EVERYDAY’S CAR FREE DAY | เพราะอากาศดี ขับเคลื่อนชีวิตที่ยืนยาว

We are right now in the beginning of a climate and ecological crisis, and we need to call it what it is : an emergency.
เรากำลังอยู่ในจุดเริ่มต้นของวิกฤตสภาพอากาศและสิ่งแวดล้อม และเราจำเป็นต้องเรียกมันอย่างที่มันเป็น ‘วิกฤตการณ์’

- ขอยกเพลง THE 1975 ของวง THE 1975 ที่ได้แรงบันดาลใจมากจากการพูดสุนทรพจน์ของ เกรตา ธันเบิร์ก นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อม วัย 16 ปี

ปัญหามลพิษจากการใช้รถยนต์

การผลิตรถ 1 คัน ปล่อยคาร์บอนไดออกไซต์ 4 ตัน และสารก่อมลพิษอื่นๆ เกือบ 317.51 กิโลกรัมออกสู่บรรยากาศ 

ถ้า 1 คน หันมาใช้ขนส่งสาธารณะหรือปั่นจักรยานตลอด 1 ปี แทนการขับรถไปทำงาน จะช่วยลดการปล่อยแก๊สเหล่านี้สู่ชั้นบรรยากาศได้อีกมากโขเลยทีเดียว

ปั่นจักรยานกันมั้ย ?

‘แค่ขยับเท่ากับการออกกำลังกาย’ การเลือกเดินทางแนวใหม่อย่างการปั่นจักรยาน ยังเป็นการออกกำลังกายที่ไม่ทำให้ข้อเข่าเสื่อม เพราะใน 45 นาทีของการปั่น สามารถเผาผลาญถึง 500 กิโลแคลลอรี่อีกด้วย และนำไปสู่การมีหัวใจที่แข็งแรง ♥

จาก 1 วันใน 1 ปี เราจะมีวันแบบนี้ทั้งปีเลยได้รึเปล่า?

โบโกตา, โคลอมเบีย พลิกภาพจำว่าเป็นเมืองแห่งรถติด อากาศเป็นพิเศษ ไม่หนำซ้ำยังเป็นเมืองแห่งโคเคนด้วยการร่วมใจกันปั่นจักรยาน และเพียงแค่ 5 ปี เมืองนี้ได้กลายเป็นเมืองตัวอย่างให้ทั่วโลกได้เริ่มตระหนักและเปลี่ยนแปลง

.

จาการ์ตา , อินโดนีเซีย เปลี่ยนทุกวันอาทิตย์สิ้นเดือนให้เป็นวันปลอดรถ สนับสนุนให้คนใช้ขนส่งมวลชนแทน จนสร้างเป็นนิสัย ผู้คนเริ่มเห็นความดีงามของมลพิษที่ลดลงจากวันธรรมดาอย่างเห็นได้ชัด จนกระทั่งกลายเป็นทุกอาทิตย์ที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนเส้นถนนปลอดรถยนต์ไปเรื่อยๆ

.

ประเทศที่ยากจน อย่างแซมเบีย,แอฟริกา วันที่ทุกๆ วันของพวกเขาเป็น Car Free Day ที่ประสบปัญหายากจนในทุกท้องที่ แม้แต่วัสดุผลิตจักรยานยังยากที่จะหาและราคาสูง แต่ด้วยความไม่มี ทำให้เค้าคิดค้นการทำจักรยานจากไม้ไผ่ ไม่เพียงแต่ใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่าแต่ยังช่วยรักษามลพิษได้ด้วย

.

กรุงเทพมหานคร,ประเทศไทย เราเริ่มจัดโครงการ Car Free Day ในวันที่ 22 กันยายน 2546 ภายใต้ชื่อ "22 กันยายน จอดรถไว้บ้าน ลดการใช้พลังงาน ลดมลพิษ" ทุกวันนี้เราเริ่มเห็นผู้คนรวมกลุ่มกันปั่นจักรยานมากขึ้น แม้ว่าจะเป็นทุกปีที่วันที่ 22 การปิดถนนเพื่อปั่นจะเป็นเหมือนกิจกรรมพิเศษหรือเทศกาลที่ชมรมจักรยานจะลุกฮือขึ้นมา แต่ก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการมีวันแบบนี้ใน ทุกเดือน ทุกอาทิตย์ หรือดีที่สุดคือทุกวัน ;-)

ที่เห็นเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราสามารถมี วันปลอดรถ-ลดมลพิษได้ทุกวัน ถ้าเริ่มจากกการเห็นความสำคัญของการมีอยู่ของอากาศที่ดี ร่วมกันรักษาชีวิตที่ยืนยาวของเราและเพื่อนร่วมโลก การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มเปลี่ยนกิจวัตรประจำวัน จาก 1 เพิ่มเป็น 2 และในที่สุดจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมและแนวคิดของพวกเราเอง วันนั้นเราจะทำมันอย่างเป็นกิจวัตร มิใช่แค่ เทศกาล ;)

.

เราเคยติดอันดับ 1 ของเมืองที่รถติดที่สุดในโลก เราเคยปริมาณฝุ่น PM2.5 สูงสุดอันดับ 23 ของโลก และในขณะกรุงเทพฯ ติดอันดับเมืองหลวงอากาศ วิกฤตอันดับ 24 

แต่เราแก้ไขมันได้ คำว่า ‘เคย’ แปลว่าเราสามารถแก้ไขมันได้ แค่เราต้องทำมันแล้วในวันนี้

.

อ้างอิงข้อมูลจาก

- สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

- http://www.onep.go.th/env_data/2019/6-%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%A1-2562-%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A9%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94/

- https://www.trueplookpanya.com/learning/detail/21073/033478

- https://www.youtube.com/watch?v=EDyRQyRCEk4