กลายเป็นสงครามคีย์บอร์ดจากน้ำผึ้งหยดเดียวแท้ ๆ
เมื่อชาวเน็ตไทยโต้กลับชาวเน็ตจีน หลังพระเอกหนุ่มไบร์ท วชิรวิชญ์ รีทวีตโพสต์หนึ่ง ซึ่งเป็นภาพพร้อมแคปชั่นที่เรียกฮ่องกงว่า“ประเทศ” แต่ถูกแฟนคลับชาวจีนท้วงติงว่าข้อมูลผิดพลาด เพราะ “ฮ่องกงไม่ใช่ประเทศ แต่คือส่วนหนึ่งของจีน”
ประโยคเดียวนี้เองทำให้ทั้งทัวร์จีนและทัวร์ไทยถล่มกันเองแบบไม่แคร์มาตรการห้ามท่องเที่ยว ด้วยความเห็นจากฝั่งไทยในเชิงไม่เห็นด้วยว่าฮ่องกง (และไต้หวัน) เป็นส่วนหนึ่งของจีน ถูกโต้กลับโดยจีนที่ยืนยันหนักแน่นว่าทั้งฮ่องกงและไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนจริง ๆ นะ
หลังการต่อสู้เป็นไปอย่างยาวนานข้ามคืน ไทยจีนแลกหมัดกันด้วยลีลาสารพัด ในขณะที่จีนออกหมัดด้วยลูกไม้เหน็บแนมรัฐบาล ชาวเน็ตไทยกลับรับหมัดอย่างเฉยเมย พร้อมปล่อยไม้ตายว่าอย่างน้อยฉันก็เล่น Twitter ได้ถูกกฎหมาย และไม่ว่าจีนจะใช้ข้อพิพาทใดเป็นอาวุธ ก็ดูเหมือนชาวเน็ตบ้านเราจะตอบกลับได้อย่างมีชั้นเชิง จนชาวเน็ตฮ่องกงและไต้หวันต้องออกมาแท็กทีมช่วยปะทะกับทีมจีน กลายเป็นแฮชแท็ก #ชานมข้นกว่าเลือด #MilkTeaAlliance แสดงถึงพันธมิตรกลุ่มต่อต้านในครั้งนี้
🍻🙏🏻#milktea #Thai #Taiwan #hongkong#Nnevvy#milktealogy #hkstyle #food #drink #comix #奶茶通俗學 #ミルクティー #香港 #茶餐庁 #チャーツァンティン #香港グルメ #漫畫 #插畫 pic.twitter.com/hYYzKopy5n
— 奶茶通俗學 Milktealogy (@milktealogy) April 14, 2020
ทำไมคนจีนเกรี้ยวกราดเวลาบอกว่าไต้หวัน/ฮ่องกง เป็น “ประเทศ”
เหตุผลที่ชาวจีน ไม่ถือว่าฮ่องกงและไต้หวันเป็นประเทศ ไม่ถือว่าทั้งสองมีเอกราชและอธิปไตยเป็นของตนเอง เริ่มตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เกิดสงครามกลางเมืองระหว่าง พรรคก๊กมินตั๋ง นำโดย จอมพลเจียง ไค เช็ก และพรรคคอมมิวนิสต์ นำโดย จอมพล เหมาเจ๋อตุง
ต้นเหตุมาจากการที่พรรคก๊กมินตั๋งล้มล้างระบบกษัตริย์แล้วสถาปนาประเทศ “สาธารณรัฐจีน” ขึ้น แต่ประชาชนส่วนมากที่เป็นชาวนาชาวไร่กลับไม่พอใจการบริหารงานของรัฐบาล หลายฝ่ายแปรพักตร์ไปสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์ เกิดการฟาดฟันกลายเป็นสงครามกลางเมืองดังกล่าว
เมื่อพรรคก๊กมินตั๋งพ่ายแพ้ ก็ได้ลี้ภัยไปไต้หวันพร้อมผู้สนับสนุนอีกกว่า 1.5 ล้านคน ขณะนั้นพรรคคอมมิวนิสต์ก็ได้ก่อตั้ง “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ขึ้น ในปี 1949
นโยบาย “จีนเดียว” (One China Policy) ถือกำเนิดขึ้นช่วงนี้ เมื่อจีนยื่นคำขาดต่อนานาประเทศที่ต้องการสร้างสัมพันธ์กับจีนว่าต้องไม่ยอมรับ “ประเทศไต้หวัน” โดยเด็ดขาด ในตอนแรก ๆ มีเพียงประเทศที่ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมหรือเผด็จการเท่านั้นที่เลือกผูกมิตรกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ฝ่ายสหรัฐฯ หรือไทยเอง ยังเลือกรับรองว่า “ไต้หวัน” เป็นจีนที่แท้จริง
ต่อมาเมื่อเกิดสงครามเวียดนามและสหรัฐฯ มีแนวโน้มว่าจะแพ้ จึงหันไปสานสัมพันธ์กับจีนบ้าง แลกกับการบอกเลิกกับไต้หวัน ส่วนประเทศพันธมิตรที่มีไทยรวมอยู่ด้วยก็ต้องตามน้ำ ตอนนั้นสถานทูตไต้หวันในไทยต้องปิดตัว และเปลี่ยนสถานะเป็นองค์กร มีชื่อเรียกว่า “สำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมไทเป” แทน
จนถึงทุกวันนี้ เหลือเพียง 15 ประเทศทั่วโลกที่รับรองให้ไต้หวันเป็นจีนที่แท้จริง แน่นอนว่าไม่รวมไทย
ฮ่องกง กับความหวังสู่เสรีภาพจากจีนที่ยังไม่เป็นจริง
ฮ่องกงก็ไม่ยอมเป็นจีนเดียวกับจีนเหมือนกัน
เดิมทีฮ่องกงเป็นส่วนหนึ่งของจีน จนกระทั่งอังกฤษทำสัญญาเช่าปกครองฮ่องกงเป็นเวลา 99 ปี ระหว่างนั้นอังกฤษได้เปลี่ยนระบอบการปกครองเป็นประชาธิปไตย มีระบบการค้าแบบทุนนิยมเสรี ส่งผลให้เศรษฐกิจของฮ่องกงเติบโตเป็นเมืองท่าใหญ่ ซึ่งส่งผลดีต่อจีนเองด้วย แต่เมื่อหมดสัญญาเช่าปกครอง อังกฤษขอให้จีนอนุมัติให้ฮ่องกงคงสถานะเป็นเขตปกครองตัวเองไปก่อน 50 ปี เพื่อให้การบ้านการเมืองค่อย ๆ เปลี่ยนระบบจากเก่าเป็นใหม่
เมื่อแรก ฮ่องกงที่เปรียบเสมือนวัยรุ่นไฟแรง ก็ทำหน้าที่ในฐานะเมืองท่าของจีนได้ดีเยี่ยมจนส่งผลให้ GDP ของฮ่องกงสูงกว่า 27% ของประเทศจีนทั้งประเทศทีเดียว ต่อมาจีนจึงผ่อนคลายกฎระเบียบการค้าต่าง ๆ ดันปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางเจา ให้เจริญบ้าง จน GDP จากฮ่องกงเหลือเพียง 3% ของทั้งประเทศเท่านั้น
หลังจากนั้น จีนสร้างสะพานเชื่อมระหว่างฮ่องกงกับจีนเพื่อความสะดวกในการขนถ่ายสินค้า มีความพยายามเปลี่ยนให้คนฮ่องกงมาใช้ภาษาจีนกลางแทนกวางตุ้ง เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงท่าทีอยากให้ฮ่องกงกลับไปเป็นส่วนหนึ่งของจีนก่อนกำหนด ก่อให้เกิดความไม่ไว้วางใจรัฐบาลของชาวฮ่องกง ระเบิดกลายเป็นการชุมนุมครั้งใหญ่ที่ยิงยาวมาตั้งแต่กลางปี 2019
ไทยน้องรัก, นี่จีนไงทำไมทะเลาะกันล่ะ?
ขณะที่สงครามกำลังคุกรุ่น สถานทูตจีนก็ออกแถลงท่ามกลางสมรภูมิคีย์บอร์ด กล่าวถึง “นโยบายจีนเดียว” ที่ไทยและจีนยึดมั่นต่อกันมาช้านานไม่ว่าจะผ่านวิกฤตครั้งไหน ๆ พร้อมคัดค้านบุคคลที่แสดงความเห็นต่างต่อหลักการจีนเดียวไม่ว่าในสถานการณ์ใด พร้อมชี้ว่าความเห็นส่วนบุคคลบนโลกออนไลน์สะท้อนแค่อคติและความไม่รู้ของคนบางกลุ่มเท่านั้น ไม่มีทางทำลายมิตรภาพแน่นแฟ้นระหว่างไทยจีน ที่เปรียบเสมือนพี่น้องกันอย่างแน่นอน ไม่มีใครปลุกปั่นเราได้!
使馆发言人就近期网上涉华言论发表谈话 …
โพสต์โดย Chinese Embassy Bangkok สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เมื่อ วันอังคารที่ 14 เมษายน 2020
แต่แถลงฉบับนี้เองที่จุดประกายดราม่าระลอกสอง เพราะแม้ถ้อยแถลงจะยืนหยัดถึงหลักการน่ายกย่อง แต่ประเด็นสำคัญที่ทำให้หลายคนกังขาเมื่อได้ยินคำว่าพี่น้องไทยจีน คือกรณีเขื่อนในแม่น้ำโขง โดยจีน
จากผลวิจัยล่าสุดจากสหรัฐอเมริกา เผยภาพดาวเทียม โดยอลัน เบซิสต์ (Alan Basist) นักกาลวิทยา ว่าเขื่อนกั้นแม่น้ำโขงในจีน กักน้ำไว้ปริมาณมหาศาลในช่วงปีที่แล้วที่ประเทศลุ่มน้ำโขงแล้งจัด สร้างความลำบากให้ประเทศท้ายน้ำอย่างลาว เวียดนาม กัมพูชา รวมถึงไทยแลนด์น้องพี่ด้วยไง จำไม่ได้เหรอ?
จีนตอบโต้ว่าผลวิจัยดังกล่าวไม่เป็นความจริง เพราะช่วงฤดูฝนปีที่แล้วมณฑลยูนนานเองก็แล้งรุนแรง ระดับน้ำในเขื่อนจีนก็ลดลงต่ำสุดเช่นกัน และแม้จะปฏิเสธ แต่เครื่องมือตรวจวัดความชื้นจากดาวเทียมโดยสหรัฐฯ กลับตรวจพบหลักฐานอีกว่าช่วงเวลานั้นดินที่ยูนนานมีความเปียกชื้นสูงกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งข้อพิพาทนี้ยังไม่ได้คำตอบอื่นใดจากรัฐบาลจีน
“จีนเดียว”
จากเทรนด์ #ประเทศไต้หวัน #ประเทศฮ่องกง สู่การร่วมมือครั้งสำคัญอย่าง #มิตรรักชานม จนถึง #StopMekongDam เราได้ยินเสียงและเห็นมุมมองคนรุ่นใหม่ที่มีต่อโลก รวมถึงความปรารถนาที่จะแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์บนโลกโซเชียลระดับนานาชาติที่สำนักข่าวใหญ่อย่าง CNN หรือ Router ยังจับตามอง
ประเทศมหาอำนาจของโลกอย่างจีนมีวิธีรับมือกับทุกวิกฤตได้เด็ดขาด ด้วยทรัพยากร แนวคิด รวมถึงการเมืองที่เข้มแข็ง แต่ด้วยกาลเวลาที่ผันเปลี่ยน ประเทศ ไม่ใช่แค่ “ชาติ” แต่คือ “ผู้คน” น่าสนใจว่าทิศทางของ “จีนเดียว” จะถูกนำมาถกเถียงกันอีกครั้งอย่างไร ในเวทีโลก
--
อ้างอิง
ความเห็น 200
Songkran.c
BEST
เรื่องเม้นนโยบายระดับประเทศ จะสนุกจะเอามันส์
ก็ควรจะมีขอบเขต มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนผล
ตามมาระวังจะสร้างความเสียหายอันไม่คาดคิดนะครับ
15 เม.ย. 2563 เวลา 22.55 น.
hui
BEST
ไทยอย่าไปยุ่งกับเขาเลย อยู่เฉย ๆดีกว่า
15 เม.ย. 2563 เวลา 23.03 น.
San
BEST
ประเด็นแบบนี้ไม่ต้องจุดก็ได้นะ สร้างความบาดหมางกันเปล่าๆจากเรื่องไม่เป็นเรื่อง
15 เม.ย. 2563 เวลา 23.13 น.
เราคนไทยต้องรักษามารยาทระหว่างประเทศค่ะ เราไม่ควรทำการละเมิดก้าวกายเรื่องภายในประเทศใดๆก็ตาม ต้องให้ความเคารพซึ่งกันและกัน แสดงออกด้วยความสุภาพและให้เกียรติกันและกัน
16 เม.ย. 2563 เวลา 00.04 น.
Kc
สามจังหวัดชายแดนเรายังไม่ยอมให้แบ่งแยกเลย อย่าไปว่าเขาประเทศของเรา พวกโซเชียลก็อย่าเม้นแค่เอามัน ทางจีนก็ควรเตือนคนของเขาด้วย อย่าสร้างประเด็นด้วยเรื่องผิดพลาดเพียงเล็กน้อย
15 เม.ย. 2563 เวลา 23.17 น.
ดูทั้งหมด