อาการฟุ้งซ่านประสาทกิน
อาจเกิดขึ้นกับใครก็ได้ในยุคเรา
เพราะมีสาเหตุสามัญร่วมกัน
เช่น เจอแต่เรื่องเร่งเร้าให้กังวล
บั่นทอนความสามารถในการคิดเป็นเส้นตรง
ตัวเลือกเยอะจนหวั่นไหว
ไม่แน่ใจว่าเลือกถูกไหม
กลัวต้องเสียหน้าหรือรับผิดชอบการตัดสินใจผิด
หรือเกรงจะต้องเสียเวลาเปล่า
แค่เลือกคลิปฟรีที่เพื่อนแนะนำมา
ก็อาจต้องเสียเวลาเป็นชั่วโมงไปเปล่าๆ ถ้าเลือกผิด
.
ภาวะเร่งรีบ
ท่ามกลางข้อมูลล้น
และท่ามกลางภาพเสียงแรงๆ เร็วๆ ผ่านๆ
ทำให้ใจเราอยู่ในท่าวิ่งไม่เลิก
การวิ่งไม่เลิกทำให้เราซวนเซเป๋ง่าย
ลำดับความคิดเป็นเส้นตรงไม่ถูก
จึงไม่น่าแปลกใจที่ยุคเรา
จะมีพวกชอบคิดวนเหมือนๆ กัน
มาพบเจอหรือคบหาสนิทสนมกันมากขึ้น
มีใครมาชวนเดินรอบเสาบ่อยขึ้น
.
จริงๆ ยังมีคนคิดตรง
ที่แสวงหาคนคิดตรงด้วยกันมาคุยอยู่อีกมาก
แต่ปัญหาคือคุณจะติดใจ
และรู้สึกเหมือนอยู่ในเซฟโซน
กับการได้ปล่อยใจคิดวนต่อไปเรื่อยๆ
จนเมื่อเจอพวกคิดเป็นเส้นตรง
ก็จะอึดอัด อยากหันหน้าหนี
.
ต้องมีสักวันหนึ่ง
ที่คุณรำคาญอาการวกวนของตัวเองจนทนไม่ไหว
เห็นโทษของการคิดวกวนว่า
เป็นต้นตอปัญหาทางใจทั้งปวง
ไม่ว่าจะเป็นโรคเครียด
โรคนอนไม่หลับ
โรคสมาธิสั้น
ตรงนั้นค่อยสอนตัวเองให้สำนึกขึ้นมาจริงจังว่า
ยินดีคุยกับคนแบบไหน
ก็คือยินดีที่จะมีจิตแบบนั้นกับตนเอง
.
ครั้งต่อๆ ไป เมื่อมีโอกาสพูดคุยกับคนคิดเป็นเส้นตรง
ก็ให้ยอมยกจิตของเขาเป็นครู
หรือเป็นเชือกดึงออกจากพายุความฟุ้งซ่าน
เช่น เมื่อคุณเริ่มจะพูดออกอ่าว หาสาระไม่ได้
เขาอาจมีทีท่าหรือสีหน้าบอกความรำคาญ
อย่าไปโมโหเขา หรือมัวเห็นเขารังเกียจ
แต่ให้เห็นว่านั่นเป็นสัญญาณเตือน
บอกคุณให้รู้ตัวว่าความคิดในหัว
เริ่มไถลออกนอกลู่นอกทางแล้ว
ให้แก้ตัวด้วยการตั้งสติเลือกพูดจาเข้าลู่เข้าทางเสียใหม่
.
หรือเมื่อเขายิงคำถาม
เพื่อตั้งหัวข้อสนทนาอะไรขึ้นมา
ก็ตั้งอกตั้งใจตอบให้เข้าเป้า
อย่าชักแม่น้ำทั้งห้า
อย่าหาทางแสดงภูมิว่าฉันก็เจ๋ง
ประมาณว่ารู้ไปหมด เข้าใจถูกไปทุกเรื่อง
คุณจะพบว่าพวกคิดเป็นเส้นตรงนั้น
เขาชอบข้อมูลแบบมีหลักฐาน
ไม่ใช่ด้นเดา คิดเองเออเอง
แล้วพอได้คำตอบที่พอใจ ก็มักตัดจบ
ไม่เอาน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรงกัน
.
เมื่อใจคุณเปิดรับวิธีคุย
ประเภทถึงเป้าแล้วจบ
บ่อยเข้าถึงจุดหนึ่ง
คุณจะฉลาดขึ้นในระดับของจิต
คือ จับจุดถูกว่า ควรตั้งจิตตรงไว้แต่แรก
จิตที่จะคิดเป็นเส้นตรง
ต้องมีลักษณะความรู้สึกตรงไปตรงมา ไม่ใช่อ้อมค้อม
รับรู้คมชัด ไม่ใช่พร่าเลือน
เห็นเป้า ไม่ใช่เหม่อลอยออกอ่าวเป็นต้น
.
พอก๊อบปี้จิตของคนคิดตรงได้
แล้วจะต้องพูดจากับเพื่อนจอมวกวนอีก
ก็จะพบว่าวิธีคิดและท่าทีการคุยของคุณต่างไป
แม้จะเป็นการคุยเล่นเบาสมอง
หรือสนองตัณหา ด่าชาวบ้านเอามัน
ก็จะสังเกตเห็นจิตตัวเองในบัดนั้นได้ว่า
เป็นใจที่ชวนให้เบือนหน้าหนี
หรือกระทั่ง ‘น่ายี้’ แค่ไหนแล้ว
สติที่รู้ตัวแบบนั้น
จะชวนคุณค่อยๆเบี่ยงเบนทิศทาง
หาหัวข้อสนทนาใหม่ที่ใจรู้สึกดีได้มากขึ้น
ดัดวิธีคิดของคู่สนทนาให้ตรงตามได้มากขึ้น
ซึ่งเมื่อคุยแบบใหม่ได้ ก็จะพบว่า
ไม่จำเป็นต้องเลิกคุย
หรือกระทั่งเลิกคบกับเพื่อนเก่า
แค่เข้าใจว่าทำอย่างไรให้
ให้ใจเพื่อนดัดตรงตามคุณได้เท่านั้น!
.
ความเห็น 9
PANADDA S.🖤
👍
25 ก.พ. 2563 เวลา 03.15 น.
Supreme Joom
เป็นประโยชน์มากค่ะ เพราะมันสะท้อนภาพชัดมาก
20 ก.พ. 2563 เวลา 09.20 น.
Yongyuth
คนคิดวน เป็นคนเจ้าเล่ห์เจ้าความคิดกิเลสมากต่างกับคนซื่อตรงไม่คดโกงคิดอะไรตรงไปตรงมา เพราะเป็นคนซื่อสัตย์จึงซื่อตรงยึดถือความจริงไม่อ้อมค้อม เพราะรู้ว่าสัจจะวาจาก็คือศีล 5 ที่คนดีต้องมีเป็นหลักธรรมประจำใจ ถ้าต้องการให้คนมานับถือก็ต้องนับถือศีล ให้มั่นคงมีศรัทธาในศีล อันนี้เป็นหนทางดำเนิน สู่ความสงบ
17 ก.พ. 2563 เวลา 03.45 น.
แค่ชื่อเรื่องก็ไม่รู่เรื่องละ..อ่านไปคง...
จะ ..
16 ก.พ. 2563 เวลา 15.14 น.
i3ankStorm
เอาที่สบายใจ คนเราอยากพูดอะไรก็ได้ทั้งนั้น อยากพูดให้ตัวเองดูดียังไงก็ได้ แต่ความจริงเป็นยังไงก็เป็นอีกเรื่องนึง 😊
16 ก.พ. 2563 เวลา 11.48 น.
ดูทั้งหมด