มีงานวิจัยในต่างประเทศมากมายที่วิจัยเกี่ยวกับปริมาณความสุขของคนเรา จะผันแปรไปตามจำนวนเงินในกระเป๋าหรือไม่ ซึ่งทฤษฎีหนึ่งบอกว่ากราฟของความสุขจะสูงขึ้นตรงกับจำนวนเงินที่มากขึ้น แต่เฉพาะในช่วงแรก ๆ เท่านั้นที่เงินเพิ่มขึ้น ความสุขก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย แต่เมื่อเพิ่มขึ้นไปถึงจุดหนึ่งแล้ว กราฟความสุขของคุณก็จะไม่สูงขึ้นอีกต่อไป แต่อาจจะหักหัวลงกลายเป็นความทุกข์ไปเลยก็ได้ เพราะแท้ที่จริงแล้ว “เงิน” ทำให้มีความสุขได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แถมยังไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงพอที่จะทำให้เราไม่เป็นทุกข์ได้ด้วย
แสดงว่า “เงิน” ก็สำคัญ แต่สำคัญแค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น..
คุณต้องมีเงินที่เพียงพอในการใช้ชีวิตระดับหนึ่ง คุณถึงจะมีความสุขในระดับหนึ่งได้..ประเด็นของเรื่องนี้ก็คือคำว่า “ระดับหนึ่ง” มันคือแค่ไหน ตรงนี้ขึ้นอยู่กับคำว่า “พอ”ของแต่ละคน เรียกว่าเป็นศิลปะการใช้ชีวิตเฉพาะบุคคลก็ได้ บางคนทั้งชีวิตไม่เคยมีความสุขเลย เพราะมัวแต่ก้มหน้าก้มตาหาเงิน ไม่เคยรู้จักคำว่าพอ ส่วนบางคนก็ต้องปากกัดตีนถีบแทบตาย จนลืมที่จะมีความสุขกับชีวิต ขณะที่บางคนรู้จักตัวเอง รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร และใช้เงินไปเพื่ออะไรถึงจะมีความสุข
ทางที่ดีคือเราต้องรักษาสมดุลให้ดี ให้เงินเป็นแค่เครื่องมืออย่างหนึ่งที่เราจะใช้มันเพื่อทำให้ตัวเองและคนรอบข้างมีความสุข แต่อย่าให้เงินมีอำนาจควบคุมเรา ทำให้เราเป็นทุกข์หรือมีความสุขก็ได้
มีเงินไม่ได้เท่ากับมีความสุข
แม้กราฟความสุขจะแปรผันตามจำนวนเงิน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนไม่มีเงินจะไม่มีความสุขตามไปด้วย เพราะความสุขของบางคนก็เป็นอะไรที่ง่ายเสียจนเงินไม่สามารถซื้อหาได้
จริง ๆ แล้ว จะสุขหรือทุกข์ มันขึ้นอยู่กับตัวเราเองล้วน ๆ แต่คนเราเดี๋ยวนี้กลับเอาความสุขของตัวเองไปแปะอยู่กับอะไรสักอย่าง คนรอบตัวบ้าง เงินบ้าง ชีวิตความเป็นอยู่บ้าง ทำให้ความสุขกลายเป็นสิ่งที่จับต้องได้ ซื้อหาได้ด้วยเงิน แล้วพอไม่มีเงิน ก็เลยคิดไปเองว่าไม่มีความสุข
ลองสังเกตตัวเองดูก็ได้ ถ้าคุณเป็นคนที่เอาความสุขของตัวเองไปผูกกับอะไรสักอย่าง คุณมักมีความสุขได้ไม่นานสักเท่าไหร่ แถมยังมีความต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วย เพราะความสุขที่ได้มานั้นไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง แต่เป็นอะไรที่ฉาบฉวย เป็นสิ่งที่เราอุปโลกน์สร้างกันขึ้นมาเอง แต่คนเราไม่ค่อยเข้าใจอะไรแบบนี้หรอก ต้องรอให้ถึงวันใกล้จะลาโลกนั่นแหละ ถึงจะเข้าใจได้ ทั้ง ๆ ที่มันก็ง่ายนิดเดียว
อย่าพยายามใช้เงินซื้อความสุข
อย่างที่บอกว่า “เงิน” ก็สำคัญ แต่แค่ในระดับหนึ่งเท่านั้น และเงินก็สามารถซื้อความสุข แต่แค่ในระดับหนึ่งเท่านั้นด้วยเช่นกัน เงินซื้อบางอย่างได้ แต่ไม่ใช่ทุกอย่าง ดังนั้นอย่าพยายามใช้เงินซื้อความสุข เพราะสิ่งที่คุณจะได้กลับมามันก็คือความสุขแค่ชั่วคราวเท่านั้น
ถามว่าคนร่ำรวยมีเงินทุกคนมีความสุขไหม คำตอบก็คือไม่ใช่คนรวยทุกคนจะมีความสุข แต่คนที่รู้จักพอต่างหากที่เป็นคนที่มีความสุขได้ เพราะฉะนั้นรักษาสมดุลให้ได้ พยายามหาความสุขที่พอดีกับตัวเรา สุดท้ายคุณจะมีความสุขที่แท้จริงในแบบที่เงินก็ซื้อไม่ได้…
ความเห็น 119
$
BEST
ลองไม่มีเงินจะรู้สึกเจ็บปวดมาก ยิ่งถ้าตกงานด้วยแล้วคำเดียวเลยจะไม่มีกิน ซื้ออะไรคิดแล้วคิดอีก จะหยิบยืมใครก็ลำบาก อย่าใช้ทฤษฎีแบบนี้จนเกินไป ประหยัดใช้เงินเป็น เก็บออม และอย่าบอกว่า เงินไม่สำคัญ (เงินไม่ตาย หาใหม่ได้ ก็ใช่ว่าจะหามาเก็บได้ง่าย ๆ)
11 ต.ค. 2561 เวลา 11.55 น.
yui
BEST
แน่สิ..ไม่มีเงินก็เหมือนพิการนั่นแหละ มีอะไรฟรีบ้างล่ะ นอกจากอากาศที่หายใจเข้าไป
11 ต.ค. 2561 เวลา 12.56 น.
T🤣🤣🤣
BEST
เปนทุกข์ยุตอนนี้เพราะไม่มีเงินเนี่ยแระจะให้คิดไปทางไหนมันก้อกลับมาทุกข์ยุดีเพราะทุกย่างก้าวต้องใช้เงิน...เครียดหัวจะระเบิดยุแล้ว
11 ต.ค. 2561 เวลา 13.13 น.
@...
จะทุกข์ไปทำไมหากว่าเข้าใจและยอมรับกับในความเป็นจริง และที่สำคัญที่สุดก็คือควรที่จะใช้จ่ายอย่างประหยัดอย่างมีประโยชน์ที่สุด.
11 ต.ค. 2561 เวลา 12.59 น.
การตั้งเป้าหมายทางการเงินเพื่อปัจจัย 4 อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค เพียงพอแล้วสำหรับการดำเนินชีวิต ต้องบริหารจัดการเงินเพื่อสู่เป้าหมายก่อน ส่วนความสุขเป็นเรื่องของจิตใจที่จะบริหารอย่างไรก็ได้เพื่อความสุขของชีวิต การมีอิสรภาพทางการเงินต่างที่ทำให้ชีวิตคุณมีความสุขเพราะคุณไม่ต้องเอาแรงกายทำงานแลกเงิน แต่คุณเลือกที่จะบริหารจัดการเงินโดยการให้เงินทำงาน อาจให้เงินทำงานในเงินฝาก หุ้น กองทุน ฯลฯ แล้วเวลาทั้ง 24 ช.ม. เป็นของคุณ เพียงคุณออกแบบไลฟ์สไตล์ไม่ให้มีปัญหาทางการเงินเท่านั้น
11 ต.ค. 2561 เวลา 13.37 น.
ดูทั้งหมด