วิธีเล่นเกม FPS หรือ เกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง ให้เก่งขึ้น ยิงให้แม่นขึ้น ทำอย่างไร ?

วิธีเล่นเกม FPS ให้เก่งขึ้น ยิงให้แม่นขึ้น ทำอย่างไร ?

หนึ่งในเกมประเภทที่เปิดมาแล้วอยู่ได้ยั่งยืนและยาวนานที่สุดก็เห็นจะหนีไม่พ้นเกมประเภท FPS หรือชื่อเต็ม ๆ ว่า First - Person Shooting ในคำแปลภาษาไทยว่า"เกมยิงมุมมองบุคคลที่หนึ่ง" ซึ่งเนื้อหาหลักของเกมก็จะไม่มีอะไรมาก นอกจากการหยิบอาวุธขึ้นมาเพื่อยิงกำจัดศัตรูให้สิ้นซากนั่นเอง

แต่ถึงแม้ว่า เกม FPS ในปัจจุบันจะมีอยู่มากมายหลากรูปแบบหลายแพลตฟอร์ม แต่ก็ถือเป็นความท้าทายของแต่ละค่ายในการที่จะพยายามคิดค้นรูปแบบของเกมออกมาเพื่อดึงดูดและครองใจผู้เล่นให้ได้มากที่สุด

ทว่า ถึงจะผสมออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ แก่นแท้ก็คือการยิงอยู่ดี แล้วจะทำอย่างไรให้ยิงดีสู้คนอื่นได้บ้าง ? ลองพิจารณาไล่ไปทีละข้อกัน

เนื้อหาภายในบทความ

• 1. เมาส์และแผ่นรองเมาส์ (Mouse and Mouse Pad)
• 2. ค่าความละเอียดของเมาส์ (Mouse Sensitivity)
• 3. หาเทคนิคในการเล่น (Find your own Technique)
• 4. หมั่นฝึกฝนจนชำนาญ (Practicing)
• บทสรุปวิธีเล่นเกม FPS ให้เก่งขึ้น !

1. เมาส์และแผ่นรองเมาส์ (Mouse and Mouse Pad)

จะทำให้ดีขึ้นได้ อย่างแรกต้องมาจากอุปกรณ์การเล่นพื้นฐานอย่าง เมาส์ (Mouse) เพราะถือได้ว่าเป็นหัวใจหลักของการเล่นเกมแนว FPS เลยล่ะ การมีเมาส์ที่ดีและเข้ามือ จะทำให้เราสามารถควบคุมได้อย่างแม่นยำ หวังผลได้ และสั่งได้ดั่งใจ ซึ่งในปัจจุบัน มีการออกแบบเมาส์สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะหรือ "เกมมิ่งเมาส์ (Gaming Mouse)" กันอย่างหลากหลาย ทั้งรูปแบบเมาส์และขนาดเมาส์ เมาส์ที่ดีต้องจับแล้วกระชับถนัดมือ เข้ากับการใช้งานทั้งในผู้เล่นที่ถนัดซ้ายและถนัดขวา และมีขนาดที่พอเหมาะพอดีสำหรับการเล่นในระยะเวลานาน ๆ

Credit: https://www.madcatz.com/En/Product/Detail/rat-8-plus-adv

หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเมาส์ในเกม FPS คือ ระยะเวลาในการตอบสนองของเมาส์ (Response Time) เราคงไม่อยากหงุดหงิดอารมณ์เสียขึ้นมาในระหว่างเล่นเกมเพียงเพราะเมาส์ตอบสนองช้ากว่าการคลิกของเราแน่ ๆ (ประมาณว่าคลิกขวาจะซูม แล้วอีกสองวิ ฯ เกมค่อยซูมให้) ซึ่งเราจะต้องหาเมาส์ที่มีค่าการตอบสนองที่น้อยที่สุด ยิ่งน้อยยิ่งดี เพราะนั่นหมายความว่าเมาส์จะตอบสนองต่อการสั่งงานของเราไวขึ้นนั่นเอง

อ่านวิธีเลือกซื้อเมาส์ธรรมดาและเมาส์เล่นเกมเพิ่มเติมได้ที่ :

• https://tips.thaiware.com/1432.html

มาที่แผ่นรองเมาส์กันบ้าง มีเมาส์แล้วก็ต้องมีแผ่นรองเมาส์ แผ่นรองเมาส์ที่ดีจะต้องไม่ทำตัวเป็นอุปสรรคกับการเล่นของเรา เช่น ลากเมาส์ไม่ไป ทำให้เมาส์สึกหรอไวกว่าปกติ เป็นต้น ซึ่งแผ่นรองเมาส์จะมีประเภทพื้นผิวหลัก ๆ สองแบบได้แก่ แบบเน้นความเร็ว (Speed) และ เน้นการควบคุม (Control) 

Credit: https://www.youbeli.com/5bb15d-nba-all-star-extra-large-mouse-pad-60-35-cm-p-1322354.html?stores=2473

• Speed Mousepad : แผ่นรองเมาส์แบบ Speed จะมีความแข็ง และมีพื้นผิวที่ค่อนข้างละเอียดเวลาสัมผัส การเลื่อนเมาส์จะสามารถเลื่อนไปในทิศทางที่ต้องการได้ไวกว่าแผ่นรองเมาส์รูปแบบ Control
• Control Mousepad : แผ่นรองเมาส์แบบ Control มักจะมีความหนาของแผ่นรองเมาส์มากกว่าแบบ Speed และมีพื้นผิวที่ค่อนข้างขรุขระกว่าแบบ Speed การเลื่อนเมาส์จะทำได้ช้ากว่าแบบ Speed นิดหน่อย แต่จะให้ความรู้สึกที่ควบคุมได้ และสั่งได้ดั่งใจมากกว่า

ถ้านึกภาพไม่ออกว่าทั้งสองแบบต่างกันอย่างไร แนะนำให้ไปลองที่ร้านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ดู ในปัจจุบัน ผู้ผลิตเกมมิ่งเมาส์มักทำช่องไว้ด้านข้างของแพ็คเกจที่บรรจุแผ่นรองเมาส์ เพื่อให้ผู้ซื้อสามารถสัมผัสพื้นผิวของแผ่นรองเมาส์ที่ต้องการซื้อได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องแกะกล่องแล้ว แต่ถ้ายังไม่แน่ใจเวลาใช้งานจริง ก็สามารถไปหาหน้าร้านที่ขายอุปกรณ์เกมมิ่งทดลองดูได้ เพราะคุณจะได้ลองเลื่อนเมาส์ไปมากับแผ่นรองเมาส์ด้วยตัวเองก่อนซื้อ

อ่านวิธีเลือกซื้อแผ่นรองเมาส์ได้ที่ :

• https://tips.thaiware.com/1385.html

2. ค่าความละเอียดของเมาส์ (Mouse Sensitivity)

ค่าความละเอียด (Sensitivity) อาจเป็นค่าที่ใครหลายคนเคยมองข้ามตอนเล่นเกมอื่น แต่สำหรับเกมที่เมาส์เป็นอาวุธอย่าง FPS แล้ว ค่า Sensitivity เป็นค่าที่สามารถปรับฝีมือของคนเล่นที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปได้อีกเลยล่ะ 

Mouse Sensitivity มีผลต่อการเล็งยิงและรูปแบบการเล่นของเราโดยตรง ค่านี้มีหน่วยเป็น DPI โดยย่อมาจาก Dots Per Inch ซึ่งการที่มีค่านี้สูง ไม่ได้แปลว่ามันจะดีเสมอไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเกมที่การลากเมาส์ทุกครั้งส่งผลต่อความเป็นความตายในเกมได้เพียงเสี้ยววินาที

Credit: https://github.com/polychromatic/polychromatic/issues/163

การเริ่มต้นปรับค่าความละเอียด อาจเริ่มต้นจาก 800 DPI ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานที่นิยมกันในการใช้งานทั่วไปก่อน แล้วไปลองกับเกมยิงยอดนิยมอย่าง CS:GO ดู ถ้าเริ่มรู้สึกคุ้นชินกับค่านี้แล้ว ให้ลองหาค่าที่จะทำให้เราสามารถเล็งได้นิ่งขึ้นดูโดยการปรับให้ค่านี้น้อยลง เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ว ปัญหาที่ผู้เล่นเกม FPS มักเจอกันคือเมาส์ไม่นิ่ง ทำให้เป้ายิงไม่นิ่งและเกิดอาการกระสุนส่ายออกนอกเป้าหมาย แพ้ไฟท์ไปโดยปริยาย

การปรับค่าความละเอียดให้ต่ำลง ทำให้เราสามารถควบคุมเมาส์ได้ดีขึ้นและละเอียดขึ้น แต่ก็ต้องใช้การขยับศอกตามไปด้วยนอกเหนือจากการขยับข้อมือ โดยทดลองปรับให้อยู่ที่ราว ๆ400 - 800 DPI ที่เป็นค่าเมาส์ที่นักกีฬาอีสปอร์ตส่วนใหญ่นิยมใช้กัน หลังจากนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณแล้วว่าจะไป คลิก กับค่าไหน

ภาพเปรียบเทียบระหว่างรูปบน - 400 DPI และ รูปล่าง 1,600 DPI

400 DPI

1,600 DPI

ถ้ายังค้นพบว่าปืนไม่นิ่งอยู่ อาจต้องตามไปปรับเพิ่มในแต่ละเกมที่คุณเล่นเองอีกที ซึ่งในปัจจุบัน เกม FPS ก็มีค่า Mouse Sensitivity ให้ปรับภายในเกมกันอยู่แล้ว   อย่างไรก็ตาม การปรับค่า DPI จะต้องคำนึงถึงความละเอียดหน้าจอหรือ Resolution ของจอด้วยว่าปรับไว้ที่เท่าไหร่ เพราะแต่ละจุดบนแผ่นรองเมาส์นั้น มีผลต่อพิกเซลบนหน้าจอโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าค่าความละเอียดของจอคุณอยู่ที่ 1920 x 1200 พิกเซล (Pixels) และเมาส์ถูกปรับค่า DPI ไว้ที่ 600 คุณอาจจะต้องเคลื่อนเมาส์ไปด้วยระยะทางราว 2 นิ้วเลยทีเดียวในการขยับเมาส์จากขอบล่างจอสู่ขอบบนจอ แต่ถ้าคุณปรับให้ DPI อยู่ที่ 1,200 ก็จะใช้ระยะเคลื่อนเมาส์แค่นิ้วเดียวเท่านั้น อย่าลืมคำนวณระยะการเคลื่อนเมาส์ไว้ด้วย เพราะในเกม คุณไม่ได้เพียงแต่จะต้องยิงนิ่งอย่างเดียว แต่ต้องหันหาศัตรูได้ไวทันการณ์ด้วย

3. หาเทคนิคในการเล่น (Find your own Technique)

การหาเทคนิคในการเล่น สามารถเป็นได้ทั้งการทำให้ตัวคุณเก่งขึ้น และการค้นพบเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวเองในเวลาเล่นเกมประเภทนี้ไปด้วย ซึ่งเอกลักษณ์ที่ว่า สามารถเป็นได้ทั้งในแง่ที่ดีและแง่ที่ไม่ดี เหตุผลเพราะว่า รูปแบบการเล่นของแต่ละคน ถือเป็นอัตลักษณ์ภายในเกมที่ถูกถ่ายทอดออกมาจากชีวิตจริง เช่น การเล่นปืนยิงระยะไกลอย่างปืนสไนเปอร์ ที่ไม่ได้จำกัดว่าคนเล่นปืนประเภทนี้จะต้องเป็นคนที่ใจเย็นซุ่มรอยิงเหยื่อเสมอไป เพราะมือสไนเปอร์บางคนเป็นสายเดินยิง ที่ไม่ได้ใช้การซูมรอเพื่อกำจัดเป้าหมาย แต่ใช้การวิ่งหาเป้าหมายแล้วควิกซูมสะบัดยิงเข้าหัวได้เลยก็มี

เทคนิคการเล็งยิงภายในเกม FPS จะมีอยู่ 2 แบบหลัก ๆ ได้แก่ การเล็งยิงแบบติดตามเป้าหมาย และ การเล็งยิงแบบสะบัดยิง

การเล็งยิงแบบติดตามเป้าหมาย (Tracking)

การเล็งยิงแบบติดตามเป้าหมาย คือการวางเป้าไว้ในระดับเดิมตลอดเวลาและใช้การลากเมาส์ยิงตามทิศทางที่เป้าหมายขยับไป เช่น เราวางเป้าไว้ที่หัว เมื่อศัตรูโผล่มาในระยะ ก็จะใช้การเล็งหัวไว้ในระดับเดิมแล้วลากยิงตาม การใช้การเล็งยิงแบบติดตามเป้าหมาย จะใช้ได้ดีกับปืนประเภทปืนกล หรือปืนที่ยิงได้อย่างต่อเนื่อง เช่น Assault Rifle, Machine Gun, และ Sub Machine Gun

Credit: https://gfycat.com/tautscholarlyhousefly

การเล็งยิงแบบสะบัดยิง (Flick Shots)

การเล็งยิงแบบสะบัดยิง ใช้การสะบัดเมาส์แล้วคลิกยิงตามชื่อ การยิงชนิดนี้ต้องอาศัยฝีมือและความแม่นยำในการลากเมาส์ และความสัมพันธ์ระหว่างมือและตาอยู่พอสมควร รวมทั้งอาจต้องอาศัยความไวในการตอบสนองเมื่อพบศัตรูพอสมควร โดยเราจะสามารถใช้การสะบัดยิงได้ในอาวุธที่เป็นแบบยิงทีละนัดเพื่อหวังผลให้ตายในนัดเดียวหรือไม่เกินสามนัดได้ดี (มากกว่านี้ไปปืนกลจะเหมาะกว่า) เช่น Sniper, Crossbow, Pistol

Credit: https://gfycat.com/tautscholarlyhousefly

4. หมั่นฝึกฝนจนชำนาญ (Practicing)

การหมั่นฝึกฝนจนชำนาญ สามารถใช้ได้กับทุกเกม ไม่จำกัดแต่เพียงแค่เกมประเภท FPS เท่านั้น เพราะการฝึกฝน คือหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สามารถทำให้เห็นผลได้มากที่สุดในบรรดาหัวข้อทั้งหมดที่กล่าวมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณคิดจะก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาอีสปอร์ต การสร้างวินัยในการฝึกฝนคือสิ่งที่ "ต้องมี"

Mickie หนึ่งในนักกีฬาอีสปอร์ตชาวไทยที่ดังไกลในระดับโลกด้วยหลายองค์ประกอบที่รวมตัวกัน หนึ่งในนั้นคือ ความมีวินัยในการฝึก
Credit: https://www.dallasnews.com/sports/dallas-fuel/2020/01/29/dallas-fuels-mickie-is-now-a-content-creator-for-envy/

การฝึกฝนจนชำนาญ ไม่ใช่เพียงแค่การเล่นให้ได้ครั้งละหลาย ๆ แมทช์ หลาย ๆ ชั่วโมง แต่เป็นการเล่นแล้วสังเกตตัวเองถึงข้อดีข้อเสียในแต่ละแมทช์ที่จบไป โดยใช้การตั้งคำถามกับตัวเองเช่นว่า

• เพราะอะไร การเล่นในแมทช์ที่ผ่านมาถึงมีคะแนนแบบนี้ ? (หรือ)
• เพราะอะไร ในการปะทะเราถึงยิงไม่ตาย ?

ซึ่งถ้าคุณไม่สามารถหาคำตอบให้ตัวเองได้ เราขอแนะนำให้อัดคลิปรีเพลย์ย้อนหลังเอาไว้ดูประกอบการวิเคราะห์ จะทำให้เราสามารถเห็นจุดอ่อนของตัวเองได้ดีขึ้น และเมื่อต้องวิเคราะห์ ก็ต้องจำใส่ใจไว้เสมอว่าจะต้อง มองแบบเป็นกลาง ไม่มองเข้าข้างตัวเอง หรือจะใช้การมองแบบจับผิดเลยก็ยิ่งดี

เมื่อวิเคราะห์ได้แล้ว ก็ต้องนำมาปรับปรุงต่อโดยหาวิธีการที่ทำให้เรามีผลลัพธ์ที่ดีขึ้น และเห็นผลถาวร เช่น ถ้าคุณเป็นคนเล็งเป้าแล้วเป้าปืนชอบไปอยู่ที่ขา ก็ต้องหาวิธีที่ทำให้คุณเล็งเป้าสูงขึ้นในระดับ อก หรือ หัว ให้ได้ เช่น กำหนดให้ตัวเองล็อกเป้าไว้กลางจอตลอด บังคับให้ตัวเองกดยิงแล้วไถเมาส์ขึ้น เป็นต้น พร้อมติดตามผลการเล่นของตัวเองด้วยการอัดรีเพลย์อีกเช่นเคย ถ้าคุณดูย้อนหลังแล้วยังเล็งที่ขาอยู่ แปลว่า คุณยังมีชั่วโมงฝึกไม่เพียงพอ หรือไม่ก็อาจจะต้องหาวิธีอื่นมาแก้แล้วล่ะ

บทสรุปวิธีเล่นเกม FPS ให้เก่งขึ้น !

สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเล่นเกม FPS ให้เก่งขึ้น คือการหาเทคนิคที่ใช่ให้กับตัวเอง และฝึกฝนจนเชี่ยวชาญ ซึ่งเทคนิคบางอย่างคุณอาจเรียนรู้ได้ด้วยการสังเกตและรับชมจากคลิปการเล่นของคนอื่น ๆ แต่ในบางครั้ง คุณก็จำเป็นจะต้องอาศัยการเล่นและจดจำด้วยตนเองเป็นหลัก เช่น ถูกโฉลกกับปืนประเภทไหน ชอบเล่นแบบซุ่มยิงหรือเข้าปะทะ ฝึกฝนและลับปฏิกิริยาตอบสนอง (Reflex) อย่างต่อเนื่อง เป็นต้น