พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยฯ ยกอดีตยอดมวย วุฒิเดช ลูกพระบาท คือไอดอลตลอดกาล
พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยฯ ยกอดีตยอดมวย วุฒิเดช ลูกพระบาท คือไอดอลตลอดกาล
“พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” หนึ่งในนักมวยไทยเพียงไม่กี่คนของประเทศที่เป็นตัวแทนไปเผยแพร่มวยไทยบนสังเวียนระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ เปิดใจถึงต้นแบบสไตล์ความบู๊และความมุมานะพยายามในการที่จะประสบความสำเร็จในวิชาชีพ ส่วนหนึ่งก็มาจากไอดอลของเขาอย่างเจ้าตำนานมวยไทยชื่อดังในอดีตอย่าง “วุฒิเดช ลูกพระบาท”
นักกีฬาส่วนใหญ่มักมี “ไอดอล” เป็นแรงจูงใจให้พวกเขาก้าวไปสู่ความสำเร็จ “พงษ์ศิริ พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม” ก็มีเช่นกัน โดย พงษ์ศิริ นั้นเป็นที่รู้จักในวงการมวยว่า เป็นนักมวยสายบู๊ที่มีลีลาการชกดุเด็ดเผ็ดมันเสมอต้นเสมอปลาย แม้จะย้ายสำนักไปฝึกมวยมาหลายค่าย แต่เรื่องสไตล์การชกแบบนี้ยังคงเส้นคงวา ขึ้นสังเวียนที่ไหนแฟนมวยได้สนุกที่นั่น
ปัจจุบัน พงษ์ศิริ ในวัย 29 ปี เขาเป็นหนึ่งในตัวแทนประเทศไทยบนเวทีระดับโลก วัน แชมเปียนชิพ โดยมีนักมวยไทยเพียงไม่กี่คนในประเทศที่ได้รับโอกาสนี้ และเขาก็สามารถทำได้ดี แม้จะมีเวลาเตรียมตัวไฟต์แรกเพียงไม่กี่วัน แต่ก็สามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมทั่วโลกได้
พงษ์ศิริ มีต้นแบบความบู๊มาจากตำนานแห่งวงการมวยไทยอย่าง “วุฒิเดช ลูกพระบาท” หรือที่คนรู้จักสนิทสนมจะเรียกชื่อเล่นว่า “เก๋” ถือเป็นยอดมวยไทยชื่อดังคนหนึ่งในยุค 10 ปีที่ผ่านมา มีสไตล์บู๊ ป้องกันตัวดี มีเหลี่ยมเชิง กล่าวขานกันว่าเป็นมวยเข่าที่เก่งกาจและรุนแรงที่สุดในยุคนั้น จัดเป็นมวยแม่เหล็กของวงการ ประสบการณ์มวยจัดจ้าน ผ่านมวยระดับตำนานของเมืองไทย อย่าง น้องโอ๋ ศิษย์ อ.(ไก่ย่างห้าดาว), สามเอ ท.รัตนเกียรติ (ไก่ย่างห้าดาว), แสนชัย ส.คิงสตาร์ (พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม) มาแล้ว
วุฒิเดช มีดีกรีเป็นแชมป์สนามมวยเวทีสยามอ้อมน้อย รุ่นซูเปอร์แบนตัมเวต เคยคว้ารางวัลนักมวยไทยยอดเยี่ยม จากสมาคมผู้สื่อข่าวกีฬาแห่งประเทศไทย ปี 2550 และรางวัลสยามกีฬาอวอร์ด ครั้งที่ 2 แถมยังเคยเป็นตัวแทนทีมชาติไทยไปลงแข่งขันกีฬาวูซูในซีเกมส์และเอเชียนเกมส์ แต่มีอันต้องแขวนนวมในช่วงตอนอายุใกล้ 30 ปีเพราะสุขภาพไม่ดีและสังขารไม่เอื้ออำนวย
ย้อนไปสมัย 14-15 ปีก่อนตอนที่ พงษ์ศิริ ยังอยู่ค่ายเก่า ป.ศิริพงษ์ เขาเคยได้มีโอกาสไปซ้อมอยู่ค่ายเดียวกันกับไอดอลของเขาที่ ค่ายมวยลูกพระบาท จังหวัดสระบุรี ซึ่งค่ายนี้เป็นที่เลื่องลือว่าเต็มไปด้วยนักมวยเก่งๆ หลายคน ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตของ พงษ์ศิริ เลยก็ว่าได้
“ผมได้ใกล้ชิดกับ พี่เก๋ ตอนที่ซ้อมอยู่ค่ายเดียวกัน ผมชื่นชอบเขามาก และติดตามผลงานเขาตลอด นอกจากเขาจะชกมวยเก่ง ยังเป็นพี่ชายที่นิสัยดี เป็นที่รักใคร่ของคนใกล้ชิด แกไม่หวงวิชาความรู้ ไม่พูดจาโอ้อวด เป็นคนอ่อนน้อมถ่อมตน และมีความตั้งใจแน่วแน่”
ผลงานครั้งหนึ่งซึ่งเป็นที่กล่าวขานของ วุฒิเดช คือการเผชิญหน้ากับ “โคตรมวยสารคาม” แสนชัย ส.คิงสตาร์ (พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม) เมื่อ 4 ก.ค.51 ซึ่งก่อนหน้านั้นมีคนสบประมาทเขาเป็นอย่างมากว่าฝีมือไม่ถึงและโอกาสแพ้สูง แต่เมื่อทั้งคู่เจอกันจริงๆ สุดท้าย วุฒิเดช ก็เอาชนะคะแนนไปได้ในไฟต์แรก ลบล้างคำสบประมาทต่างๆ เป็นปลิดทิ้ง
สำหรับ พงษ์ศิริ แม้เขาจะไม่ใช่มวยบู๊ที่มีเหลี่ยมเชิงจัดเหมือนอย่างไอดอล “วุฒิเดช ลูกพระบาท” แต่เป็นมวยบู๊ล้างผลาญเดินหน้าฆ่ามัน ตามสไตล์ที่เขาถนัด แต่ก็ได้นำต้นแบบในเรื่องความมุมานะพยายาม และความไม่ท้อแท้ต่อคำปรามาศ มายึดเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและประกอบอาชีพจนทุกวันนี้