โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

โสเภณีมีค่า แต่ไม่มีสิทธิ์

THE ROOM 44 CHANNEL

อัพเดต 10 มี.ค. 2567 เวลา 12.45 น. • เผยแพร่ 10 มี.ค. 2567 เวลา 12.45 น.

โสเภณีมีค่า แต่ไม่มีสิทธิ์

‘ถ้าไม่มีโสเภณี แม้แต่สวรรค์ก็ไม่สมบูรณ์’ คำพูดเด็ดจากภาพยนต์ คังคุไบ เรื่องราวสะท้อน อาชีพหญิงขายบริการในประเทศอินเดียที่ต้องต่อสู้จนได้มาซึ่งสิทธิทางสังคมเท่าอาชีพอื่น ส่วนอาชีพหญิงขายบริการในประเทศไทย กลับถูกมองว่าเป็นอาชีพที่ไม่มีเกียรติ คนที่ทำอาชีพนี้เป็นคนไม่ดี ทั้งๆที่นักท่องเที่ยวบางส่วนที่มาเที่ยวประเทศไทยไม่ได้มาชมแค่ว่าคนไทยยิ้มง่าย ไหว้สวย แต่จุดหมายปลายทางหลักคือซื้อบริการ แต่กลับไม่มีสวัสดิการให้กับพวกเขาเหล่านี้ เหมือนคนทำงานทั่วไปทั้งๆ ที่สามารถสร้างรายได้ให้ประเทศเป็นพันๆ ล้าน

หญิงขายบริการอยู่คู่กับทุกสัมคม ชนชั้น ตั้งแต่อดีตกาลจนถึงปัจจุบัน เห็นได้จากสมัยอยุธยาที่เรียกพวกเธอว่า แม่หญิงโคมเขียวเพราะที่ไหนที่เปิดเป็น สถานขายบริการหรือซ่อง มักจะติดโคมไฟหน้าร้านสีเขียวเหมือนเป็นป้ายเชิญลูกค้า จนสมัย ร.4 เกิดการจัดระบบระเบียบอาชีพนี้ เก็บเงินทุกบาทเข้าเป็นภาษี เรียกว่าภาษี ‘บำรุงถนน’ สืบต่อมาสมัย ร.5 ออก พรบ. ขึ้นทะเบียนให้ทำเป็นกิจลักษณะเพราะสังคมในสมัยนั้นชายเป็นใหญ่ ผู้หญิงที่ไม่มีการศึกษาก็ต้องบำเรอกามให้กับผู้ชายตั้งแต่หัวดำยันหัวหงอกหรือพ่อค้าไปจนถึงขุนนางชั้นสูง โดยถูกมองว่าเป็นผู้หญิงไม่ดีบวกกับวิทยาการแพทย์สมัยนั้นที่ทำให้พวกเธอเจ็บ ป่วยติดโรย จากโรคทางเพศสัมพันธ์ แต่ความหน้าบางของเมืองไทยจน ใน รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ ออกพรบ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี จนทำให้อาชีพนี้ต้องกลับไปหลบๆ ซ่อนๆ มาจนถึงปัจจุบัน

อาชีพขายบริการในประเทศไทยยังต้องพรางตัวอยู่ใต้ดินเป็นธุรกิจมืด หรือบางทีก็เป็นรูปแบบค้ามนุษย์ ซึ่งร้านที่มีชื่อเสียงหรือทำเป็นกิจจลักษณะมักใช้การเลี่ยงว่าขายบริการเป็นอาบอบนวดแทน เจ้าหน้าที่รัฐก็ปิดหูปิดตา ทำเป็นไม่รู้นกรู้ไม้ หรือถ้าเป็นร้านชื่อดังก็เรียกเก็บค่าแผงหรือส่วยในราคาสูงเพื่อไม่ต้องโดนคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล

ในช่วงปี 2564 พรรคเพื่อไทยเคยเปรยเอาไว้ว่าจะเรียกร้องสิทธิให้ผู้หญิงค้าบริการทางเพศถูกกฏหมาย แต่พอเป็นรัฐบาลนโยบายนี้ก็ได้หายเข้าไปในกลีบเมฆเหมือนว่าไม่มีการพูดถึงมาก่อน ทั้งๆที่เคยจัดเสวนาในเรื่องนี้ แต่ก็ยังไม่หมดหวังเสียทีเดียว พรรคก้าวไกลยังมีการพูดคุย เชิญตัวแทนจากภาคเยาวชนเพื่อหาทางนำนโยบายนี้เข้าไปในสภาอย่างถูกกฏหมาย

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า "ร่างกฏหมายของพรรคก้าวไกลพร้อมยื่นแล้ว เราก็ติดสินใจก่อนว่าเราจะคุณเศรษฐาหรือยืนเข้าไปเลย เพราะว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมเพื่อความมั่นคงของมนุษย์ก็กำลังทำเรื่องนี้อยู่ ซึ่งต้องให้คณะรัฐมนตรีเห็นชอบ ช่วงนี้กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจอยู่"

เห็นได้ว่าพรรคก้าวไกลพร้อมยื่นเรื่องนี้เข้าสู่สภา แต่ติดตรงที่กฏหมายก่อนหน้านี้เรื่องคำนำหน้าถูกปัดตกไป ก้าวไกลเองก็กลัวเรื่องนี้จะถูกปัดตกตามจึงต้องรอท่าทีของนายกรัฐมนตรีก่อนว่าจะเป็นอย่างไร แต่ไม่ใช่มีเพียงพรรคก้าวไกลเท่านั้น ยังมีจากกลุ่มภาคประชาชนที่รอการรวบรวมรายชื่ออยู่

นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า"มีสองข้อเสนอข้อเสนอแรกมูลนิธิสวิง แนวคิดคือยกเลิกพรบ.ป้องกันและปราปรามการค้าประเวณี 2539 ซึ่งนายกฯก็เห็นไปแนวทางเดียวกับมูลนิธิสวิงให้ผู้ค้าบริการเหมือนแรงงานทั่วไป ส่วนข้อเสนอที่สองคือทำการศึกษาเมื่อสภาชุดที่แล้วกับมูลนิธิเอ็มพาวเวอร์ คือเราส่งข้อสังเกตไปที่กระทรวงพัฒนาสังคมเพื่อความมั่นคงของมนุษย์ที่มีการยกร่างเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกันซึ่งหมายถึงการค้าประเวณียังไงก็ถือว่าการค้ามนุษย์"

ถ้า พรบ.ตัวนี้เข้าสู่สภาและได้รับการสนับสนุนด้วยเสียงที่มากพอจะทำให้กลุ่มผู้ค้าบริการที่ไม่ได้มีแค่ผู้หญิงเพียงอย่างเดียวแต่ผู้ชายและกลุ่มหลายหลายทางเพศ ที่ทำอาชีพนี้ยังได้สิทธิเทียบเท่ากับอาชีพแรงงานทั่วไป แต่ไม่ได้หมายความว่าสนับสนุนให้คนไปขายตัว เพราะสังคมไทยกับการค้าบริการอยู่คู่กันมาช้านาน จะดีกว่ามั้ยถ้าเราทำให้เป็นอาชีพสุจริตและแรงงานกลุ่มนี้ยังได้รับการคลุ้มครองเฉกเช่นมนุษย์ทั่วไป

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...