โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

“Entertainment Complex” กระตุ้น GDP ไทยโตได้แค่ไหน ? หลังผ่านด่านแรกร่างกฎหมาย เทียบกรณีศึกษา ตปท.

Positioningmag

อัพเดต 15 ม.ค. เวลา 04.01 น. • เผยแพร่ 14 ม.ค. เวลา 14.26 น.

วานนี้ (13 ม.ค. 68) ที่ประชุม ครม. เห็นชอบหลักการร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ถือเป็นการผ่านด่านแรกของเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ในไทย

ขั้นตอนต่อไป คือ ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานำไปปรับปรุงรายละเอียด ก่อนส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณา

Positioning ชวนดู กรณีศึกษา Entertainment Complex ที่เคยเกิดในหลายประเทศ เปรียบเทียบกับไทยว่าจะเกิดผลกระทบด้านเศรษฐกิจ (GDP) มากเท่าใด รวมไปถึงผลได้-เสีย ของโครงการดังกล่าว

Entertainment Complex คืออะไร

Entertainment Complex คือ สถานความบันเทิงครบวงจร ในบริบทของรัฐบาลไทยประกอบไปด้วย 12 ส่วนหลัก ได้แก่

  • ห้างสรรพสินค้าครบวงจร

  • โรงแรมระดับ 5 ดาว

  • ร้านอาหารและบาร์

  • ศูนย์ประชุม และสถานที่จัดนิทรรศการขนาดใหญ่

  • ศูนย์สุขภาพครบวงจร

  • สถานที่เล่นเกม (กาสิโน)

  • สนามกีฬา

  • พื้นที่ส่งเสริมวัฒนธรรมไทย และจำหน่ายสินค้า OTOP

  • สวนสนุก

  • สระว่ายน้ำ และสวนน้ำ

  • สถานที่แสดงโชว์

  • กิจกรรมอื่น ๆ

โดยมี 5 พื้นที่เป้าหมาย ที่มีความเป็นไปได้ในการทำ Entertainment Complex คือ เชียงใหม่, ท่าเรือคลองเตย กทม., โซนบางกะเจ้า สมุทรปราการ, EEC และภูเก็ต

Entertainment Complex มีโครงสร้างรายได้อย่างไร ใครได้ประโยชน์?

ข้อมูลจาก ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย ประเมินว่า Entertainment Complex ในไทย จะมีมูลค่าลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3-4 ปี

เมื่อเปรียบเทียบกับโมเดลสถานบันเทิงครบวงจรจากต่างประเทศ พบว่า มีขนาดพื้นที่และเม็ดเงินแตกต่างกัน อาทิ Marina Bay Sands สิงคโปร์ ขนาด 363.4 ไร่ เงินลงทุน 2.1 แสนบาท (5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นต้น

สำหรับโครงสร้างรายได้ของธุรกิจประเภทนี้ หลัก ๆ จะแบ่งออกเป็น 2 แนวทาง ได้แก่

1.โครงสร้างรายได้ของผู้ประกอบการสถานบันเทิงครบวงจร

  • รายได้จากการเล่นเกม หรือ กาสิโน (GGR) เฉลี่ย 50-70% ของรายได้รวม

  • รายได้จากบริการอื่น ๆ เฉลี่ย 30-50% ของรายได้รวม

2.โครงสร้างรายได้ของรัฐบาล

  • ภาษีกาสิโน (Casino Tax) ขึ้นอยู่กับอัตราที่รัฐกำหนด เช่น ลาสเวกัสเฉลี่ย 10% และมาเก๊าเฉลี่ย 35%

  • ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) *ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการจะได้รับการยกเว้น VAT กรณีรายได้จากการพนัน* และเก็บเฉพาะรายได้จากบริการอื่น ๆ ของผู้ประกอบการ

  • ภาษีเงินได้นิติบุคคล (CIT) *ผู้ประกอบการมักได้รับการยกเว้น CIT จากเงื่อนไขการส่งเสริมการลงทุน*

  • ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต ประกอบด้วยค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเริ่มต้น + ค่าธรรมเนียมรายปี ส่วนจะเสียเท่าไรขึ้นอยู่กับขนาด สถานที่ และนโยบายรัฐ

  • ค่าธรรมเนียมการเข้าใช้บริการ เก็บเฉพาะคนท้องถิ่น เพื่อจำกัดการเล่น ส่วนนักท่องเที่ยวไม่เสีย ยกตัวอย่าง สิงคโปร์เก็บเงินคนท้องถิ่น 4,000 บาท/คน/ครั้ง, ญี่ปุ่น 2,000 บาท/คน/ครั้ง

สถานบันเทิงครบวงจรกรณีศึกษาต่างประเทศ ทำรายได้เท่าไร?

ปัจจุบันพบหลายประเทศเปิดสถานบันเทิงครบวงจร และทำรายได้มหาศาล โดยเฉพาะจากธุรกิจกาสิโน อาทิ

  • มาเก๊า ทำรายได้ 32,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 1.11 ล้านล้านบาท

  • ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา รายได้ 30,000 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 1.04 ล้านล้านบาท

เจาะลึกผลกระทบในแง่เศรษฐกิจ “กรณีศึกษาประเทศสิงคโปร์” พบว่า ในปี 2565 สถานบันเทิงครบวงจร มีสัดส่วน 4% ของ GDP สร้างงานให้คนในพื้นที่ 2 หมื่นตำแหน่ง

ส่วนรายได้ทำได้ถึง 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4.17 แสนล้านบาท คิดเป็น 10% ของรายได้ภาคบริการของสิงคโปร์

ทั้งนี้ ในปี 2565 สิงคโปร์มีนักท่องเที่ยว 15 ล้านคน มีสัดส่วนมากถึง 30% ที่ไปเยี่ยมชมสถานบันเทิงครบวงจร

ส่งผลให้สามารถจัดเก็บภาษีจากธุรกิจนี้ได้ 2,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 8.34 หมื่นล้านบาท

ผลได้-เสียโครงการ

ผลกระทบเชิงบวก 5 ข้อ ได้แก่

1. ดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 ล้านบาท/แห่ง

2. เพิ่มรายได้ท่องเที่ยว โดยเพิ่มจำนวน+ระยะพำนักนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเพิ่มค่าใช้จ่ายเฉลี่ย/คน

3. เพิ่มรายได้ของธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ตั้งแต่รายได้จากการเล่นคาสิโน (GGR) และรายได้จากบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

4. สร้างงาน/กระจายรายได้ แบ่งเป็น จ้างงานตรง+อ้อมในอุตสาหกรรมบริการ ตลอดจนเพิ่มการหมุนเวียนของปริมาณเงินในระบบ

5. เพิ่มรายได้ให้กับรัฐบาล จากภาษีกาสิโน (Casino Tax), ภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT), ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต, ค่าธรรมเนียมการเข้าใช้บริการ

ผลกระทบเชิงลบ 4 ข้อ ได้แก่

1. เพิ่มความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจใต้ดิน อาทิ หลีกเลี่ยงภาษี/ฟอกเงินผ่านกาสิโนและการพนัน, เร่งการเติบโตของธุรกิจผิดกฎหมายเกี่ยวข้องกับการพนัน

2. กระทบต่อภาระหนี้สินครัวเรือน ได้แก่ ติดการพนันเพิ่มขึ้น/หนี้สินจากพนันเพิ่มขึ้น, กระทบเสถียรภาพเศรษฐกิจของครัวเรือน

3. ความเหลื่อมล้ำรายได้อาจเพิ่มขึ้น โดยรายได้กระจุกตัวอยู่ในกลุ่มกาสิโน/กลุ่มนายทุน, กลุ่มได้ประโยชน์-เสียประโยชน์เหลื่อมล้ำมากขึ้น

4. ต้นทุนสังคมจากปัญหาติดพนัน คือ ค่ารักษา/บำบัดฟื้นฟูผู้ติดการพนัน, ผลกระทบทางอ้อมต่อครอบครัว/สังคม

เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ทุนใหญ่ต่างชาติ 6 รายสนใจ

ล่าสุด นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มี ทุนต่างชาติ 6-7 รายสนใจลงทุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ในไทย

เบื้องต้น ข้อกำหนดบริษัทฯ ที่จะมาลงทุนต้องมีทุนจดทะเบียน 1 หมื่นล้านบาท และต้องลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท

ขณะที่พื้นที่ที่สนใจนำมาพัฒนาต้องเป็นของภาครัฐ มีขนาดไม่ต่ำกว่า 300 ไร่ เพื่อเร่งพัฒนาให้ทันกับญี่ปุ่น ที่เตรียมเปิดโมเดลเดียวกันในโอซาก้านั่นเอง

อย่างไรก็ตาม เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ คาดสร้างผลกระทบ GDP ในช่วงก่อสร้างได้ 0.2% และช่วงเปิดดำเนินการ 0.7% พร้อมกระตุ้นการจ้างงานได้ 2 หมื่นตำแหน่ง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...