ชาวบ้านหมู่ 8 อ.น้ำยืน อุบล จับลูกจระเข้น้ำจืดส่งจนท. คาดถูกน้ำซัดมาจากป่าต้นน้ำลำโดมใหญ่ถิ่นอาศัยจระเข้น้ำจืดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
24 ก.ย.62 นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่ อนุรักษ์ ที่ 9 อุบลราชธานี ได้รับแจ้งจาก นายสัน สารันต์ ชาวบ้าน โดมประดิษฐ์ ว่าจับลูกจระเข้ ซึ่งคาดว่าเป็นลูกจระเข้ ด้านบนที่อยู่เหนือกว่าจุดพระนารายณ์บรรทมศิลป์ น่าจะโดนน้ำป่าซัดมาจนมาถึงบริเวณบุ่งเอือด ซึ่งบริเวณดังกล่าวนายชัยวัฒน์ เคยได้ทำการสำรวจมาก่อนหน้านี้ และพบกับลูกจระเข้น้ำจืด มาแล้วเช่นกัน
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวคาดว่าเกิดจากพายุโพดุลเข้าภาคอีสานทำให้น้ำชีมีมวลน้ำมหาศาล ลงมาท่วมจังหวัดอุบลราชธานี ประกอบกับพายุคาจิกิ ตกกระหน่ำในพื้นที่ในช่วงต้นเดือนกันยายน โดยเฉพาะบริเวณป่าต้นน้ำลำโดมใหญ่ทางตอนใต้ของจังหวัดอุบลราชธานี จึงทำให้เกิดการไหลบ่าของน้ำป่าในลำโดมใหญ่ ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของจระเข้น้ำจืดซึ่งเป็นเพียงไม่กี่แห่งของประเทศไทย จึงได้พัดพาจระเข้น้ำจืดพันธุ์ไทยแท้ลงมายังบริเวณด้านล่างเทือกเขาพนมดงรัก บริเวณหน้าหน่วยพิทักษ์ป่าวังเจ้า ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ายอดโดม
จากการสอบถามนายสัน สารันต์ บ้านโดมประดิษฐ์ ม.8 ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ชาวบ้านที่จับจระเข้ได้ ระบุว่า เมื่อวันที่ 23 กันยายน เวลาประมาณ 23.00 น. ที่ผ่านมา ขณะพายเรือหาปลากับเพื่อน รวม 2 คน พบจระเข้น้ำจืด 1 ตัว ริมตลิ่ง บริเวณบุ่งเอียด ลำโดมใหญ่ ก่อนถึงฐานปฏิบัติการไทยสู้ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่ายอดโดม ประมาณ 500 เมตร จึงจับจระเข้ด้วยมือเปล่า ตั้งใจนำไปปล่อยลำน้ำด้านบน เพราะมีความเชื่อว่าเป็นลูกหลานของเจ้าปู่แข้ด่อน แต่เปลี่ยนใจ นำส่ง เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่ายอดโดม เพื่อนำไปปล่อยในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ต่อไป
ด้านนางสาวบงกชมาศ พิมพ์สิน นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ นางสาวณัฐกานต์ คำสีม่วง นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ พร้อมด้วยว่าที่ ร.ต.อนุสิทธิ์ ประสพสุข พนักงานพิทักษ์ป่า เข้าตรวจ พบว่า ลูกจระเข้ที่พบเป็นจระเข้น้ำจืด เพศเมีย อายุประมาณ 1-2 ปี สุขภาพโดยทั่วไปแข็งแรงดี ความยาวลำตัวทั้งหมด 101 ซม. ความยาวจากปลายปากถึงรูทวาร 48 ซม. และได้เจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจโรค และเพื่อตรวจสอบสายพันธุ์ สำหรับเป็นข้อมูลจระเข้น้ำจืดที่พบในบริเวณพื้นที่ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่ายอดโดม ขณะนี้นำจระเข้น้ำจืดตัวดังกล่าว ไปพักไว้ในบ่อพักเลี้ยงชั่วคราว เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่ายอดโดม เพื่อรอการปล่อยคืนสู่ธรรมชาติต่อไป
Cr.ส่วนประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช