เทศกาลสงกรานต์ใกล้เวียนมาถึงอีกครั้ง หลาย ๆ คนก็ตั้งตารอคอยที่จะเล่นน้ำสงกรานต์กัน แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งประเพณี นอกจากรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่แล้ว…ที่คนรุ่นใหม่หลงลืมที่จะให้ความสำคัญ ซึ่งก็คือประเพณีสรงน้ำพระนั่นเอง…ประเพณีสรงน้ำพระ หรือ การถวายเถราภิเษก มีมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล เป็นความเชื่อที่ว่าทุกวันขึ้นปีใหม่ จะต้องมีการชำระพระวรกายของพระพุทธเจ้าให้เกิดความสะอาด บริสุทธิ์ เพื่อเป็นสิริมงคล จนในปัจจุบันนี้ การสรงน้ำพระนี้ก็กลายเป็นประเพณีที่คนไทยใช้เพื่อรำลึกถึงพระพุทธเจ้า โดยการสรงน้ำพระมีสองแบบด้วยกันคือ
- สรงน้ำพระภิกษุ-สามเณร
การสรงน้ำถวายเถราภิเษกแก่พระภิกษุ สามเณร อันเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า อาจทำได้โดยใช้วิธีแบบเดียวกันกับการอาบน้ำ มีการตักน้ำรดที่ตัวท่านหรือฝ่ามือ นอกจากนี้ยังมีการถวายผ้าสบงหรือผ้าไตรตามกำลังศรัทธาได้อีกด้วย เป็นพิธีที่ในยุคนี้แทบไม่มีให้เห็นแล้ว
- สรงน้ำพระพุทธรูป
พระพุทธรูปเป็นตัวแทนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า การสรงน้ำพระพุทธรูปซึ่งเป็นรูปเคารพของพระองค์ได้รับความนิยมอย่างมาก โดยในกรณีนี้ อาจเป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในบ้าน หรือมีการจัดขบวนแห่อัญเชิญพระพุทธรูปที่สำคัญมาประดิษฐานในที่ ๆ เหมาะสมก็ได้ ซึ่งน้ำที่ใช้ในการสรงน้ำพระจะเป็นน้ำที่มีเครื่องหอม ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม น้ำอบ น้ำปรุงต่าง ๆ เป็นต้น
โดยอานิสงส์ของการสรงน้ำพระตามความเชื่อมีดังนี้
- ชำระล้างจิตใจให้ชุ่มชื่น ใสสะอาด ด้วยบุญกุศลแห่งความศรัทธา
- ชำระล้างผู้ที่คิดร้ายด้วยอคติจิตออกไป
- ชำระความรุ่มร้อน นำพาแต่ความสงบร่มเย็นมาให้
- ชำระเอาสิ่งที่ไม่ดีออกไป
สงกรานต์นี้นอกจากจะออกไปสนุกกับการเล่นน้ำแล้ว ก็อย่าลืมสรงน้ำพระเพื่อความเป็นสิริมงคล โดยเฉพาะพระในบ้านนั่นก็คือคุณพ่อคุณแม่กันด้วยนะ
ภาพประกอบ
www.thaipurchasing.com
https://www.thairath.co.th/content/598574
https://play.kapook.com/photo/show-106065