ญาติลั่นไม่ให้อภัย ครอบครัวรอรับศพสาว 33 ปี ถูกสามีซ้อมดับ หลอกหมอ เมียล้มในห้องน้ำ ก่อนถูก ตร.รวบตัวคาโรงพยาบาล
จากกรณี น.ส.รุจิรา หรือ เอ๋ อายุ 33 ปี เสียชีวิตภายในหอพักใน ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดย นายสุววณ สามี ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแหลมฉบัง หลอกหมอว่าภรรยาล้มในห้องน้ำ แต่หมอพบจุดผิดสังเกตหลายแห่ง เนื่องจาก น.ส.รุจิรามีรอยฟกช้ำตามร่างกาย รวมถึงใบหน้าและดวงตา จึงได้ล็อกห้องฉุกเฉิน ก่อนแจ้งตำรวจรวบนายสุววณ ขณะที่แม่และครอบครัวของผู้เสียชีวิตเดินทางไปรับศพของลูกสาวเพื่อเดินทางมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดใน จ.กำแพงเพชร
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 4 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ ต.ปางมะค่า อ.ขาณุวรลักษบุรี จ.กำแพงเพชร ซึ่งเป็นบ้านเกิดของ น.ส.รุจิรา พบครอบครัวกำลังจัดเตรียมและรอรับร่างผู้เสียชีวิต ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าสามีของผู้เสียชีวิตจะลงมือทำกับผู้เป็นเมียอย่างโหดเหี้ยมขนาดนี้ และยังบอกกับหมอที่โรงพยาบาลอีกว่าเมียล้มในห้องน้ำ
นายสวัสดิ์ อายุ 58 ปี ลุงของ น.ส.รุจิรา เล่าว่า หลานสาวโทรบอกว่าปีใหม่จะกลับมาเที่ยวบ้าน ซึ่งจะต้องรอโบนัสที่ทำงานออกก่อน ก่อนหน้านี้ป้าของ น.ส.รุจิราเสียชีวิตก็ไม่ได้มางานศพ ตนรู้ข่าวว่าอีกทีว่าหลานสาวเสียชีวิตแล้ว ซึ่งก็ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด ก่อนหน้านั้นได้สอบถามน้องสาว ซึ่งเป็นแม่ของหลาน ได้โทรไปหาลูกเขยจะขอคุยด้วย แต่ฝ่ายชายบอกว่าหลับไปแล้ว ซึ่งตนก็ขอคุยโทรศัพท์กับหลานเขยต่อ สอบถามว่าทะเลาะกันหรือไม่ ก็ยอมรับว่าได้ลงมือตบไป 3 ครั้ง แต่จากสภาพศพคือกรามหัก คอหัก มีรอยบีบที่คอ รับไม่ได้กับการกระทำแบบนี้
นายสวัสดิ์กล่าวว่า ยืนยันว่าจะให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด มาทำกับหลานสาวแบบนี้ ไม่มีทางให้อภัยอย่างแน่นอน ลองคิดดูว่าหากตนไปทำกับพี่น้องของมันบ้างมันจะคิดยังไง หลานสาวตนเป็นคนดี เป็นคนทำมาหากินเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ เป็นเสาหลักของคนในครอบครัว ตอนที่ฝ่ายชายมาบ้านที่กำแพงเพชรก็มองว่าเป็นคนดี มีระเบียบเรียบร้อยดี แต่พักหลังมานี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งได้ข่าวว่าวันเกิดเหตุฝ่ายชายดื่มเหล้าจนเมาและลงมือทำร้ายเมีย เกิดการหึงหวง หาว่าเมียไปมีชู้ ซึ่งเป็นผัวเมียกันอยู่ด้วยกันก็น่าจะพูดคุยกัน ส่วนเรื่องยาเสพติดไม่รู้ว่าฝ่ายชายเสพหรือไม่ ซึ่งหลังจากที่ลงมือทำร้ายเมียแล้วตอนเช้าไปปลุกแต่เมียไม่ตื่นเลยพาส่งโรงพยาบาล จนความแตกดังกล่าว แม้แต่ตอนนี้จะมาขอขมาศพหลานสาวก็ไม่ต้องมา
ต่อมาเวลา 20.50 น. ร่างของ น.ส.รุจิรา เดินทางมาถึงบ้าน มีรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยพุทธสมาคมเพียวเยี้ยงไท้ ศรีราชา โดย “เอ หมื่นศพ” เป็นผู้นำร่างของผู้เสียชีวิตมาส่งให้ พร้อมกับชี้ร่องรอยของการถูกทำร่างกายให้ผู้สื่อข่าวดู ซึ่งก็ได้พาผู้สื่อข่าวขึ้นไปบนรถตู้กู้ภัยเปิดบาดแผลที่ถูกทำร้ายพร้อมกับเล่าให้ฟังว่า มีผู้ที่อยู่ข้างห้อง ไม่ประสงค์ออกนามเล่าให้ฟังว่าได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากผู้เสียชีวิต ลักษณะเหมือนทะเลาะกัน มองว่าเรื่องของผัวเมียก็เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่การใช้ความรุนแรงไม่ควรเกิดขึ้น ซึ่งฝ่ายหญิงร้องขอชีวิตขนาดนี้แล้วฝ่ายชายทำไมถึงไม่หยุด เห็นใจครอบครัวของผู้เสียชีวิตมาก วันนี้นั่งรถมาตลอดทางบางช่วงตนได้ยินเสียงร้องไห้ของผู้หญิง จนต้องจอดรถข้างทาง และเดินมาบอกว่าอดทนนะเดี๋ยวก็จะถึงบ้านแล้ว
หลังจากนำร่างลงมาจากรถญาติได้ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณกลับบ้าน จากนั้น “เอ หมื่นศพ” ได้แต่งหน้าให้ผู้เสียชีวิต ก่อนนำร่างเข้าโลงและบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
นายสาธิก อายุ 24 ปี น้องชายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า เห็นสภาพพี่สาวพบว่าบริเวณใบหน้าบวมเหมือนโดนซ้อมมาหนัก ซึ่งไม่ตรงกับคำพูดที่สามีพูดไว้ว่าตบแค่ 3 ครั้ง และผลการชันสูตรของแพทย์ตามร่างกายก็ย้อนแย้งกับคำให้การกับตำรวจ ขณะเดินทางไปรับศพแต่ยังไม่ถึงตำรวจก็ให้ประกันตัวผู้ก่อเหตุไปเสียก่อนไม่อย่างนั้นก็คงจะต้องมีคัดค้านการประกันตัว เพราะเกรงว่าพี่สาวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นายสาธิกเผยว่า ไม่อยากให้เรื่องเงียบ ที่ผ่านมาพี่สาวก็โทรมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ ว่ามีเหตุทะเลาะและถูกทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง ซึ่งช่วงหลังปีใหม่เดือนมกราคมก็เริ่มทะเลาะกันหนักจนฝ่ายหญิงเริ่มตีตัวออกห่าง พร้อมโทรมาเล่าให้แม่ฟัง โดยก่อนที่จะเสียชีวิตฝ่ายชายได้โทรมาบอกกับแม่ว่าทะเลาะกับฝ่ายหญิงแต่ก็ไม่ยอมให้คุยโทรศัพท์ด้วย บอกเพียงแค่ว่านอนหลับไปแล้ว จนมาพบว่าพี่สาวเสียชีวิตแล้ว มองว่าตั้งใจที่จะฆ่าพี่สาวตนมากกว่าที่จะแค่ทะเลาะกัน
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ผัวซ้อมเมียปางตาย พาส่งรพ.อ้างล้มในห้องน้ำ หมอพบพิรุธ ล็อกห้องฉุกเฉินแจ้งตร.จับ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th