มหากาพย์ดราม่าของ ลำไย ไหทองคำ
The Bangkok Insight
อัพเดต 08 มี.ค. เวลา 04.42 น. • เผยแพร่ 08 มี.ค. เวลา 04.33 น. • The Bangkok Insightมหากาพย์ดราม่า ลำไย ไหทองคำ เรื่องราวความรักของนักร้องลูกทุ่งสาว
เป็นเรื่องราวมหากายพ์ที่ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวเน็ตต่างให้ความสนใจอย่างมาก สำหรับเรื่องราวความรักของนักร้องลูกทุ่งสาวชื่อดัง ลำไย ไหทองคำ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2568 ได้ออกมาโพสต์ถึงสถานะตนและแฟนว่า
- เปิดโพสต์ล่าสุด ‘ประจักษ์ชัย ไหทองคำ’ แฟน ๆ แห่คอมเมนต์เพียบ
- ปุ้ย L.กฮ. เคลื่อนไหว! ตัดสินใจเรื่องนี้ หลังมีเหตุการณ์ดราม่า
- หลายคนไม่รู้ ‘ลำไย ไหทองคำ’ เกือบได้อีกชื่อใช้ในวงการเพลง
มหากาพย์ดราม่าของ ลำไย ไหทองคำ
“ขอบคุณทุกคนที่ติดตามมามาตลอด ตอนนี้สถานนะพี่ปุ้ย ลำไยคือโสดนะคะ ไม่มีปัญหาเรื่องมือที่สาม แต่คุยกันแล้วว่าขอจบกันด้วยดี ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ (ไม่ขอตอบคำถามใด ๆ นะคะ)”
ก่อนที่ทาง ปุ้ย L.กฮ. ได้โพสต์ข้อความเป็นครั้งแรก ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยระบุข้อความว่า “”ขออนุญาตเอารูปสิบปีที่แล้วมาลงนะครับ“ น้องลำไยไม่เคยมองคนที่ความดังหรือทรัพย์สินเงินทอง น้องลำไยไม่เคยคิดว่าตัวน้องลำไยดังมาก ๆ แล้วจะต้องเลือกคนใหม่ เราดีต่อกันมาตลอด
ตอนนี้ถ้าถามผม ผมว่าเราสองคนรักและผูกพันกันมาก ความรักก็ยังอยู่ที่เดิม ผมก็ยังอยู่ที่เดิม น้องลำไยก็อยู่ที่เดิม แต่แค่บางมุมมองอาจจะมองกันไม่เหมือนเดิม ผมเคยบอกน้องลำไยเสมอว่า เรามาเป็นครอบครัว เราไม่ได้มาติดคุก เราสองคนมีอิสระทางความคิดเท่าเทียมกัน จะไม่มีคำ เออ ออ ด่าทอสาดเสีย ทำลาย เอาชนะกัน เราจะมีแค่ความเข้าใจกัน
จริง ๆ เราเคยคุยเรื่องใช้ชีวิตกันมาสักพักแล้วครับ ว่าถ้าวันนึงต่างคนต่างอยากลองใช้ชีวิตกัน เราจะต้องเป็นแบบไหน และปฏิบัติตัวอย่างไร ก็ได้ตำตอบว่าเราจะดูแลกัน ไปมากันได้เหมือนเดิม ผมก็จะพยายามเลี่ยง ๆ ไม่เข้าบ้านวันที่น้องลำไยอยู่บ้าน คืนนี้ผมอยู่เชียงใหม่ พรุ่งนี้ผมเล่นพะเยาว์มะรืนผมกลับบ้าน อันดับแรกผมจะต้องเก็บที่นอนลงมานอนห้องข้างล่างและคิดทบทวนทุกอย่างให้ดีอีกรอบ
แล้วจะถามน้องลำไยอีกครั้งว่า เราตกลงแบบนี้จริง ๆ ใช่ไหมครับ ถ้าน้องลำไยตอบว่า คะ ผมก็จะขนที่นอนมานอนไกลจากน้องลำไยอีกห้องนึง แล้วก็คิดทบทวนทุกอย่างอีกรอบ แล้วผมก็จะถามน้องลำไยอีกว่า เราตกลงแบบนี้จริงๆใช่ไหมครับ ถ้าน้องลำไยตอบว่า ค่ะ ผมก็จะขนที่นอนมานอนห้องถัดไปที่ไกลกว่าห้องเดิม แล้วผมก็จะคิดทบทวนอีกรอบ
แล้วผมก็จะถามน้องลำไยอีกครั้งว่า ตกลงแบบนี้จริงๆใช่ไหมครับ ถ้าน้องลำไยตอบว่า ค่ะ รอบนี้ผมก็จะขนที่นอนไปนอนห้องซ้อมแล้วก็จะไม่ถามอะไรอีกเลย แต่บ้านมีหลายห้องนอน พี่ ๆ ไม่ต้องห่วงนะครับ แต่ทุก ๆ คนเชื่อผมนะครับ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันเป็นธรรมดาของธรรมชาติ ทุกอย่างมีเสื่อม มีดับสลายตามธรรมชาติ วางให้ไว อย่าไปแบกไปถือไว้ เมื่อเราเข้าใจ เราก็จะเบาลง”
ก่อนที่วันที่ 4 มีนาคม 2568 ลำไย จะได้ออกมาชี้แจงถึงความสัมพันธ์ต่าง ๆ บนเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า “สวัสดีค่ะ
- ประเด็นเรื่องที่โพสต์เลิกกับพี่ปุ้ยยืนยันว่าไม่ได้มีมือที่สามค่ะ ปัญหาเรื่องจุกจิกเล็กน้อยที่เป็นปัญหากันมานานไม่เกี่ยวกับเรื่องแดนซ์ชาย
- เรื่องที่เพจต่าง ๆ โพสต์เรื่องลำไยกับแดนซ์ชาย คือคุยกันจริงค่ะแต่คุยช่วงที่ตกลงกับพี่ปุ้ยว่าลองไปใช้ชีวิตแบบไม่มีกันดูค่ะ และเรื่องนี้จบไปพักใหญ่แล้วค่ะ
- สาเหตุที่โพสต์เลิกกันมาจากปัญหาสะสมเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ปรับแก้กันไม่ลงตัวซักที ตามที่เราเคยพูดกันหลายครั้งเกี่ยวกับปัญหาเล็ก ๆ น้อย แต่ก็ยังไม่ลงตัว จนมีช่วงที่พี่ปุ้ยไปทัวคอนเสิร์ต แล้วลงไปอยู่ใต้ เราได้ตกลงกันว่าเราลองใช้ชีวิตแบบไม่มีกันดูมั้ย จะได้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเรายังต้องการกันอยู่หรือเปล่า หรือว่าเราจะคิดถึงกันมั้ยเราอยู่ได้มั้ย ถ้าไม่มีกันอยู่ได้มั้ย ตอนนี้เราอยู่กันเพราะความรักหรือความเคยชินที่มีกันเฉย ๆ แล้วถ้าช่วงที่เราห่างกันไป มีคนเข้ามาแล้วเรารู้สึกโอเคกว่าตอนที่เรามีกันก็บอกกัน เราตกลงกันแบบนี้ช่วง 5-6 เดือนที่พี่ปุ้ยอยู่ใต้ ไป ๆมา ๆ บ้าง ถ้าเข้าบ้านส่วนมากจะมาช่วงที่หนูไปงาน ตจว ระหว่างนี้เราคุยกันน้อยลงจากเดิม แต่ก็ยังถามสารทุกข์สุขดิบกัน และอัปเดตชีวิตกันอยู่เรื่อย
****ช่วงนี้คือช่วงที่ลองคุยกับบอสค่ะ*****
แต่ก่อนจะคุยหนูได้ถามย้ำไปกับพี่ปุ้ยว่าตกลงเรายังไง พี่จะกลับมาอยู่บ้านมั้ย แต่ไม่ได้คำตอบที่ชัดเจนค่ะ ตอบแค่ว่ายังไม่รู้เลย ตอนนี้ปุ้ยกำลังทำบ้านที่ใต้อยู่ หนูก็เลยบอกไปว่างั้นหนูจะลองคุยกับคนอื่นนะคะ พี่ปุ้ยบอกว่าถ้าลองคุยแล้วโอเคหรือไม่โอเคก็บอกนะครับ ตอนนี้ปุ้ยไม่ได้มีใครแต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นและไม่ได้โหยหา ปุ้ยเข้าใจขีวิตวัยรุ่น หลังจากนั้นเราก็คุยกับบอส แต่ก็อัปเดตพี่ปุ้ยบ้างว่าเป็นยังไง พี่ปุ้ยก็รับรู้ค่ะ
*****บอสมีแฟนอยู่แล้วทำไมถึงไปคุยได้*****
เริ่มต้นจากที่บอสเข้ามาทำงานซักพักแล้วเวลากินข้าว หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกันในวงด้วยกันแล้วน้อง มักจะทะเลาะกับแฟนทางโทรศัพย์บ่อย ๆ จนเกิดการถามกันขึ้นในวง น้องก็เล่าให้ฟังบ้างเรื่องปัญหาที่ทะเลาะกัน และมีวันนึงน้องทักมาหาส่วนตัวจะปรึกษาเรื่องการเต้นบนเวที เพราะมีบางช่วงที่ทะเลาะกับแฟนเพราะการหึงหวงการแสดงบนเวที เราก็รับฟังและให้คำปรึกษา เป็นจุดเริ่มต้นที่ได้พูดคุยกันทางแชท
หลังจากนั้นเวลามีอะไรบอสก็จะมาปรึกษาเรื่อย ๆ ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว และจะบ่นตลอดว่าเวลาทะเลาะกันชอบโดนแฟนด่าว่าแรงๆไม่โอเคเลย ไม่ไหวแล้ว ประมานนี้ เราก็มีปรึกษาเรื่องความรักของเราไปบ้าง หลังจากนั้นน้องบอกว่าตอนนี้ เลิกกับแฟนแล้ว แต่ยังอยู่คอนโดเดียวกันเพราะยังตกลงกันไม่ได้เรื่องแมว และยังไม่ได้บอกครอบครัวหลังจากนี้เราก็ได้ลองคุย ๆ กันมากขึ้น (เราเข้าใจว่าน้องเลิกกันแล้ว แต่จริง ๆ ไม่ได้เลิกกัน) หลังจากนั้นไม่นานแฟนบอสมาเห็นแชทที่คุยกับเราเลยเป็นปัญหา วันนั้นต้องเรียกคนมาเต้นแทนกระทันหันตอนนั้นเรางง ๆ ว่าเกิดไรขึ้น หลังจากนั้นบอสก็ได้มาบอกความจริงของเรื่องทั้งหมด
หนูเลยไปปรึกษาพี่ปุ้ยและทางค่าย ว่ามันเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำยังไงดี และทางแฟนของบอสได้ติดต่อมาที่ค่ายพอดี ก็คุยกันหาตรงกลางกันว่าจะเอายังไงดี จะให้บอสออกจากวง ให้อภัยกันแล้วคบกันต่อ หรือว่าจะเลิกกัน แล้วให้ทางเราทำยังไงได้บ้างให้ซอพต่อความรู้สึกของทุกฝ่าย สรุปได้ว่าแฟนบอสขอเรียกเงิน 10 ล้าน ทางค่ายคิดว่ามันเยอะเกินไปเลยเสนอใหม่ว่าสามารถจ่ายให้ได้ 2 ล้านน้องผู้หญิงโอเคมั้ย น้องก็ตกลงว่ารับเงิน 2 ล้านไปแล้ว ต่างคนต่างอยู่น้องก็จะไปเรียนต่างประเทศ ไม่ได้ติดใจอะไรกันก็แยกย้ายกันไปส่วนบอสที่ต้องทำงานต่อเพราะต้องทำงานใช้หนี้ที่ทางค่ายหลังจากนั้น หนู พี่ปุ้ย บอส ก็มาคุยกัน พี่ปุ้ยก็คุยกับบอสว่าให้ทำงานใช้หนี้ต่อได้ เป็นอันว่าจบปัญหาตรงนี้ไป
-หลังจากเรื่องบอสจบไป หนูกับพี่ปุ้ยก็มาเปิดใจคุยกันอีกครั้ง สรุปได้ว่าตอนอยู่ด้วยกันน่าจะโอเคกว่าเลยลองมาปรับกันอีกทีเพราะเดินด้วยกันมาไกลแล้ว และก็ยังมีความผู้พันห่วงใยกันอยู่ หลังจากนั้นพี่ปุ้ยก็กลับมาอยู่บ้าน เราก็พยายามปรับกันให้มากขึ้น แต่ก็ยังมีบางเรื่องที่ทำให้เราน้อยใจอยู่บ้าง แต่ก็เลือกที่จะไม่พูดปล่อยผ่านไปบ้าง เพราะเรื่องดี ๆ เราก็มีร่วมกันเยอะมาก จนมาถึงช่วงวันเกิดที่ผ่านมา
พี่ปุ้ยรับปากว่าจะมางาน เตรียมชุดเตรียมของเรียบร้อย พอถึงช่วงเป่าเค้กหนูยังไม่เห็นคนที่บ้านมาถึงงานเลย ทั้งแม่ทั้งพี่ปุ้ย หนูเลยโทรไปถามสรุปว่าพี่ปุ้ยบอกว่าปุ้ยไม่ไปแล้ว แล้วก็บอกว่าจะให้คนมาส่งแม่ ซึ่งถึงเวลาเป่าเค้กแล้ว ตอนนั้นจำได้ว่าโกรธมาก ๆ แต่แขกก็มางานเยอะก็เลยปล่อยผ่านไปก่อน หลังจากวันนั้นเราก็เริ่มตึง ๆ กัน คุยกันน้อยลง ทำอะไรนิดหน่อยก็ทะเลาะกันบ่อยขึ้น จนวันที่ได้โพสข้อความลงเฟสก่อนจะโพสต์ได้ถามกันอีกทีว่าเราจะเอายังไง สรุปคือเราปรับกันไม่ได้แล้วใช่มั้ย ต่างคนก็ต่างไม่ยอมกัน น่าจะด้วยอารมณ์บวกกันการประชดประชันกัน พอได้คำตอบก็เลยโพสต์ไปตอนนั้นเลย
****หลังจากโพสต์ไปไม่นาน พี่ปุ้ยก็โทรมาขอปรับความเข้าใจอีกครั้ง ซึ่งเราทั้งคู่ก็อารมณ์เย็นลงแล้ว สรุปได้ว่าเราขอลองปรับตัวเข้าหากันอีกรอบค่ะ****”
ต่อมาในวันที่ 5 มีนาคม 2568 โหนกระแส ได้เชิญ บอส แดนเซอร์ชายที่ถูกพาดพิงมาพูดคุยในรายการเปิดใจครั้งแรก โดยเบื้องต้น โหนกระแส ได้เผยว่า บอส เล่าว่า ตนไม่รู้มาก่อนว่าลำไย เป็นแฟนกับปุ้ย มารู้หลังจากที่ตนเข้าไปในวงแล้ว เคยเจอพี่ปุ้ยผ่านๆ เวลาที่ไปซ้อม ซึ่งตอนนั้นตนก็คบหากับ “โม แฟนสาวของตัวเอง แต่ก็มีปัญหาส่วนตัวกันอยู่เนือง ๆ ยิ่งพอตนมาเป็นแดนเซอร์ตัวจริงในวง ต้องไปออกทริปต่างจังหวัดหลาย ๆ วัน ไม่มีเวลาคุยกัน ก็ยิ่งทะเลาะกันบ่อย
มีช่วงหนึ่งที่ตนทักไปคุยส่วนตัวกับพี่ลำไย ปรึกษาเรื่องงานก่อน แล้วไป ๆ มา ๆ ก็เริ่มมีการปรึกษาเรื่องความรัก เพราะพี่ลำไยก็บอกว่ามีปัญหาความรักของเขา ส่วนตนก็มีปัญหากับโม จนมีบางครั้งกระทบกับงาน ปรึกษากันไปกันมา จนกลายเป็นการตกลงคุยศึกษาดูใจกัน
บอสยอมรับว่า ในตอนที่คุยกับลำไย สถานะคือคนคุย แต่จากพฤติกรรมต่างๆ จะเรียกว่าแฟนก็ได้ แต่ความสัมพันธ์นี้ เริ่มต้นจากการที่ตนไปโกหกลำไยว่า “ผมโสด” ตนไปบอกลำไยว่า ตนเลิกกับแฟนแล้ว แต่ยังต้องอยู่ในคอนโดเดียวกัน เพราะตกลงเรื่องแมวไม่ได้
ส่วนในฝั่งของพี่ลำไย เขาอยู่ในช่วงที่ตกลงว่าจะห่างกับพี่ปุ้ย ซึ่งพี่ปุ้ยรับรู้ตลอดว่า ตนกับลำไยคุยกันอยู่ เพราะพี่ลำไยปรึกษาพี่ปุ้ยตลอด ซึ่งเรื่องนี้ ตรงกับที่ปุ้ยออกมาอัดคลิปเล่า บอสยอมรับผิดว่าเรื่องราวทั้งหมด เกิดจากการที่ตนไม่ยอมพูดความจริงตั้งแต่แรก ไม่ได้ออกมาพูดเพื่อรับจบแทนใคร เพียงแต่พูดในเรื่องจริง
โดยช่วงหนึ่งของรายการได้มีการติดต่อไปยัง นายห้างประจักษ์ชัย เพื่อสอบถามถึงเรื่องสัญญาที่ทางค่ายไหทองคำ ได้ทำเอาไว้กับ โม แฟนเก่าแดนเซอร์ ก่อนจะได้รับเงิน 2 ล้านบาท แลกกับการจบเรื่องทั้งหมด และห้ามทำให้ศิลปินเสื่อมเสียชื่อเสียง ในเนื้อความสัญญาระบุเอาไว้ว่า
บันทึกข้อตกลงระหว่าง นางสาว [ชื่อ-นามสกุล] เลขประจำตัวบัตรประชาชน [เลขบัตรประชาชน] ที่อยู่ [ที่อยู่] ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้รับสัญญา” กับ บริษัท ไหทองคำ เร็คคอร์ด ซึ่งต่อไปนี้เรียกว่า “ผู้ให้สัญญา”
เรื่อง ยุติข้อพิพาท ปัญหา ของนางสาว [ชื่อ-นามสกุล] โดยทางค่ายไหทองคำได้ชดเชยเงินเป็นจำนวน สองล้านบาท ให้กับนางสาว [ชื่อ-นามสกุล] (ผู้รับสัญญา) และศิลปินค่ายไหทองคำ โดยมีข้อตกลงกันดังต่อไปนี้
ทาง “ผู้รับสัญญา” ยินยอมยุติข้อพิพาททุกอย่างกับศิลปิน ค่ายไหทองคำ เร็คคอร์ด
ทาง “ผู้รับสัญญา” ยินยอมและยินดี ลบคลิป ข้อความ โพสต์ คอมเม้นต์ ซึ่งเป็นลักษณะข้อความที่หมิ่นประมาทและส่อเสียดถึงศิลปินค่ายไหทองคำเร็คคอร์ด อันจะทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและความนิยมในตัวศิลปิน
นับจากวันที่ลงนามในสัญญาฉบับนี้ ทางผู้รับสัญญาตกลงกับผู้ให้สัญญาว่าจะไม่โพสต์ ไม่กล่าวถึง ศิลปินในค่ายไหทองคำเร็คคอร์ด ในเชิงทำให้เสียหายชื่อเสียงไม่ว่าจะทางวาจาหรือทางโพสต์ต่าง ๆ
ข้อตกลงของการละเมิดสัญญา
ถ้าหากผู้รับสัญญากระทำการอันหนึ่งอันใดให้ศิลปินไหทองคำเร็คคอร์ดเกิดความเสียหายในด้านชื่อเสียงและความนิยม ผู้รับสัญญา ยินยอมให้ผู้รับสัญญาดำเนินดำเนินการทางกฎหมาย ทั้งทางแพ่ง และทางอาญา และยินยอมให้ปรับเป็นจำนวนเงิน 20,000,000 (ยี่สิบล้านบาท)
เมื่อได้อ่านทำความเข้าใจกันทั้งสองฝ่ายแล้วจึงยินยอมลงนามเพื่อที่จะบันทึกข้อตกลงในหนังสือฉบับนี้
ลงชื่อ [ลายเซ็น] ผู้ให้สัญญา
ลงชื่อ [ลายเซ็น] พยาน
ลงชื่อ [ลายเซ็น] ผู้รับสัญญา
ลงชื่อ [ลายเซ็น] พยาน
ซึ่งทางด้านของ โม อดีตแฟนบอส แดนเซอร์ชาย เปิดใจในรายการโหนกระแส เผยได้มีการเรียกร้องจากบอสเป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท เป็นค่าเสียใจ เนื่องจากอยู่กินด้วยกันฉันสามีภรรยา คิดจะสร้างครอบครัว ซื้อคอนโด แต่จู่ ๆ ก็มาเกิดเรื่องแบบนี้ ซึ่งรับไม่ได้ที่โดนนอกใจ เพราะสิ่งที่บอสพูดออกมาไม่มีแม้แต่คำยอมรับตนต้องการแค่นี้
เมื่อ หนุ่ม กรรชัย ถามว่า “ได้ 2 ล้าน ไม่ต้องการคำยอมรับแล้วเหรอ?” เจ้าตัวตอบกลับว่า “พอได้ 2 ล้านก็ไม่ต้องการแล้ว เพราะให้อะไรที่แบบว่าแลกเปลี่ยนกัน เหมือนให้โอกาสเราไปเริ่มต้นใหม่ เหมือนให้หนูไปเริ่มใหม่ได้ง่ายขึ้น หนูก็โอเคที่จบแบบนี้ เขาก็ได้รับบทลงโทษจากสิ่งที่เขาทำ เพราะเป็นเงินที่เขาต้องจ่าย หนูไม่ได้อยากอยู่กับบอสแล้ว ถ้ารับเงิน 5 หมื่นหนูต้องอยู่กับบอสต่อ” อดีตแฟนบอส กล่าว
โดยในช่วงท้ายของรายการ “โม” ได้กล่าวว่า หากอาจารย์ประจักษ์ชัยจะฟ้องร้องก็เป็นสิทธิ์ของท่าน แต่ตนขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนปล่อยหลักฐานนี้รวมถึงคนรอบข้างด้วย ส่วนที่มีการโพสต์ในเฟซบุ๊กเพราะเป็นการตัดพ้อเสียใจ พร้อมขอโทษอาจารย์ประจักษ์ชัยถึงกรณีดังกล่าว
จากนั้น นายห้างประจักษ์ชัย ไหทองคำ มานั่งในรายการโหนกระแส เปิดใจถึงกระแสของนักร้องในสังกัดที่กำลังเกิดขึ้น โดยช่วงหนึ่งของรายการ โม อดีตแฟนบอส นำพวงมาลัยก้มกราบ “นายห้างประจักษ์ชัย” เจ้าของค่ายเพลงไหทองคำ ขอโทษในบางเรื่องที่ทำให้ลำบากใจ แต่ยืนยันว่าไม่ได้เป็นคนนำคลิปไปเผยแพร่ตามเพจต่าง ๆ แน่นอน ขณะที่ อ.ประจักษ์ชัย ได้สะอื้นเช่นกัน พร้อมบอกกับ “โม” ว่า ตนขอยอมกลืนเลือดให้อภัย และขอให้โมใช้เงิน 2 ล้านให้เกิดประโยชน์หลังจากนี้
และล่าสุด (7 มี.ค.) ลำไย ได้ออกมาเคลื่อนไหว โดยโพสต์ถึงเรื่องคลิป ระบุข้อความเอาไว้ว่า “หลายคนเข้าใจผิดว่าถ้าคลิปเป็น AI แล้วยอมจ่ายทำไม 2 ล้าน AI ในโพสต์หมายถึง คลิปที่ใครก็ไม่รู้ทำขึ้นมา ลงในเน็ตหลอกให้คนไปดูคะ มีทั้งAI และหน้าเหมือนหลายคลิป ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนตามหา แต่ทำให้คนที่เห็นบางส่วนเข้าใจผิดว่าเป็นหนูค่ะ(คลิปต้นเรื่องไม่ใช่AI ยังไม่ได้หลุดจ้า)”
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- ช็อตน้ำตาซึม ‘โม’ ยกพานกราบขอขมา ‘ประจักษ์ชัย’ จบดราม่าลำไย
- ป๊อก ภัสสรกรณ์ ใช้เวลากว่า 22 ปี พิสูจน์ความหลงไหลในดนตรีฮิปฮอป
- ลำไย ไหทองคำ โพสต์ครั้งแรก! ปมคลิปหลุด หลังมีคนส่งให้เยอะมาก
ติดตามเราได้ที่