บริษัทแจง เครื่องอบผ้าไฟไหม้ เหตุประเภทผ้าไม่ควรนำอบ ไม่ได้เกิดจากไฟแช็กตามที่เป็นข่าว
เจ้าของร้านเครื่องซักอบผ้าไฟไหม้เผยผลตรวจสอบแล้ว สาเหตุเพราะลูกค้าตั้งเครื่องเร่งไฟแรงเกินไป บริษัทแจง ประเภทผ้าไม่ควรเข้าเครื่องอบ ลูกค้าไม่ได้ลืมไฟแช็ก พร้อมเยียวยาค่าเสียหายแล้ว
จากกรณีโลกโซเชียลเผยแพร่คลิปวิดีโอเหตุการณ์ไฟไหม้เครื่องอบผ้า ภายในร้านซักผ้าหยอดเหรียญ Otteri wash & dry (อ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย) 356 ถนนบูรพา ต.ในเมือง อ.เมืองชัยภูมิ โดยในคลิปปรากฏเสียงระเบิดภายในเครื่องอบผ้าขณะทำงาน ก่อนเกิดไฟลุกไหม้บริเวณภายในตู้ซักและอบผ้า ขณะนั้นมีหญิงและเด็กอยู่ใกล้เครื่องซักผ้า หญิงได้รีบดึงแขนเด็กออกจากด้านหน้าเครื่องซักผ้าทันที ไม่นานได้มีชายนำถังดับเพลิงมาฉีดสารเคมีดับไฟ ก่อนไฟดับลง
เมื่อตรวจสอบพบว่าเครื่องอบผ้าที่ไฟไหม้เป็นเครื่องอบผ้าขนาด 15 กิโลกรัม (กก.) เบื้องต้นเจ้าของร้านและผู้มาใช้บริการคาดว่า น่าจะเป็นการลืมไฟแช็กไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้า กระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว
ล่าสุดวันนี้ (9 กันยายน) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร้านอ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย 356 พบกับนางรัตนาพรรณ มณีพันธ์ อายุ 55 ปี เจ้าของร้าน และนายพนมกร วรรณทอง พนักงานผู้ดูแลลูกค้าของร้าน ได้นำไปตรวจสอบเครื่องซักผ้าภายในร้านที่มีด้วยกัน 7 เครื่อง ส่วนเครื่องปั่นอบแห้งมี 6 เครื่อง ราคาเครื่องละ 2 แสน 5 หมื่นบาท ใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงในการทำความร้อนแล้วเป่าลมร้อนให้กับผ้าที่นำเข้าเครื่องอบ ซึ่งในวันนี้ร้านยังเปิดให้บริการรับซักผ้ากับลูกค้าตามปกติ เพียงแต่ปิดเฉพาะเครื่องปั่นอบแห้งผ้าขนาด 15 กก.ที่เกิดไฟไหม้เท่านั้น
นายพนมกรกล่าวว่า หลังเกิดไฟไหม้เครื่องปั่นอบแห้งแล้ว ได้มีตรวจสอบเครื่องที่เกิดไฟไหม้ พบว่าสาเหตุเป็นเพราะ ใช้ผ้าผิดประเภท และมีการเร่งความร้อนให้กับเครื่องมากเกินไป ผู้ที่นำผ้ามาซักแล้วนำเข้าเครื่องปั่นอบเป็นผ้าแบบที่มีส่วนผสมของใยพลาสติก หรือเป็นผ้าโทเร เมื่อปรับอุณหภูมิสูงเกินไป ไม่ตรงกับชนิดของผ้าที่นำเข้าเครื่องอบ ทำให้เกิดความร้อนสูงมากขณะเครื่องปั่นอบแห้งกำลังทำงาน จึงทำให้เกิดไฟลุกไหม้ขึ้นมา ซึ่งต่อไปทางร้านจะมีการให้ความรู้กับลูกค้าที่นำผ้ามาซักและปั่นอบแห้งมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
ด้านนางรัตนาพรรณบอกว่า จากการสอบถามลูกค้าที่นำผ้ามาซักเมื่อคืน และเกิดไฟลุกไหม้เครื่องปั่นอบแห้ง ทราบว่าผ้าที่นำเข้าเครื่องอบมีทั้งชุดกีฬาและเสื้อผ้าหลายชนิดรวมกันเข้าเครื่องปั่นอบแห้ง ซึ่งน่าจะมาจากลูกค้าปรับอุณหภูมิร้อนเกินไปจริง ไม่ใช่ลืมไฟแช็ก และเมื่อเครื่องปั่นอบแห้งทำงานก็เกิดความร้อนสูง ทำให้เกิดไฟลุกไหม้ผ้าขึ้นมา
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้น ทั้งเจ้าของร้านและลูกค้าได้ตกลงไม่ติดใจเอาความ ซึ่งเครื่องอยู่ในระยะประกัน เจ้าของร้านจึงได้แจ้งให้ทางบริษัทนำเครื่องปั่นอบแห้งเครื่องใหม่มาเปลี่ยนแทน เพื่อตั้งบริการลูกค้าในร้านได้ต่อไป
ขณะที่ บริษัท อ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย จำกัด ออกเอกสารชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า เรียน ผู้ใช้บริการและบุคคลทั่วไป ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ไฟไหม้ผ้าในระหว่างการอบผ้าที่ร้านสะดวกซัก Otteri wash & dry จ.ชัยภูมิ ก่อนอื่นเลยบริษัท อ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย จำกัด ขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ไม่มีบุคคลใดได้รับบาดเจ็บ แต่อย่างไรก็ตามหลังจากทราบข่าวโดยทันที คุณกวิน นิทัศนจารุกุล เจ้าของแบรนด์แฟรนไชส์ร้านสะดวกซัก Otteri wash & dry และทีมช่าง ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบและหาสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้
จากการตรวจสอบระบบแก๊สและระบบไฟฟ้า พบว่ามีการทำงานปกติ และได้มีการตรวจสอบ ณ จุดเกิดเหตุไฟไหม้ที่เครื่องอบผ้า พบว่า ซากของผ้าที่อยู่ด้านในกลายสภาพเป็นพลาสติกแข็ง ซึ่งเป็นชุดกีฬา ชุดผ้าร่ม ซึ่งเป็นผ้าที่ไม่ควรนำเข้าเครื่องอบ เนื่องจากเส้นใยของผ้าที่ผ่านสภาพการใช้งานมาระยะหนึ่งแล้วจะไม่สามารถทนต่อความร้อนได้ โดยมีป้ายประกาศเรื่องของชนิดผ้าที่ห้ามนำเข้าเครื่องอบติดตั้งอยู่ภายในร้าน
คุณกวิน นิทัศนจารุกุล ได้มีการพูดคุยกับลูกค้าที่ผ้าเกิดไฟไหม้ ลูกค้ายังคงตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นและมีความประสงค์ที่จะชี้แจงให้ทุกท่านได้ทราบว่า ไม่มีการลืมไฟแช็กไว้ในผ้าตามที่สำนักข่าวหลายช่องทางได้นำเสนอ และทางบริษัทได้มีการเยียวยาชดใช้ค่าเสียหายสำหรับผ้าที่เกิดไฟไหม้เป็นจำนวน 6,840 บาท และเติมเครดิตเข้า Otteri application จำนวน 1,000 บาท
จากเหตุการณ์ความเสียหายที่ได้เกิดขึ้น ทางบริษัท อ๊อตเทริ วอช แอนด์ ดราย จำกัด ขอยืนยันว่า ระบบทั้งหมดได้รับมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดและมีผู้เชี่ยวชาญคอยดูแลและตรวจสอบระบบอย่างสม่ำเสมอ
อย่างไรก็ตาม ขอยืนยันว่าถึงแม้บริษัทมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจ แต่สิ่งสำคัญที่สุดที่ทางบริษัทฯคำนึงและตระหนักถึง นอกจากการบริการที่ดีมีคุณภาพแก่ผู้ใช้บริการแล้ว ความปลอดภัยของลูกค้าต้องมาเป็นลำดับแรกเสมอ