โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ท่องเที่ยว

บ้านปายดิน ออแกนิคฟาร์มสเตย์ ความสุขเล็ก ๆ ที่สุพรรณบุรี

บันทึกคนขี้เที่ยว

เผยแพร่ 24 ก.ย 2565 เวลา 02.58 น.

ชวนเที่ยวไทยแบบที่ใช่สไตล์ที่ชอบแบบ Stylecation ของพวกเราคือการได้ไปเรียนรู้วิถีชีวิต ได้ลองทำกิจกรรมแบบคนท้องถิ่น วันนี้เราเลยจับมือเพื่อนซี๊ไปพักผ่อนชิว ๆ ปล่อยผมให้ปลิวกับสายลมกลางทุ่ง เปลี่ยนเสื้อผ้ามาใส่ม่อฮ่อม ล้อมวงกินข้าวน้ำพริกปลาทู ดูควาย นั่งรถอีแต๊ก เก็บไข่ไก่ ดริปกาแฟ สัมผัสทุ่งนาเขียวขจีสลับที่ทองอร่ามตามครรลองของมนต์เสน่ห์แห่งภาคกลาง ณ ออแกนิคฟาร์มสเตย์ จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งการพักผ่อนสุดชิวพร้อมกับได้ทำกิจกรรมคูล ๆ แน่น ๆ แบบนี้คือสไตล์ที่เราเลิฟที่สุดเลยแหละ และที่นี่ก็ตอบโจทย์ทุกความต้องการ ทั้งได้ชิดธรรมชาติ ได้ความรู้ ความสุข ความประทับใจและรูปสวย ๆ กลับไปแบบเต็มอิ่ม

ข้อมูลเพิ่มเติม

สถานที่ : บ้านปายดิน ออร์แกนิค ฟาร์มสเตย์

ต.ทับตีเหล็ก อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี

Tel : 063-9788882 , 083-1571823

พิกัด : goo.gl/maps/g67vKgpooQJxfmKEA

ข้อควรรู้
-บ้านปายดินมีบ้านพักส่วนตัวให้เลือกทั้งหมด 10 หลัง ซึ่งแต่ละหลังจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งมีสิ่งอำนวยความสะดวกและมีแอร์ทุกหลัง
-ราคาที่พักเริ่มต้นที่ 900 บาทรวมอาหารเช้าและกิจกรรมต่าง ๆ (ยกเว้นรถอีแต๊กต้องจ่ายเพิ่ม 300 บาท) แต่แนะนำให้ลองนั่งรถอีแต๊กชมทุ่งนาเถอะ สนุกและชิวมาก
-แม้จะอยู่กลางทุ่งโล่งแต่มีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวัน ลมเย็นจนไม่ต้องใช้พัดลมกันเลย
-บ้านพักไม่ได้มีร้านอาหารและสามารถสั่งอาหารเย็นได้มีทั้งหมูกระทะและอาหารพื้นบ้านทั่วไป รสชาติดีแนะนำให้สั่ง เมนูแนะนำ ต้มยำไก่บ้าน, ชุดน้ำพริกปลาทู, ยำปลากระป๋อง ไข่เจียว อาหารอร่อยทุกอย่าง รสจัดจ้านแบบไม่เกรงใจคนเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น
-สำหรับเครื่องดื่ม น้ำอัดลมต่าง ๆ ต้องซื้อเข้ามาเองที่พักไม่มีจำหน่าย และไม่มีบริการไปซื้อให้ แต่สามารถสั่งอาหารเครื่องดื่มผ่านทางแอปพลิเคชั่นส่งอาหารได้
-สามารถทำอาหารที่ที่ฟาร์มได้ แต่ผู้เข้าพักจะต้องเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมดไปเอง
-ที่ฟาร์มมีเสื้อม่อฮ่อม คอกระเช้า ผ้าถุงไว้ให้ยืมใช้ฟรีนะ ใครอยากได้ฟิลลิ่งสาวชาวนาก็ไปขอมาเปลี่ยนกันได้
-งดใช้เสียงหลัง 21:00 น. อยากให้ได้พักผ่อนกันจริง ๆ
-ที่พักค่อนข้างอยู่ลึกกลางทุ่งนา เส้นทางค่อนข้างเปลี่ยวและมืด แนะนำว่าช่วงกลางคืนหากไม่จำเป็นไม่ควรออกไปไหน พักผ่อนข้างในตามสไตล์คนชิวดีกว่า
-ด้วยที่ฟาร์มอยู่กลางทุ่งนา หญ้าและต้นไม้ จึงเป็นปกติที่จะมีแมลง กบ เขียด เสียงร้องต่าง ๆ และหัวค่ำยุงเยอะและตัวใหญ่มาก
-สามารถพาสัตว์เลี้ยงมาได้ตัวละ 200 บาท นำอาหารเบาะนอนของน้องมาเองและแจ้งที่พักล่วงหน้าเท่านั้น

บ้านปายดิน ออร์แกนิก ฟาร์มสเตย์ จ.สุพรรณบุรี
เริ่มต้นมาจากการสร้างบ้านสำหรับอยู่อาศัยและอยากให้ทุกคนในครอบครัวได้อยู่แบบพร้อมหน้าพร้อมตากัน ปลูกผัก ทำนา เลี้ยงควาย เลี้ยงไก่ จนไป ๆ มา ๆ ก็กลายเป็นฟาร์มสเตย์แบบออกแกนิค เพราะทางที่พักตั้งใจจะทำเกษตรแบบไม่ใช่สารเคมีไว้บริโภคเองอยู่แล้ว ดังนั้นที่นี่จึงกลายเป็นแหล่งส่งต่อความรู้ พื้นที่อนุรักษ์ความเป็นอยู่ดั้งเดิมของชาวสุพรรณและเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวด้วย
สำหรับเรา เราว่าให้อารมณ์เหมือนมาพักผ่อนบ้านญาติที่ต่างจังหวัดเลยแหละ

ที่พักมีทั้งหมด 10 หลัง แต่ละหลังจะมีสไตล์ที่ไม่เหมือนกัน แต่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบและมีแอร์ให้ทุกหลัง จึงไม่ต้องกลัวว่ากลางคืนตอนนอนจะร้อนหรืออบอ้าว แต่อันที่จริงเราขอยืนยันเลยว่า การที่ฟาร์มอยู่กลางทุ่งนาทำให้ลมพัดเย็นสบายไม่ต้องกลัวเรื่องความร้อนเลย แบบนี้สิถึงจะเหมาะกับสไตล์คนขี้เที่ยวรักความชิวแบบเรา

สำหรับบ้านของเราในทริปนี้คือบ้านต้นดิน เป็นบ้านพักริมนาที่มีพื้นที่เป็นของตัวเองกว้างขวางมาก ตั้งแต่ห้องนอนแสนกว้างเปิดม่านมาก็เห็นทุ่งนา อ่างอาบน้ำสีขาวแบบบ้าน ๆ ไว้แช่น้ำชมวิว ห้องน้ำแยกออกจากตัวห้องนอน มีสนามหญ้าหน้าบ้านและห้องโถงกลางที่กว้างมาก สามารถชวนเพื่อนมานั่งเล่น รับลม ชมวิว ไกวชิงช้า หรือจะทานอาหารเย็น ปิ้งหมูกระทะ จิบกาแฟก็ได้ไม่เกี่ยง

ห้องนอนมีความเรียบง่ายน่ารัก ด้านในห้องบุด้วยไม่สานและทับด้วยไม้ไผ่เป็นลำด้านนอกห้องอีกที ทำให้เก็บความเย็นของแอร์ได้ดี ดีจนเรารู้สึกหนาวกันเลย ภายในห้องมีโต๊ะทำงาน ที่นอน หมอน มุ้ง กระจก ตู้เล็ก ๆ และตู้เย็นไว้ให้ครบ

นั่งเล่นเพลิน ๆ ที่บ้านจนแดดร่มลมตก เราก็ชวนกันเดินไปที่เถียงนา ตรงนี้จะเป็นฐานทัพของพี่สมศรี ควายน้อยขวัญใจผู้มาเยือนทุกคน โซนนี้จะมีบ้านไม้หลังใหญ่มีใต้ถุนไว้ให้พี่สมศรีและไก่ชนได้อาศัยเป็นศูนย์กลาง มีแปลงผักน้อย ๆ เถียงนาน้อยไว้นั่งพัก ปลักแช่ตัวของพี่สมศรีและยังมีกองฟางไว้ให้ถ่ายรูปสวย ๆ ด้วย ช่วงที่เรามานาบางส่วนโดนเกี่ยวออกไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังสวยน่านั่งเล่นมากเลย

และหนึ่งในกิจกรรมไฮไลท์คือการให้อาหารพี่สมศรี ไม่ว่าจะป้อนหญ้า ป้อนกล้วย พี่สมศรีก็คือเวลคัมหมดจ้า

ก่อนจะบอกลาพี่สมศรีก็ต้องขอแชะภาพกับกองฟางและเถียงนาสักหน่อย

หลังจากบอกลาพี่สมศรีแล้ว เราก็มารอที่จุดนัดพบรถอีแต๊ก ช่วงเย็น ๆ นี่ช่างบรรยากาศดีเสียจริง เราชักจะติดใจลมสบายของที่นี่แล้วสิ

กิจกรรมนั่งรถอีแต๊กจะเริ่มตั้งแต่ประมาณ 5 โมงเย็น ซึ่งกิจกรรมนี้ต้องจ่ายเงินเพิ่ม 300 บาทน้า เป็นการเพิ่มรายได้ให้ชาวนาบริเวณรอบ ๆ ด้วย โดยพี่โชเฟอร์จะขับนั่งรถอีแต๊กพาเราชมทุ่ง และรอบ ๆ บริเวณของชุมชนประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถแวะถ่ายรูป ดูพระอาทิตย์ตกบนรถอีแต๊กได้เลย เราว่าก้โรแมนติกไปอีกแบบเลยนะ

หน้าตาของคนมีความสุขมันก็ประมาณนี้แหละ เราว่าการได้เปลี่ยนมาใส่ม่อฮ่อมก็ได้ความกลมกลืนและดูเป็นแฟชั่นในอีกสไตล์หนึ่งเลยนะเนี่ย

เด็ก ๆ ก็ได้มาวิ่งเล่นกับเราตอนที่เรานั่งรถอีแต๊กด้วย หน้าตามีความสุขกันเหลือเกิน

หลังจากนั่งรถอีแต๊กทัวร์จนทั่วแล้ว ก็ถึงเวลาของมื้อเย็นที่เรารอคอย สำหรับอาหารเย็นหากจะทานที่นี่ต้องสั่งเพิ่มไม่ได้รวมอยู่ในค่าที่พัก ซึ่งมีทั้งหมูกระทะ และกับข้าวแบบผูกปิ่นโต ราคาอาหารไม่แพงและได้ปริมาณเต็มอิ่มและรสชาติดีมากกกกก แนะนำให้สั่ง เมนูแนะนำ ต้มยำไก่บ้าน, ชุดน้ำพริกปลาทู, ยำปลากระป๋อง ไข่เจียว อาหารอร่อยทุกอย่าง รสจัดจ้านแบบไม่เกรงใจคนเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น
หรือถ้าอยากซื้ออาหารเข้ามาแล้วยืมจานชามของที่ฟาร์มก็ได้ อีกทางเลือกก็คือสั่งจากแอปพลิเคชั่นได้ เขามีมาส่งถึงน้า

บรรยากาศของการกินข้าวชมวิวทุ่งนา ขอย้ำอีกครั้งเลยว่าอาหารที่นี่อร่อยมาก โดยเฉพาะน้ำพริกนี่คือยกให้ยืนหนึ่งในใจเลย อีกทั้งวัตถุดิบหลาย ๆ อย่างของที่นี่ไม่ว่าจะเป็นไข่ไก่หรือผักที่เรากินคือเก็บมาจากฟาร์มตอนเช้า ๆ เลย เพราะแต่ละอย่างทางที่ฟาร์มปลูกเอง เลี้ยงเองเกือบหมดทุกอย่าง

หลังจากมื้อเย็น เราก็นั่งคุยกันพอหอมปากหอมคอแล้วก็เข้านอนอย่างเต้มอิ่ม ตื่นมาตอนเช้าด้วยความสดใส รีบเดินกึ่งวิ่งไปที่ส่วนกลางของฟาร์มเพื่อจะทำกิจกรรมต่าง ๆ ให้คุ้ม แต่ก่อนจะถึงจุดหมาย ก็อดไม่ได้ที่จะแวะถ่ายรูปเก็บภาพสวย ๆ ไว้อวดเพื่อนในโซเชี่ยล

ในโซนส่วนกลางตรงนี้จะอยู่ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่และป่าไผ่จึงทำให้ร่มรื่นสดชื่นทั้งวัน มีพื้นที่ให้นั่งเล่น ทานมื้อเช้า นั่งห้อยขาให้อาหารปลาริมบ่อ หรือจะมาลองคั่วเมล็ดกาแฟและดริปกาแฟสด ๆ ก็ได้เช่นกัน

เอาล่ะไหน ๆ คาเฟ่ก็เปิดแล้ว เราขอรับบทบาริสต้าสาว ทำการคั่วและดริปกาแฟด้วยตัวเองสักครั้ง ความหอมของกาแฟยามเช้ามันกระตุ้นให้เราตื่นและสดชื่นได้มากเลย

หลังจากจิบกาแฟฝีมือตัวเองไปแล้ว เราก็เดินมาต่อด้วยความตื่นเต้น เพราะกิจกรรมต่อไปคือการให้อาหารไก่และเก็บไข่ไก่ในเล้า น้องไก่ที่นี่เป็นไก่อารมณ์ดีที่ต้องเลี้ยงในพื้นที่เย็น ห้ามร้อน ห้ามเครียด ห้ามเสียงดัง วันนี้เราเอากล้วยมาฝากน้อง ๆ อีกทั้งยังมีใบไผ่ที่ช่วยในเรื่องระบบย่อยให้น้องได้กินกันด้วย

หลังจากให้อาหารแล้ว เราก็เข้าไปเก็บไข่ไก่เพื่อให้ฟาร์มนำไปประกอบอาหารต่อ นอกจากจะได้เก็บไข่ไก่แล้ว ยังได้ลองอุ้มน้องไก่ด้วยแหละ น้องน่ารักและอารมณ์ดีมากเลย ขอบคุณมากเลยน้าที่ออกไข่มาใหพวกเราได้กินกัน

เนื่องจากตอนเช้าเรามีกิจกรรมที่อยากทำเยอะมาก วันนี้จึงแจ้งกับทางที่พักว่าให้เอาอาหารเช้ามาจัดให้ช่วงสาย ๆ สักหน่อย ทำให้ก่อนจะลากันไปเราก็ได้อิ่มท้องแบบสาสมใจทั้งข้าวต้ม อเมริกันเบรคฟาสต์ โอวันตินอุ่น ๆ และของหวานทั้งปาท่องโก๋ ขนมตาลและข้าวเหนียวปิ้ง ซึ่งอาหารเช้านั้นสามารถไปทานที่ส่วนกลางหรือแจ้งให้ที่พักนำมาเสิร์ฟที่ห้องก็ได้ตามสะดวก

สำหรับการมาพักผ่อนสุดชิวที่ฟาร์มออแกนิคแบบไม่ไกลกรุงเทพของเราก็จบลงแล้ว เป็นอย่างไรกันบ้าง ชอบกันหรือเปล่า และคราวนี้เราก็มาเล่าการเที่ยวในสไตล์ที่ใช่สำหรับเรากันแล้ว แล้วของพวกเธอล่ะ ชอบเที่ยวสไตล์ไหน แบบไหน มาแบ่งปันกันได้ แล้วเราจะคอยติดตามน้า
ด้วยรัก
บันทึกคนขี้เที่ยว

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...