบรนด์ กล่าวว่า "ส่วนตัวรู้สึกความว่าความรู้ในด้านวิชาการ และความเป็นมืออาชีพของพวกเรามีกันอยู่แล้ว โดยสิ่งเหล่านี้มาจากการทำงาน ประสบการณ์ในชีวิต ส่วนหนึ่งที่ทำให้ทุกคนต่อยอดความรู้ที่มีนั้นได้คือเราชอบพอกันไหม คุยถูกคอกันหรือเปล่า สิ่งเหล่านี้จะนำไปสู่การสร้างซอฟต์พาวเวอร์ ซึ่งผู้เรียนในหลักสูตรก็มีความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันออกไปในหลากหลายธุรกิจ แต่หลักสูตรนี้ทำให้ผู้ที่มีความรู้ความสามารถแต่ละด้านมาเจอกันได้ และผู้เรียนในหลักสูตรนี้ก็คือซอฟต์พาวเวอร์ที่สำคัญที่จะทำสิ่งดี ๆ คืนกลับสู่สังคมวงกว้าง"
ในส่วนของ ดร.เบญจวรรณ สุจริต กรรมการและผู้ร่วมก่อตั้งหลักสูตร ชี้ว่า จริง ๆ แล้วที่มาของหลักสูตรนี้เริ่มมาเกือบจะ 2 ปี เพราะว่าตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ ดร.เบญจวรรณ ได้มาอยู่ในม.สวนดุสิต ได้มีการเข้าไปพูดคุยกับทางอธิการบดี ซึ่งได้รับการสนับสนุนในการทำหลักสูตรนี้ นอกจากนี้ทางด้าน รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ได้ถามก่อนเลยว่า "หากทำหลักสูตรนี้แล้วนักศึกษาจะได้อะไร" โดยข้อเสนอแนะจากอธิการบดี ประธานที่ปรึกษา ทำให้หลอมรวมกลายมาเป็นหลักสูตร The Pinnacle Leadership Program
สำหรับ คุณโอฬาร วีระนนท์ กรรมการและผู้ร่วมก่อตั้งหลักสูตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ดูเรียน คอร์ปปอเรชัน จำกัด มองว่าบทบาทสำคัญของ บจ. ดูเรียน ในหลักสูตรนี้คือการที่เรารู้ว่าคนเก่ง ๆ เหล่านั้นอยู่ที่ไหน และสิ่งที่เราทำได้นั่นคือการพาคนที่เก่งที่สุด ดีที่สุดในแต่ละภาคส่วนทั่วโลกมารวมกัน ซึ่งเราเห็นว่ามหาวิทยาลัยสวนดุสิตไม่ได้เด่นแค่ด้านวิชาการแต่ยังมีมุมอื่น ๆ ในการเชื่อมโยงในภาคธุรกิจวิชาการ เราจึงนำจุดแข็งตรงนี้มาขยายผล จากจุดเล็ก ๆ ก็ทำให้เกิดผลที่ยิ่งใหญ่ได้ พร้อมพูดทิ้งท้ายไว้ว่า “อย่าคิดว่าวันนี้คือวันปิดหลักสูตร แต่วันนี้คือวันเริ่มต้นอีกจุดหนึ่ง คือวันที่เริ่มวันใหม่ ๆ มิตรภาพใหม่ ๆ”
Group Presentation : Sustainable Development Leadership Homkhajorn Model
สำหรับเซคชั่นนี้จะเป็นการนำเสนอโครงการที่ได้ลงพื้นที่เพื่อทำโปรเจกต์ CSR (Corporate Social Responsibility) หรือที่เรียกว่าการดำเนินกิจกรรมภายในและภายนอกองค์กร ที่คำนึงถึงผลกระทบต่อสังคม ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งมีหัวข้อ Food, Education, Well-Being และ Environment พร้อมรับฟังข้อเสนอแนะ จากผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ ดร.ถนอม อินทรกำเนิด นายกสภามหาวิทยาลัยสวนดุสิต, รศ.ดร.ศิโรจน์ ผลพันธิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต, รศ.ดร.สุขุม เฉลยทรัพย์ ประธานที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยสวนดุสิต, คุณวิเชียร ฤกษ์ไพศาลประธานและผู้ก่อตั้ง บริษัท เวย์-ที ครีเอชั่น จำกัด ( Way-T Creation ) คณะกรรมการยุทธศาสตร์ Soft Power แห่งชาติ ผู้ก่อตั้งค่ายเพลง จีนี่ เรคคอร์ด (Genie Records), รศ.พัชรี สวนแก้ว รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา มหาวิทยาลัยสวนดุสิต และ อ.อภิทาน ลี ที่ปรึกษาและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท ดูเรียน คอร์ปปอเรชัน จำกัด
โดยกลุ่มนำเสนอแรกเริ่มจากกลุ่ม Matterhorn ในหัวข้อ ENVIRONMENT : ศูนย์การเรียนรู้ BCG ประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ในพื้นที่หอมขจรฟาร์ม โดยมีชื่อโปรเจกต์ว่า
“โครงการสร้างเครือข่าย เกษตรกร ปลอดภัยในเขตภาคกลาง โดยใช้หอมขจรโมเดล”
โครงการนี้เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากราคาสินค้าเกษตรมีความผันผวนตามสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้รายได้เฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ต่ำ, การเพิ่มรายได้ด้วยการเพิ่มการผลิตนั้นสิ้นเปลืองทรัพยากรเป็นจำนวนมาก รวมถึงความเสื่อมโทรมของทรัพยากรและสภาพแวดล้อม โดยโครงการนี้ผลักดันข้อกำหนด 8 ประการเพื่อได้รับการรับรองแหล่งผลิต GAP ซึ่งข้อกำหนด 8 ประการนั้น คือเรื่องของ น้ำ, พื้นที่ปลูก, วัตถุอันตรายทางการเกษตร, การจัดการคุณภาพในกระบวนการผลิตก่อนการเก็บเกี่ยว, การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว, การพักผลิตผล, สุขลักษณะส่วนบุคคล และการบรรทุกข้อมูลและการตามสอบ
ซึ่งผลลัพธ์ของการทำโครงการนี้คือ มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ และส่งเสริมให้เกษตรกรลดการใช้สารเคมี โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบการเพาะปลูกด้วยมาตรฐานการเกษตรแบบปลอดภัย (GAP) เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตทางการเกษตร และยกระดับเศรษฐกิจของชุมชนให้มีความยั่งยืน
กลุ่มต่อมาที่ได้นำเสนอจะเป็นในส่วนของกลุ่ม Everest ในหัวข้อ EDUCATION : ความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ในพื้นที่โรงเรียนโคกโคเฒ่า โดยมีชื่อโปรเจกต์ว่า
“จากหอมขจร สู่น้องอิ่มท้อง”
โครงการนี้เป็นโครงการที่เกิดขึ้นจากการลงพื้นที่เก็บข้อมูลและสอบถามผู้บริหารครูและนักเรียนในโรงเรียนวัดโคกโคเฒ่า โดยพบ Pain Point คือ โรงเรียนวัดโคกโคเฒ่าได้รับงบประมาณต่อปีอยู่ที่ 400,000-500,000 บาท ซึ่งเป็นงบประมาณดำเนินการทุกอย่าง โดยเป็นงบประมาณอาหารกลางวันต่อหัวของนักเรียนเฉลี่ย 12.88 บาท/คน ซึ่งไม่เพียงพอต่อโภชนาการที่นักเรียนควรจะได้รับ ทางกลุ่มจึงทำโครงการ “จากหอมขจร สู่น้องอิ่มท้อง” ซึ่งเป็นการต่อยอดจากโครงการหอมขจรฟาร์มของมหาวิทยาลัยสวนดุสิต และทางกลุ่มสนับสนุนการสร้างรายได้โดยการพัฒนาอาชีพเสริมในการทำขนมเบอเกอรี และสนับสนุนด้านการจัดการเรียนการสอน โดยนำสื่อการสอนรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงมาเป็นสื่อในการเรียนรู้
ซึ่งผลลัพธ์ของการทำโครงการนี้คือ ได้ผลิตผลทางการเกษตรที่มีคุณภาพ รวมถึงได้มาตรฐานการผลิตตามแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรปลอดภัย โดยรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตทางการเกษตร จะนำกลับคืนสู่โรงเรียนเพื่อเป็นทุนสนับสนุนโครงการอาหารกลางวันของโรงเรียนวัดโคกโคเฒ่า และโรงเรียนยังมีการสร้างรายได้เพิ่มจากการพัฒนาอาชีพเสริมในการทำขนมเบอเกอรี
กลุ่มที่ 3 ที่มานำเสนอเสนอคือกลุ่มของ Huangshan ในหัวข้อ WELL - BEING : การส่งเสริมการดูแลสุขภาวะเบื้องต้น ในพื้นที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลดอนมะสังข์ โดยมีชื่อโปรเจกต์ว่า
“เกษียณหรรษา”
โครงการนี้เป็นโครงการที่เกิดจากปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุในปัจจุบัน ที่เกี่ยวกับโรคติดต่อไม่เรื้อรัง หรือ NCDs ซึ่งได้แก่ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หลอดเลือดสมอง และโรคอื่น ๆ โดยองค์กรอนามัยโลก (WHO) กำหนดแนวทางในการพัฒนาผู้สูงอายุให้เป็น Active Aging ซึ่งประกอบด้วย 3 หลักการ คือ การมีสุขภาพที่ดี, การมีส่วนร่วม และการมีหลักประกันและความมั่นคง โดยทางกลุ่ม Huangshan ได้มีการจัดกิจกรรมด้านการส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้กับผู้สูงอายุ โดยการพาผู้สูงอายุเยี่ยมชมหอมขจรฟาร์ม ต้นแบบเกษตรปลอดภัยอัจฉริยะ การแนะนำการส่งเสริมรายได้ผู้สูงอายุด้วยการปลูกพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ รวมถึงการอบรมเชิงปฏิบัติการที่สอนการทำอาหารเพื่อสุขภาพ อย่างสลัดโรล น้ำสลัดซีฟู้ดส์ และครีมบำรุงผิวชะลอวัย นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมสันทนาการและการสร้างเสริมสมรรถภาพของร่างกายอีกด้วย
ซึ่งผลลัพธ์ของการดำเนินโครงการพบว่าเครือข่ายผู้สูงอายุ ที่เป็นอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) มีความสนใจพร้อมที่จะนำความรู้ไปถ่ายทอดให้กับคนในชุมชน รวมถึงมีการนำเสนอให้ผู้เข้าร่วมหลักสูตร PLP และมหาวิทยาลัย ดำเนินการจัดกิจกรรมเพิ่มเติมทำให้เกิดเป็นโครงการต่อยอดในระยะถัดไป
สำหรับกลุ่มสุดท้ายที่มานำเสนอคือกลุ่มของ Fujisan ในหัวข้อ FOOD : การแปรรูปสินค้าประมง (ปลาสลิด) ในพื้นที่ชุมชนรัฐวิสาหกิจแปรรูปสินค้าประมง ปลาสลิด ชุมชนสิริ สุพรรณ โดยมีชื่อโปรเจกต์ว่า
“สลิด สนิท”
โครงการนี้เกิดจากการที่ทางกลุ่มพบว่ามีชุมชนด้านอาหารมากมายและหนึ่งในชุมชนที่น่าสนใจคือ ชุมชนสิริสุพรรณที่ทำการผลิตและแปรรูป “ปลาสลิด” ดอนกำยาน ที่มีการคัดสรรวัตถุดิบในชุมชนเมืองสุพรรณบุรีจากฟาร์มเลี้ยงปลาสลิดที่ได้ มาตรฐาน จีเอพี และนำปลาสลิดมาแปรรูปในรูปแบบที่หลากหลาย เช่น ปลาสลิดแดดเดียวแช่แข็ง การนำปลาสลิดมาแลกลางออกหั่นเป็นชิ้นทอดกรอบ ทางกลุ่มจึงมีส่วนช่วยในการพัฒนาความมั่นคงทางอาหารในวิสาหกิจชุมชนสิริสุพรรณ และสร้างแนวทางในการส่งเสริมความมั่นคงทางอาหารเพื่อให้เกิดความมั่นคงทางอาชีพและรายได้
ซึ่งทางกลุ่มมองเห็นถึงข้อจำกัดในการทำสินค้าปลาสลิดนี้อยู่ 4 เรื่องคือ
1. ข้อจำกัดเรื่องคน เนื่องจากในช่วงแรกหุ้นส่วนยังไม่ค่อยเข้าใจในการลงทุน
2. ด้านเครื่องมือและอุปกรณ์ พบว่าอุปกรณ์และเครื่องมือยังไม่มีความแม่นยำเพียงพอ
3. ปัญหาช่องทางการจัดจำหน่ายที่ค่อนข้างน้อย อันเนื่องมาจากข้อจำกัดของปลาสลิดเอง
และข้อจำกัดสุดท้ายคือ การรับซื้อและการเก็บรักษาที่ต้องมีความละเอียดและรอบคอบในการจัดเก็บ จึงต้องใช้วิธีการที่เฉพาะเจาะจง
จากข้อจำกัดดังกล่าวทางกลุ่มพบว่าการใช้กลยุทธ์ในความได้เปรียบทางธุรกิจด้านการลงทุนแบบเริ่มต้นผ่านระบบวิสาหกิจชุมชนจะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและภาคเอกชนมากกว่าการเป็นบริษัท
พิธีมอบรางวัล โครงการ Sustainable Development Leadership Homkhajorn Model CSR Project Award
สำหรับช่วงนี้ได้รับเกียรติจาก ดร.ถนอม อินทรกำเนิด นายกสภามหาวิทยาลัยสวนดุสิต เป็นผู้มอบรางวัล โดยรางวัล รางวัลเห็นผลเชิงประจักษ์อย่างเป็นรูปธรรม (Outstanding Result) เป็นของกลุ่ม Everest
รางวัลการเห็นผลกระทบวงกว้าง (High-Impact) เป็นของกลุ่ม Fujisan
รางวัลส่งต่อความยั่งยืน (Legendary Leader) เป็นของกลุ่ม Matterhorn
รางวัลรูปแบบการนำเสนอ (Impressive Presentation) เป็นของกลุ่ม Huangshan
และหลังจากนั้นจะเป็นพิธีมอบประกาศนียบัตรหลักสูตร The Pinnacle Leadership รุ่นที่ 1 โดย ดร.ถนอม อินทรกำเนิด และถ่ายรูปร่วมกันส่งท้าย
ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตรเพิ่มเติมสามารถติดตามได้ที่
Website : Thepinnacle, DurianCorp
Facebook : The Pinnacle Leadership Program , DurianCorp
#ThePinnacleLeadershipProgram #PLP
#SDUXDURIAN #SDU
#โอฬาวีระนนท์ #DURIAN #Becomealegendaryleader
#ชนะศึกนิชานนท์ #เบญจวรรณสุจริต #กฎทองบุญพรรคนาวิก
#ถนอมอินทรกำเนิด #ศิโรจน์ผลพันธิน #วรานีเวสสุนทรเทพ #วิเชียรฤกษ์ไพศาล
#พัชรีสวนแก้ว #อภิทานลี #ถนอมอินทรกำเนิด
อย่าลืมกดติดตาม Tojo News เพื่อพบกับข่าวสาร และบทความใหม่ ๆ จากเรา