“แบมแบม นีวิรินทน์” การไม่ตั้งความหวังคือการส่งพลังให้ลูกสู่ความสำเร็จ
…เลี้ยงลูกอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ?… คงเป็นคำถามที่ทุกครอบครัวถามตั้งคำถามกันบ่อย ๆ
ใครว่าคนเป็นพ่อแม่คน ต้องพยายามผลักดันลูก กดดัน หรือส่งลูกไปไกลแบบเคร่งเครียด เชื่อไหมว่า แนวทางการเลี้ยงลูกที่ฉลาด และให้อิสระกับลูก เป็นคุณประโยชน์มากกว่าโทษ เราจะเห็นได้จากตัวอย่างที่น่ารัก ครอบครัวของสาวน้อยคนนี้ "แบมแบม นีวิรินทน์ ลิ่มกังวาฬมงคล"
“แบมแบม” นักร้องเสียงใส ในลุคเก๋ ที่ดูเป็น Unisex (เป็นชายก็หล่อ เป็นสาวก็น่ารัก) เธอคือผู้เข้าประกวดจาก The Voice Thailand Season 3 ที่หลายคนจดจำเธอได้จากเพลง ‘ไม่เป็นไร’ ในรอบ Blind Audition หรือปัจจุบัน แบมแบมกลับมากับชื่อใหม่ 'DoubleBam' ในฐานะนักร้องเต็มตัวอีกครั้งในค่าย MBO สังกัดในเครือ GMM Grammy
แบมแบม ได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่อง “การเลี้ยงดูของครอบครัว” ทาง Facebook Fanpage ‘GMM Grammy Official’ อย่างน่าสนใจ ที่หลายบ้านควรนำไปปรับใช้ เพื่อให้ลูกเติบโตอย่างแข็งแรง
…ความโชคดีของแบมแบมคือการเติบโตมาในครอบครัวที่เต็มไปด้วยการให้โอกาสและส่งเสริมในสิ่งที่ลูกรัก…
“…ความน่ารักของที่บ้านคือคุณพ่อคุณแม่เลี้ยงแบมแบบธรรมชาติมากคือเค้าจะไม่คอยกดดันเราให้เราต้องเป็นนั่นเป็นนี่พอเค้าไม่คาดหวังอะไรในตัวเราและให้อิสระกับเรามันทำให้เรามีความสุขในการเป็นตัวเองและเค้าส่งเสริมในสิ่งที่เรารักมาตั้งแต่เด็กให้เราทดลองกิจกรรมหลากหลายกีฬาดนตรีแล้วเราก็มาจบที่การร้องเพลง…จำได้ว่าคุณพ่อขับรถไปส่งเราจากบ้านเราที่ปัตตานีไปหาดใหญ่เพราะมันไม่มีโรงเรียนสอนแถวบ้านเราซึ่งเดินทางครั้งหนึ่งก็กินเวลา4 ชั่วโมงทุกสุดสัปดาห์ตั้งแต่เราเด็กๆยันมัธยมเพื่อให้เราไปเรียนไวโอลิน(แม้ตอนนี้วิชาไวโอลินจะคืนคุณครูไปหมดแล้วก็ตาม) และร้องเพลงเค้าเต็มที่กับเรามาก…”
การส่งเสริมลูกในทางที่ดีที่สุด คือ การปล่อยให้เขาเติบโตไปตามธรรมชาติที่เขาเป็น ให้เขาได้มีความสุขกับทางเลือกของเขา และเขามีอิสระในการเลือกทางเดินของชีวิตได้ โดยไม่มีใครมาคอยขีดเส้น กำหนดความสำเร็จ และเป้าหมายให้ลูก นั่นคือบุพการีในฝันที่ลูก ๆ อยากได้
เราจะเห็นว่าทุกก้าวที่แบมแบมเติบโต ได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากครอบครัว ซึ่งเธอเลือกเส้นทางของเธอเอง คือการเป็นนักร้อง และมีความสุขกับเส้นทางนั้น รวมทั้งประสบความสำเร็จกับก้าวเล็ก ๆ ที่ได้เดินตามฝัน อย่างไม่กดดัน เมื่อได้รับความสุขจากครอบครัวมาอย่างเต็มที่ มันสะท้อนไปถึงวิธีคิดเกี่ยวกับเป้าหมายในชีวิต และการทำตามความฝัน ที่เป็นตัวอย่างที่ดีเลยทีเดียว
วิธีคิดของแบมแบม จากบทสัมภาษณ์เป็นวิธีคิดกับเป้าหมายชีวิตที่ดูพื้นฐานมาก แต่อยู่บนความเป็นจริง นั่นคือ‘การทำทุกก้าว ณ ปัจจุบันให้ดีที่สุด’
“แบมแบมรู้สึกว่าเราไม่ต้องไปคาดหวังกับมันมากเราจะได้ไม่ต้องเจ็บมากเวลาที่เรารู้สึกผิดหวังมันจะได้ไม่รู้สึกหนักหนากับมันเราแค่ทำหน้าที่ปัจจุบันทุกก้าวที่เราทำอยู่ให้ดีที่สุด…อย่างซิงเกิ้ลที่ปล่อยไปแบมแบมพยายามจะไม่ไปจับจดที่จะต้องคิดว่ายอดวิวมันจะสูงไหมมันเท่าไหร่แล้วสูงพอรึยังนะเราไม่มีปลายทางตรงนั้นเราแค่พึงพอใจกับสิ่งที่เราได้ทำรู้สึกว่าเราก็ได้ประสบความสำเร็จกับก้าวเล็ก ๆ ที่เราได้ทำสิ่งที่เรารักแล้วมันพอแล้ว…”
สิ่งที่น่าสนใจจากชีวิตครอบครัวของแบมแบมคือ “ความเป็นธรรมชาติ” อะไรที่เป็นธรรมชาติ คือความสุขที่แท้จริง คือการไม่ฝืน คืออิสระในชีวิต และนั่นยืนยันได้ว่า ครอบครัวที่แข็งแรงสามารถสร้างคนที่มีคุณภาพคนหนึ่งในสังคมได้จริง
แล้วมันส่งผลอะไรกับลูกบ้าง การมีอิสระ ไม่ทำให้ลูกเกเรเหรอ? หรือนี่คือการเลี้ยงแบบที่เรียกว่า ‘สปอยล์’ เด็กเกินไปรึเปล่า?
การสปอยล์หรือเลี้ยงแบบตามใจ VS การให้อิสระทางความคิดกับลูก
การสปอยล์ หรือเลี้ยงแบบตามใจ กับการให้อิสระลูกนั้นไม่เหมือนกัน หากวิเคราะห์ดี ๆ แล้ว 2 สิ่งนี้ต่างกันโดยสิ้นเชิง การสปอยล์เด็ก ในการเลี้ยงดูบุตรหลาน คือการปรนเปรอด้วยเงินทอง สิ่งของ การเอาอกเอาใจ แบบที่ไม่ดุ ไม่ตี ไม่ว่า ไม่ตำหนิ โดยปล่อยให้เค้าเติบโตด้วยการทำผิดก็ไม่เป็นไร เพื่อไม่ให้ลูกโกรธ หรืองอแง เป็นลักษณะการปล่อยแบบตามใจลูก ในสิ่งที่ลูกเป็น แม้จะไม่ถูกต้อง มีหลายบ้านที่เลี้ยงโดยคุณตาคุณยาย หรือผู้เฒ่าผู้แก่ในบ้าน มักเป็นกัน คือนิยม ‘มีแต่ให้’ กับเด็ก เพราะรักหลานมาก หลงลูกหลานจนกระทั่งลืมไปว่า การตามใจเหมือนเป็นการทำร้ายเขาทางอ้อมเมื่อเขาโตขึ้นแล้วชีวิตจริงไม่ได้อย่างใจ เด็กจะเติบโตมาอยู่ในสังคมได้ไม่ดี คือการเข้ากับผู้อื่นลำบาก
แต่การให้อิสระทางความคิด เป็นเรื่องของแนวทางการ Shape idea หรือ ตกแต่งความคิดของลูกในทางส่งเสริมด้านบวกของเด็ก ให้เป็นไปในทางที่สวยงาม เป็นการให้อิสระ บนทางที่เขาชอบ ซึ่งอยู่บนแนวทางที่ถูกต้อง และเป็นคนดี เป็นคนที่สังคมต้องการ โดยมีศีลธรรม และบรรทัดฐานทางสังคมโอบล้อมไว้ ดังนั้น การตามใจของทั้ง 2 แบบนี้ จึงแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
“อย่าฝากความฝันของพ่อแม่ไว้กับลูก”
แม้บุตรหลานของหลาย ๆ ครอบครัว จะเป็นอนาคตที่คุณพ่อคุณแม่ฝากความหวัง เลี้ยงมาด้วยความตั้งใจ และอยากเห็นเขาประสบความสำเร็จ มั่นคง มีการงานที่ดี มีอนาคตที่พึ่งพิงได้ และเติบโตแบบพ่อแม่หมดห่วง เพราะดูแลตนเองได้ แต่การยัดเยียดให้ลูกพยายามเป็นในสิ่งที่พ่อแม่อยากให้เป็น และบอกว่าสิ่งเหล่านั้นมันดีกับลูก ไม่ได้หมายความว่ามันเหมาะกับเขาจริง ๆ หรือเป็นสิ่งที่เขาอยากเรียน หรือเขาจะก้าวเข้าไปทำแล้วมีความสุข
บางครั้งคุณพ่อคุณแม่มีฝันที่อยากเป็นอยากทำ แต่ตอนรุ่นตัวเองอาจจะไม่มีโอกาสนั้น…หรือบางครอบครัว ทั้งตระกูลรับราชการ หรือทำอาชีพด้านใดด้านหนึ่ง ก็เลยอยากให้ลูกหลานในตระกูลโตมาแบบเทือกเดียวกัน
แต่บางที อาจจะลืมไปว่า“ความชอบ ความถนัด และความสุข” เป็นเรื่องที่ห้ามและกำหนดกันแบบตายตัวไม่ได้ มันคือหัวใจ ความคิด และความถนัดของเด็ก นั่นหมายความว่า ความฝันของพ่อกับแม่จึงเป็นของพ่อกับแม่ และนั่นอาจจะไม่ใช่ความฝันของลูกเสมอไป
เด็กทุกบ้านควรเติบโตมาโชคดีแบบแบมแบม ที่โตขึ้นมาโดยปราศจากความกดดัน เพราะสิ่งที่เป็นผลหลัก อย่างแรกคือ “สุขภาพจิตที่ดี” เด็กจะไม่มีภาวะขี้อิจฉา อยากได้อยากมีอยากเป็นเหมือนใคร เพราะเขาจะรู้คุณค่าในตัวเขา สิ่งที่เขาเป็นคืออะไร อะไรที่เหมาะกับตัวเขา และศักยภาพของเขาจริง ๆ
เมื่อไม่กดดัน และมีความสุข เด็กจะมีสุขภาพจิตที่ดี และส่งผลไปยังสุขภาพกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ เมื่อสารแห่งความสุขหลั่ง ในขณะที่ได้ทำอะไรที่ชอบ Growth Hormone ทำงานได้ดี ทำให้ร่างกายดีไปพร้อมกับจิตใจ การเติบโตของลูกอย่างมีความสุขอย่างแท้จริง น่าจะเป็นกุญแจของคำตอบว่า ทำไมจึงควรเลี้ยงลูกในแนวทางนี้
องค์ประกอบเล็ก ๆ ของการเลี้ยงดูบุตร แค่ “การไม่ตั้งความหวัง” เป็นจุดเริ่มต้นในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ จากพื้นฐานของครอบครัวเป็นสำคัญ แล้วเราจะได้คนเก่ง และคนดี ที่มีความสุขบนความถนัดของเขา พร้อมพัฒนาตนเองเป็นบุคลากรของชาติที่ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองได้อีกมากมาย โดยที่ไม่ต้องแบกความฝันของใคร เช่นเดียวกับแบมแบม
ที่มาบทสัมภาษณ์ของแบมแบมจาก Facebook Fanpage ‘GMM Grammy Official’
Link: https://www.facebook.com/416543598410846/posts/2175879305810591
ความเห็น 3
W.Direk_666 🐮789🐉♍♑🇹
ผมเป็นคนหนึ่งที่เลี้ยงลูกสาวแบบฟรีสไตร์ไม่คาดหวัวอะไรเขา แค่เป็นคนดีที่สุดก็พอ ทุกวันนี้เป็นนักธุระกิจสาวอยู่บริษัทต่างประเทศไปแล้ว เพราะการคาดหวังอะไรกับลูกไว้ส่วนใหญ่มักตรงข้ามกับที่ทุกๆคนหวัง# เป็นความคิดเห็นส่วนตัวครับ เกรียนคีย์บอล์ดโปรดใช้วิจารณานด้วยนัครับ
16 มี.ค. 2562 เวลา 04.13 น.
jin
ดีมากและจริงค่ะ เราตรงกันข้ามกับแบมๆ
14 มี.ค. 2562 เวลา 14.08 น.
😊แหม่ม ม้ง เมฆ😊
คงไม่มีคนโชคดีเหมือนหนูทุกคนหรอกค่ะ เพราะเด็กบางคนถ้าปล่อยอิสระเกินไป เสียของเลยค่ะ
14 มี.ค. 2562 เวลา 13.38 น.
ดูทั้งหมด