เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 66 กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ รายงานว่า เรือรบ สหรัฐฯ และเรือพาณิชย์ จำนวน 3 ลำ ถูกกลุ่มกบฏฮูตี ในเยเมน ยิงขีปนาวุธ และโดรนโจมตี เมื่อเวลาประมาณ 09.15 น.ตามเวลาท้องถิ่น ในเขตทะเลแดง ใกล้เมืองซานา เมืองหลวงของเยเมน โดยเรือรบของสหรัฐฯ ได้ยิงโดรน 3 ลำตก เพื่อป้องกันตัวและช่วยเหลือเรือพาณิชย์ดังกล่าว
ตามรายงาน ระบุว่า เรือยูเอสเอสคาร์นีย์ (USS Carney) ซึ่งเป็นเรือพิฆาตของกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ตรวจพบขีปนาวุธที่ยิงจากพื้นที่ของฮูตีในเยเมนไปยังเรือบรรทุกสินค้า Unity Explorer ที่ติดธงบาฮามาส และมีความเกี่ยวข้องกับบริษัทอังกฤษ
ในขณะเดียวกัน ก็มีโดรนมุ่งหน้ามาทางเรือคาร์นีย์ จึงได้ยิงโดรนที่กำลังมุ่งหน้ามาจนตก แม้ว่าจะยังไม่ชัดเจนว่าเรือพิฆาตเป็นเป้าหมายหรือไม่ก็ตาม ในเวลาต่อมาเรือ Unity Explorer ก็ถูกขีปนาวุธโจมตี และส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือมายังเรือคาร์นีย์ ซึ่งก็ได้ยิงโดรนที่เข้ามาอีกลำตก โดย Unity Explorer ได้รับความเสียหายเล็กน้อยจากขีปนาวุธดังกล่าว
เรือพาณิชย์อีก 2 ลำ ได้แก่ เรือบรรทุกสินค้าติดธงปานามาหมายเลข 9 และเรือโซฟีที่ 2 ถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ เรือหมายเลข 9 รายงานความเสียหายบางส่วนแต่ไม่มีผู้เสียชีวิต และเรือโซฟีที่ 2 รายงานว่าไม่มีความเสียหายอย่างมีนัยสำคัญ
โฆษกกองทัพฮูตี ยาห์ยา ซารี อ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตี 2 ครั้ง โดยกล่าวว่า เรือลำแรกถูกขีปนาวุธโจมตี และครั้งที่สองถูกโดรนโจมตีขณะอยู่ในช่องแคบบับ เอล-มันเดบ ซึ่งเชื่อมทะเลแดงกับอ่าวเอเดน แต่ซารีไม่ได้กล่าวถึงเรือรบสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน ด้านกองบัญชาการกลางกองทัพสหรัฐฯ ระบุว่า “การโจมตีเหล่านี้เป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อการค้าระหว่างประเทศและความมั่นคงทางทะเล พวกเขาเป็นอันตรายต่อชีวิตของทีมงานนานาชาติที่เป็นตัวแทนของหลายประเทศทั่วโลก เรายังมีเหตุผลทุกประการที่เชื่อได้ว่า การโจมตีเหล่านี้ แม้จะเป็นฝีมือกลุ่มฮูตีในเยเมน แต่อิหร่านก็มีส่วนร่วมด้วย”