โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เหรียญกงจักร 16 แฉก หลวงพ่อรุ่ง ปุญญกโร วัดโพธิ์พระใน เพชรบุรี

มติชนสุดสัปดาห์

อัพเดต 17 ธ.ค. 2565 เวลา 06.28 น. • เผยแพร่ 02 ต.ค. 2564 เวลา 05.13 น.
(ซ้าย) หลวงพ่อรุ่ง ปุญญกโร (ขวา) เหรียญกงจักร หลวงพ่อรุ่ง (หน้า-หลัง)

โฟกัสพระเครื่อง–(สุรินทร์ สรรพคุณ)

โคมคำ / komkam.ks@gmail.com

เหรียญกงจักร 16 แฉก

หลวงพ่อรุ่ง ปุญญกโร

วัดโพธิ์พระใน เพชรบุรี

“พระครูปุญญกรวิโรจน์” หรือ“หลวงพ่อรุ่ง ปุญญกโร” วัดโพธิ์พระใน อ.เมือง จ.เพชรบุรี พระเกจิอาจารย์ที่ชาวตำบลโพพระเคารพนับถือ

วัตถุมงคลได้รับความนิยมอย่างมาก โดยเฉพาะ“เหรียญกงจักร 16 แฉก หลวงพ่อรุ่ง” มีทั้งหมด 3 รุ่น

รุ่น 1 สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2490 เพราะช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ ยังไม่เคยจัดสร้างแต่อย่างใด แต่ได้พระเกจิอาจารย์ที่โด่งดังในสมัยนั้นร่วมปลุกเสกมากมาย

มีหูห่วง ด้านหน้าเป็นรูปเหมือนหลวงพ่อรุ่งครึ่งองค์ หันหน้าตรง ในวงกลมด้านล่างมีอักษร เขียนคำว่า “พระครูปุญญกรวิโรจน์”

ด้านหลังเป็นเส้นยันต์มีอักขระขอม คาถาพระเจ้าห้าพระองค์ อ่านว่า นะโมพุทธายะ ด้านล่างเป็นตัวเลขอารบิก “2490”

เหรียญกงจักร รุ่นที่ 2 สร้างในปี พ.ศ.2513 ลักษณะเหมือนกับเหรียญรุ่น 1 ทุกประการ มีข้อแตกต่างตรงด้านหลัง ใต้อักขระยันต์ เป็นตัวเลขไทย “๒๕๑๓”

ส่วนรุ่นที่ 3 เหมือนกับเหรียญรุ่น 1 และรุ่นที่ 2 มีข้อแตกต่างตรงด้านหลัง ใต้อักขระยันต์ เป็นตัวเลขไทย “๒๕๓๙” อีกทั้งยังจัดสร้างเหรียญแบบมีลงยาสีประจำวันด้วย

ทั้ง 3 รุ่น หลังจัดสร้างแล้วเสร็จ ได้รับความนิยมอย่างดี ถึงแม้จะเป็นเหรียญตาย ที่สร้างหลังมรณภาพไปแล้วก็ตาม

ผู้มีไว้ในครอบครองจึงเป็นที่หวงแหนกันมาก

มีนามเดิมว่า รุ่ง สุวรรณเพ็ชร เกิดที่ ต.นาพันสาม อ.เมือง จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2425 ตรงกับวันพฤหัสบดีขึ้น 10 ค่ำ เดือน 2 ปีมะเมีย บิดา-มารดาชื่อ นายสว่างและนางเปี่ยม สุวรรณเพ็ชร

เมื่ออายุ 11 ปี นายสว่างผู้เป็นบิดา นำไปฝากเป็นศิษย์พระปลัดบุญ วัดชีว์ประเสริฐ อ.เมือง จ.เพชรบุรี เพื่อรับการศึกษาเล่าเรียน ศึกษาด้วยความอุตสาหวิริยะ จนสามารถอ่านเขียนได้คล่องทั้งหนังสือไทยและหนังสือขอม

ครั้นอายุ 15 ปี จึงกลับมาช่วยครอบครัวประกอบอาชีพทำสวนตาล

พ.ศ.2448 ขณะนั้นอายุ 22 ปี เข้าสู่พิธีอุปสมบท ณ วัดปากทะเลนอก อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี โดยมีหลวงพ่อดิษฐ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดปากทะเลนอก เป็นพระอุปัชฌาย์, เจ้าอธิการกรานต์ วัดโพธิ์พระใน เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ศึกษาวิทยาคมต่างๆ กับหลวงพ่อดิษฐ์ และเดินทางไปมาระหว่างวัดโพธิ์พระในกับวัดปากทะเลนอกอยู่เสมอ

นอกจากนี้ ยังได้มีโอกาสศึกษาวิทยาคมกับพระอาจารย์สุ่ม พระภิกษุสูงอายุที่วัดโพธิ์พระใน ซึ่งท่านมีความชำนาญทางด้านแพทย์แผนโบราณ และมีวิทยาคมสูงมาก ซึ่งหลวงพ่อรุ่งท่านได้รับการถ่ายทอดสรรพวิชาต่างๆ ไว้จนหมด

กระทั่งปี พ.ศ.2460 พระอธิการทิพย์ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์พระใน มรณภาพลง จึงได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส พร้อมเป็นเจ้าคณะหมวดในปีเดียวกัน

วัดโพธิ์พระใน ตั้งอยู่ที่ ต.โพพระ อ.เมือง จ.เพชรบุรี สร้างขึ้นเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด แต่คาดว่าสร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ตอนปลายรุ่นราวคราวเดียวกับวัดเกาะ ต.ท่าราบ อ.เมือง จ.เพชรบุรี

ประวัติเท่าที่สืบค้นได้มีเจ้าอาวาสที่ปกครองวัดอยู่ 7 รูป (ก่อนหน้านี้คาดว่ามีหลายรูป แต่ไม่สามารถสืบค้นประวัติได้) คือ 1.พระอธิการสงค์ 2.พระอธิการโต 3.พระอธิการกรานต์ 4.พระอธิการทิพย์ 5.พระครูปุญญกรวิโรจน์ (หลวงพ่อรุ่ง) พ.ศ.2460-2488 6.พระครูโพธิวรคุณ (หลวงพ่อพลัด) พ.ศ.2488-2541 7.พระครูบวรโพธิวิโรจน์ (หลวงพ่อสมจิต) พ.ศ.2541-ปัจจุบัน

วัดโพธิ์พระใน ผ่านความเจริญรุ่งเรืองและเสื่อมชำรุดเรื่อยมา หลวงพ่อรุ่งดำเนินการก่อสร้างซ่อมแซมถาวรวัตถุต่างๆ ที่เกือบสิ้นสภาพให้กลับคืนยังประโยชน์ดังเดิม พร้อมจัดการงานอันเป็นสิ่งสาธารณูปการต่างๆ อาทิ สร้างกำแพงล้อมรอบพระอาราม ขุดสระน้ำกักเก็บไว้เป็นสาธารณะ สร้างโรงเรียนประชาบาล สร้างศาลาการเปรียญ ตั้งโรงเรียนนักธรรมศึกษาปริยัติธรรม สร้างหอพระไตรปิฎก ฯลฯ

พ.ศ.2475 เป็นพระอุปัชฌาย์

พ.ศ.2481 ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นประทวน นามว่า พระครูรุ่ง

พ.ศ.2484 ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร นามว่า “พระครูปุญญกรวิโรจน์”

ทั้งนี้ เมื่อปี พ.ศ.2486 หลวงพ่อรุ่งได้เริ่มสร้างศาลาการเปรียญขึ้นอีก 1 หลัง กว้าง 11 เมตร ยาว 23 เมตร (แต่ไม่ทันเสร็จก็มรณภาพเสียก่อน)

วัตถุมงคลต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นของที่มีผู้มาขอให้ทำเฉพาะตัว เช่น ตะกรุดลูกอม ที่เป็นของท่านสร้างจริงๆ ก็มีแต่ผ้ายันต์ ทำขึ้นเพื่อแจกทหารในครั้งสงครามอินโดจีนเท่านั้น

ส่วนเหรียญนั้น หลวงพ่อพลัดเจ้าอาวาสรูปต่อมา เป็นผู้ดำเนินการสร้างขึ้น หลังมรณภาพไปแล้ว เพื่อแจกในงานฌาปนกิจ โดยนำแผ่นโลหะไปให้คณาจารย์ต่างๆ ในจังหวัดเพชรบุรีลงอักขระแล้วนำมาหล่อหลอมรีดเป็นแผ่น แล้วนำไปจ้างโรงปั๊มเป็นเหรียญ เมื่อเรียบร้อยจึงจัดพิธีพุทธาภิเษกโดยได้นิมนต์พระคณาจารย์ที่มีชื่อเสียงของเพชรบุรีมาร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

ช่วงบั้นปลายชีวิต เริ่มป่วยเป็นโรคลม แต่อาการของโรคประจำตัวนี้ หายบ้างเจ็บบ้างเป็นครั้งคราว ครั้นถึง พ.ศ.2488 โรคซึ่งเป็นประจำตัวนี้ได้เริ่มทำพิษบ่อยครั้งขึ้น ครั้นถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2488 อาการอาพาธทรุดหนักยิ่งขึ้น

เมื่อถึงวันที่ 4 กันยายน 2488 เวลา 01.15 น. จึงมรณภาพด้วยอาการสงบ

สิริอายุ 61 ปี 7 เดือน 16 วัน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...