โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

อดีตเลขา กมธ.กฎหมาย ยัน 'พิธา' ไม่ผิด ปมหุ้นไอทีวี เตือนนักร้อง ระวังถูกฟ้องกลับ

Khaosod

อัพเดต 25 พ.ค. 2566 เวลา 09.45 น. • เผยแพร่ 25 พ.ค. 2566 เวลา 09.45 น.

ณพลเดช มณีลังกา อดีตเลขา กมธ.กฎหมาย ยัน 'พิธา' ไม่ผิด ปมหุ้นสื่อไอทีวี เตือนนักร้อง ระวังถูกฟ้องกลับ ฐานแจ้งข้อมูลเท็จ คุกไม่เกิน 5 ปี

25 พ.ค. 2566 - นายณพลเดช มณีลังกา อดีตเลขานุการกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน (กมธ.) สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ผ่าน "มติชนทีวี"

กรณี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ร้องเรียนไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถึงประเด็นที่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ว่าถือหุ้นของสถานีโทรทัศน์ไอทีวี (ITV) จำนวน 42,000 หุ้น โดยมีการร้องเรียนว่าผิดกฎหมายการเลือกตั้งนั้น

นายณพลเดช กล่าวว่า หากย้อนไปเมื่อปี 2562 จะเห็นว่าได้มีการฟ้องร้องนักการเมืองในกรณีถือหุ้นสื่อ และมีการตัดสินให้มีความผิด ถูกปลดจากตำแหน่ง ส.ส.หลายคน แต่ในปัจจุบันมีคำวินิจฉัยที่เปลี่ยนไปจากในอดีตตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ แบ่งเป็น 2 กรณี คือการถือหุ้นนั้นหากไม่มากพอที่จะสามารถกำหนดทิศทางสื่อได้ ให้ถือว่าไม่มีความผิด และบริษัทไม่ได้มีการดำเนินการสื่อ ถือว่าไม่ผิดเช่นกัน

คดีความดังกล่าว นายพิธา มีสัดส่วนของหุ้นเป็นจำนวนที่น้อยมาก แน่นอนว่าไม่มีความสามารถหรือมีอำนาจสั่งการให้สื่อเผยแพร่ข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อพรรคการเมืองได้ เพราะฉะนั้นเมื่อตีความตามบทบัญญัติกฎหมาย การมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เพราะเหตุเป็นผู้ถือหุ้นย่อมไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ จึงถือว่าไม่มีความผิด

นอกจากนี้ มีการตรวจสอบไปถึงงบการเงินของบริษัท พบว่าบริษัทไม่ได้ประกอบกิจการ และมีรายได้ อีกทั้งยังได้ตรวจสอบถึง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) พบว่าบริษัทไม่ได้ยื่นต่ออายุหลังจากมีการยกฟ้อง

การถือหุ้นสื่อ ที่มิอาจทำให้สื่อช่วยเหลือ หรือประชาสัมพันธ์ในการเลือกตั้งได้ ย่อมไม่ผิด และยังได้มีการลงรายละเอียดถึงเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญในกรณีถือหุ้นสื่อ หรือการมุ่งประสงค์ร้ายของผู้ที่มาร้องเรียน จุดประสงค์เพื่อให้นายพิธา พ้นจากตำแหน่ง ส.ส. ซึ่งการร้องเรียนนี้อาจจะส่งผลไปถึงตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี

การกระทำดังกล่าวอาจจะผิดตามกฎหมายตามมาตรา 173 ที่ว่าด้วยผู้ใดมิได้ทำความผิดเกิดขึ้น และมีการแจ้งหรือร้องเรียนต่อเจ้าพนักงานสอบสวน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท และหาก กกต. ร้องต่อศาล ก็อาจจะมีเป็นการกระทำผิดตามมาตรา 175 คือผู้ใดนำความเป็นเท็จ ฟ้องผู้อื่นต่อศาลว่ากระทำผิดกฎหมายอาญาแรงกว่าความเป็นจริง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...