โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

คลังเตรียมเปิดลงทะเบียน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ภายใน มี.ค. 68 กลุ่มเดิม 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่

การเงินธนาคาร

อัพเดต 21 พ.ย. 2567 เวลา 17.29 น. • เผยแพร่ 21 พ.ย. 2567 เวลา 10.29 น.

จุลพันธ์ เผย คลังเตรียมเปิดลงทะเบียน “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” รอบใหม่ภายในเดือน มี.ค. 2568 คาดมีผู้ลงทะเบียนเพิ่ม 10 ล้านคน กลุ่มเดิมที่ได้รับสิทธิปี 65 จำนวน 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ คัดกรองสิทธิให้อัตโนมัติ ตั้งเป้าประกาศผลภายใน ก.ค.68

21 พ.ย. 2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม (บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) ว่าที่ประชุมวันนี้ได้หารือถึงแนวทางการดำเนินโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในระยะต่อไป โดยจะเริ่มเปิดลงทะเบียนรอบใหม่ภายในวันที่ 31 มี.ค. 2568

โดยในส่วนของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐตามโครงการลงทะเบียนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 (กลุ่มเดิมที่ได้รับสิทธิในปัจจุบัน) จำนวน 14.5 ล้านคน ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ โดยกระทรวงการคลังจะนำข้อมูลที่มีอยู่มาทบทวนสิทธิโดยอัตโนมัติ

ขณะที่จะเปิดให้ประชาชนกลุ่มใหม่เข้ามาลงทะเบียนเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะมีผู้เข้ามาลงทะเบียนรอบใหม่ประมาณ 10 ล้านคน มากจากกลุ่มเยาวชนที่อายุเข้าเกณฑ์ 18 ปี และ กลุ่มประชาชนที่เคยลงทะเบียนในรอบปี 2565 แต่ไม่ผ่านเกณฑ์

“คาดว่าจะมีผู้เข้ามาสู่กระบวนการลงทะเบียนผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐในรอบเดือน มี.ค. 2568 ที่ประมาณ 25 ล้านคน รวมทั้งกลุ่มที่ได้รับสิทธิอยู่แล้ว และ กลุ่มที่จะเข้ามาลงทะเบียนใหม่ แต่เมื่อผ่านการคัดกรองแล้ว คาดว่าจะมีผู้ได้รับสิทธิลดลง เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนบางกลุ่มหลุดพ้นจากความยากจน”

นายจุลพันธ์ เปิดเผยว่า ในการประชุมครั้งนี้ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ศึกษาการลงทะเบียนผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ หรือ ต้องมีขั้นตอนการลงทะเบียนที่สะดวกกับกับประชาชน

นอกจากนี้ได้สั่งการให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ทบทวนเกณฑ์คุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิให้มีความรัดกุมมากขึ้น ป้องกันไม่ให้คนจนไม่จริงเข้ามาสวมสิทธิ โดยให้กลับมาเสนอภายใน 1 เดือน โดยเกณฑ์รายได้ครัวเรือนยังมีอยู่เหมือนเดิม ขณะที่จะทบทวนเรื่องการถือครองที่ดิน สินทรัพย์ การถือครองสลาก และ พันธบัตร

“เรามองว่าเกณฑ์ครอบครัวยังมีความเหมาะสม และยังใช้งานได้จริง เพราะบางคน เช่น แม่บ้านที่ไม่ได้ออกไปทำงานข้างนอก แต่ก็ยังมีรายได้จากสามี หรือ ลูกด้วย”

ขณะที่ยังได้ให้สศค. ศึกษาการทบทวนสิทธิและสวัสดิการของบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้เหมาะสม เช่น วงเงินการซื้อของจากร้านธงฟ้า ค่าแก๊ส เนื่องจากที่ผ่านมามีผู้ใช้สิทธิเพียง 40% รวมถึงค่าเดินทางที่ปัจจุบันยังพบว่ามีการใช้สิทธิคงเหลืออยู่จำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้ให้ไปศึกษาเรื่องการใช้งบประมาณในการเพิ่มศักยภาพ (up skill - re skill) ด้วย

ทั้งนี้ที่ผ่านมาการทำโครงการสวัสดิการแห่งรัฐ ใช้งบประมาณกว่า 60,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งในรอบใหม่มีความตั้งใจที่จะให้กระบวนการลงทะเบียนตรวจสอบคุณสมบัติ รู้ผลได้ภายในก.ค.2568 เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดตั้งงบประมาณในปี 2569

อย่างไรก็ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติให้ทบทวนผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐทุก 2 ปี ขณะที่ระหว่างกานดำเนินการกระทรวงการคลังจะทำการตรวจสอบคุณสมบัติทุก 8 เดือน หากพบว่าประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจนไม่เป็นไปตามเกณฑ์ผู้ได้รับสิทธิก็สามารถตัดออกจากการเป็นผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้

นายจุลพันธ์ เปิดเผยว่า นอกจากนี้ที่ประชุมได้รับทราบการดำเนินการโครงการลงทะเบียนผู้มีสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐในปี 2565 ซึ่งมีผู้ได้รับสิทธิ 14.5 ล้านคน โดยในจำนวนนี้มีประมาณ 1 ล้านคน ที่ผ่านเกณฑ์แต่ไม่ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (e-KYC) ซึ่งทำให้กระทรวงการคลังไม่สามารถจ่ายเงินให้ได้

ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนในกลุ่มดังกล่าวให้ตรวจสอบสิทธิผ่านเว็บไซต์ welfare.mof.go.th หากพบว่าได้รับสิทธิให้รีบไปยืนยันตัวตนที่ธนาคารกรุงไทย ภายในวันที่ 26 ธ.ค. 2567 เพื่อให้กระทรวงการคลังสามารถจ่ายเงินสวัสดิการในส่วนที่เหลือได้ อย่างไรก็ตามจะไม่ได้รับสิทธิย้อนหลัง

“จากการดำเนินการที่ผ่านมา เราพบว่ามีผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 ที่ผ่านเกณฑ์แต่ไม่ได้ไปยืนยันตัวตน โดยในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตไปแล้ว 3 แสนคน เหลืออีก 7 แสนคน โดยกระทรวงการคลังขอให้เร่งดำเนินการตรวจสอบสิทธิและยืนยันตัวตนผ่านธนาคารกรุงไทยภายใน 26 ธ.ค. นี้ เพื่อให้ได้รับสวัสดิการในช่วงที่เหลือ ไม่อย่างนั้นจะถือว่าสละสิทธิ”

อ่านข่าว เศรษฐกิจทั่วไทย ทั้งหมด ได้ที่นี่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...