‘น้องชายโค้งงอ’ นั้นปกติไหม มีวิธีแก้ไขอย่างไร ?

ว่ากันด้วยเรื่อง ‘กระปู๋’ บางคนได้มาน้อย บางคนได้มาเยอะมหึมาเกินตัว แต่ขนาดนั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ ถึงแม้ ‘อวัยวะเพศชาย’จะมีลักษณะที่แตกต่างกันไป เอียงซ้ายเอียงขวา องศาชี้ฟ้าหรือจะทิ่มลงดิน อาจจะทำให้ขาดความมั่นใจไปบ้างตอนแข็งตัวหรือออกศึกสำคัญ แต่ก็ยังเป็นเรื่องดีที่ไม่ได้เป็นอันตราย หรืออุปสรรคในการใช้งาน

‘กระปู๋โค้งงอ’ นั้นปกติไหม?

ต้องเช็กตัวเองก่อนว่ากระปู๋ของเรานั้นโค้งงอตั้งแต่เกิดหรือเปล่า หากยังใช้งานได้ดี ไม่มีอาการเจ็บปวดตามมาในการขับถ่ายปัสสาวะ หรือขณะมีเพศสัมพันธ์นั่นก็ถือว่าปกติ เพราะลักษณะทิศทางโค้งงอที่แตกต่างกันของกระปู๋ ส่วนใหญ่ต่างกันไปจะเห็นได้ชัดตอนอวัยวะเพศแข็งตัว 

การโค้งงอนั้นก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน เพราะทำให้การสอดใส่มีเพศสัมพันธ์ได้ลึกขึ้น ไม่ชนไปตรงๆ กับปากมดลูกของฝ่ายหญิง แถมช่วยให้มีลูกได้ง่ายขึ้น โดยเมื่อหลั่งอสุจิซึ่งมีความแรงและความเร็วถึง 45 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้อสุจิส่วนหนึ่งเข้าไปในมูกที่ปากมดลูก และเนื่องจากอวัยวะเอียง อสุจิที่เหลือจะขังอยู่ในแอ่งยอดช่องคลอดหลังปากมดลูก ทำให้ปากมดลูกแช่ในน้ำอสุจิได้โดยตรง

‘กระปู๋โค้งงอ’ ที่เกิดขึ้นภายหลังเพราะพังผืด

การโค้งงอประเภทนี้เกิดได้จากพยาธิสภาพ หรือที่เรียกกันว่า 'เพย์โรนี่ ดีซีส' (peyronie’s disease) นั่นยังไม่รู้ถึงปัญหาการเกิดแน่ชัด โดยเชื่อว่าเกิดจากพังผืดหรือแผลเป็นที่ตัวอวัยวะเพศจากการกระทบกระแทกจนบริเวณดังกล่าวอักเสบ เช่น จากการเล่นกีฬา , การมีเพศสัมพันธ์ ทำให้สูญเสียความสามารถในการยืดหยุ่นไม่สามารถยืดออกได้ผิดรูปเมื่อมีการแข็งตัว ซึ่งหากโค้งงอ 30 องศาอาจจะเกิดอาการเจ็บปวดจนไม่สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ จำเป็นต้องรักษาพบแพทย์เพื่อผ่าตัดแก้ไข

งอแค่ไหน ถึงควรแก้ไข?

ถ้ามีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ ไม่รู้สึกเจ็บปวด หรือมีปัญหาด้านจิตใจก็ไม่จำเป็น แต่หากมีเพศสัมพันธ์แล้วเจ็บ สอดใส่ได้ยากก็ควรที่จะแก้ไข โดยแพทย์จะรอถึงระยะที่สองให้โค้งงอเต็มที่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงก่อนค่อยทำการรักษาด้วยการผ่าตัด เพื่อจะได้ไม่ต้องมาแก้ซ้ำอีก 

การผ่าตัดรักษาอาการโค้งงออาจมีผลข้างเคียงทำให้มีโอกาสที่อวัยวะเพศจะไม่แข็งตัวสูง เพราะตัดพังผืดที่ยึดรั้งออกไปหลายจุด ก็ต้องหาอะไรไปเสริม บางรายอาจจะต้องฝังแกนอวัยวะเพศเหมือนกับการรักษาผู้ป่วยที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

หากมีปัญหาดังกล่าวอย่ากลัวที่จะไปพบแพทย์เพื่อฟังคำแนะนำ รวมถึงวิธีการผ่าตัดรักษาที่เหมาะสมต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก 

thestandard.co

health.campus-star.com