ทุกคนต้องเคยสัมผัสกับความเหงา..
ความเหงาเป็นโรคประหลาดชนิดหนึ่ง
ถึงจะเจอผู้คนมากมาย แต่ก็ยังรู้สึกเหงา
ถึงจะคุยกับผู้คนมากมาย แต่ก็ยังรู้สึกเหงา
เพราะฉะนั้นการอยู่คนเดียวจึงไม่ได้ทำให้เกิดความเหงา บางคนอยู่ต่างจังหวัด ทำไร่ ไถนาคนเดียว ก็ไม่ได้รู้สึกเหงา ผิดกับคนกรุงที่แม้จะอยู่ในเมือง พบเจอผู้คนมากมายแต่กลับเหงาขึ้นมาจับใจ
หรือความเหงาจะเกิดจากการไม่มีคนมารัก ไม่มีคนมาคอยชื่นชม ก็เลยเหงา แต่ก็ไม่ใช่อยู่ดี เพราะดารา-นักแสดงที่มีคนชื่นชมมากมาย ก็เหงาและซึมเศร้าได้
เราต้องรู้ก่อนว่าความเหงาเกิดจากอะไร เมื่อรู้แล้วก็จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของความเหงา..
ความเหงาเกิดจากความไม่มั่นใจในคุณค่าของตัวเอง รู้สึกที่ว่าตัวเองต่ำต้อย ไม่ทัดเทียมคนอื่น แม้จะรวย หรือประสบความสำเร็จแล้ว ก็ยังรู้สึกเหงาและต่ำต้อยได้ ถ้าเขาเหล่านั้นยังไม่รู้จักคุณค่าของตัวเองดีพอ
เมื่อคนเราเหงาก็ทำให้ฟุ้งซ่าน คิดไปเองต่าง ๆ นานา ทำให้เกิดความทุกข์ เมื่อใจเป็นทุกข์ก็หมดพลัง หมดแรงใจจะทำอะไร ๆ ในเมื่อความเหงาไม่ทำให้อะไรดีขึ้น แล้วเราจะเหงากันไปทำไม เพราะฉะนั้นมาแก้เหงาด้วย 3 ตัวช่วยเหล่านี้กันดีกว่า แล้วการอยู่คนเดียวจะไม่เหงาอีกต่อไป
1. คิดว่าเหงา มันก็เหงา
จะเหงาหรือไม่เหงาอยู่ที่จิตใจของเราเอง ถ้าคิดว่าอยู่คนเดียวไม่ได้ อยู่คนเดียวแล้วเหงา มันก็เหงาตามที่คิดนั่นแหละ จริง ๆ แล้วในชีวิตคนเรามีอะไรให้ทำเยอะแยะโดยที่ไม่ต้องมานั่งเหงาให้เปล่าเปลี่ยวเดียวดายอยู่คนเดียว แต่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะอยู่กับตัวเอง คิดวนเวียนเรื่องของตัวเอง ทำให้ความเหงาเข้ามาเกาะกินจิตใจ
ถ้าเรามัวแต่คิดวนเวียนกับเรื่องแบบนี้ ก็ไม่มีทางเลยที่ขจัดความเหงาออกไปได้ ทางที่ดีที่ถูกคือเลิกคิดว่าตัวเองเหงาเสียที เอาธรรมะเข้าช่วยจะทำให้หายเหงาไปได้มาก หมั่นฝึกเจริญสติสัมปชัญญะ สลัดทิ้งความเหงาไปให้หมด ซึ่งการทำสมาธิก็ช่วยได้ แม้จะเป็นการอยู่กับตัวเองเหมือนกัน แต่สมาธิทำให้จิตใจปลอดโปร่งและหายเหงาได้ดีกว่าการคิดวกวนอยู่กับตัวเองมากนัก
2. สร้างคุณค่าในตัวเอง
บางคนอยู่คนเดียวแต่กลับไม่เหงา เพราะเค้าตระหนักในคุณค่าของตัวเอง อย่างพระธุดงค์ที่อยู่รูปเดียวในป่า แต่ก็ไม่มีความคำว่าเหงา เพราะพระท่านรู้ว่ากำลังทำอะไร จิตใจนิ่งอยู่กับสิ่งที่ทำ และตระหนักในคุณค่าของตัวเอง
การสร้างคุณค่าในตัวเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนอื่น แต่ต้องเกิดจากตัวเอง เกิดจากความศรัทธาในตัวเอง มีศีล มีวินัย ไม่ปล่อยชีวิตให้ลอยไปเรื่อย ๆ หมั่นพัฒนาตัวเองให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น แล้วนำความรู้ความสามารถที่มีอยู่เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้จริง ใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า ไม่เปล่าประโยชน์ เสียสละเพื่อคนอื่นบ้าง การทำสิ่งเหล่านี้นอกจากจะคลายเหงาได้แล้ว ยังทำให้เรามั่นใจในคุณค่าตัวเอง ทำให้ชื่นใจและรู้สึกว่ามีค่ามากขึ้นด้วย
3. คนรอบข้างก็ทำให้เหงาหรือไม่เหงาได้
การมีคนอยู่ข้างกายไม่ได้รับประกันว่าเราจะเหงาหรือไม่เหงา แต่คนที่อยู่ข้างกายและเห็นความสำคัญของเรา จะไม่ทำให้เหงาอย่างแน่นอน คนรอบข้างนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่ที่จำนวน คนเยอะแต่เหงาก็มีถมไป หรือคนน้อยแต่ไม่เหงาเลยก็มีถมไปอีกเช่นกัน
การจะเหงาหรือไม่เหงา ขึ้นอยู่กับการที่เค้าเหล่านั้นตระหนักถึงคุณค่าของเราหรือเปล่า แค่คน ๆ เดียวที่คู่คิด คู่ใจ เปิดอกคุยกันได้ คุยกันแล้วมั่นใจ คนแบบนี้แค่คนเดียวก็ช่วยแก้อาการเหงาได้แล้ว เพราะฉะนั้นคุณภาพจึงสำคัญกว่าปริมาณ
ตัวช่วยเหล่านี้แม้จะทำให้หายเหงาได้ แต่ถ้ายังคงวนเวียน วกวนอยู่กับความเหงาที่อยู่ในใจ ไม่ออกแรงดึงตัวเองออกมาจากสิ่งแวดล้อมและสภาพเดิม ๆ มัวแต่จมจ่อมกับเรื่องของตัวเอง ความเหงาของตัวเอง ก็ไม่มีวันเลยที่จะหายเหงาได้แม้จะมีคนมากมายอยู่รอบกายก็ตาม