โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

มิตซูบิชิลั่นไม่ร่วมสงครามราคา แม้ตลาดแอร์ 3.35 หมื่นล้านแข่งเดือด

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 16 ม.ค. เวลา 09.56 น. • เผยแพร่ 15 ม.ค. เวลา 10.46 น.

มิตซูบิชิฯ กันยงวัฒนา คาดปี 2568 ตลาดแอร์โต 5% เป็น 33,500 ล้านบาท พร้อมแข่งราคาเดือด หลังที่อยู่อาศัย-ดาต้าเซ็นเตอร์-ท่องเที่ยวหนุนดีมานด์ ย้ำไม่ร่วมสงครามราคา หันเน้นนวัตกรรม ความคุ้มค่าและการบริการชิงลูกค้า มั่นใจยอดขายโต 10% รักษาโพซิชั่นเบอร์ 1 เครื่องปรับอากาศ

นายโทชิยูกิ อีซูกะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ, ตู้เย็น, พัดลม ปั๊มน้ำแบรนด์ “มิตซูบิชิ” ฉายภาพตลาดเครื่องปรับอากาศในประเทศไทยปี 2568 นี้ว่า ตลาดเครื่องปรับอากาศมีโอกาสเติบโตประมาณ 5% เป็น 33,500 ล้านบาท หลังปี 2567 ตลาดเครื่องปรับอากาศมีมูลค่า 31,200 ล้านบาท

โดยการเติบโตของปี 2568 นี้ มี 4 ปัจจัยหนุนหลักที่กระตุ้นดีมานด์ทั้งเครื่องปรับอากาศในบ้าน หรือ B2C และเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์หรือ B2B ประกอบด้วย การเติบโตของที่อยู่อาศัยและความสนใจการประหยัดพลังงาน ที่สร้างดีมานด์การซื้อเครื่องปรับอากาศเครื่องแรก และซื้อทดแทนเครื่องเก่าในกลุ่มผู้บริโภคทั่วไป

ขณะที่ในตลาดแอร์พาณิชย์ กระแสลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลหรือ Data Center ช่วยสร้างดีมานด์เครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ เช่นเดียวกับการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ทำให้มีดีมานด์จากธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เช่น โรงแรม โรงพยาบาล ฯลฯ

มั่นใจโตได้ไม่พึ่งแข่งขันราคา

ผู้บริหาร มิตซูบิชิ อีเล็คทริค กันยงวัฒนา ย้ำว่า แม้ตลาดเครื่องปรับอากาศปี 2568 จะยังคงเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาอย่างต่อเนื่อง แต่บริษัทจะไม่เข้าร่วมสงครามราคาอย่างแน่นอน

โดยจะจูงใจผู้บริโภคด้วยไลน์อัพเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ที่มีนวัตกรรม-ดีไซน์ตอบโจทย์ความสะดวกสบาย และการประหยัดพลังงาน ไปจนถึงการตกแต่งบ้าน ของผู้บริโภคโดยเฉพาะระดับกลาง-บน

เช่นเดียวกับบริการหลังการขายที่ตอบโจทย์ด้านความเชื่อมั่นของทั้งผู้บริโภคและร้านค้า หลังบริษัทเพิ่มช่องทางติดต่ออย่างแอปพลิเคชั่น LINE OA เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลเกี่ยวกับบริการหลังการขายได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสถานะการซ่อมหรือการขอคำปรึกษา

มั่นใจว่าจะสามารถผลักดันยอดขายให้เติบโตถึง 10% หรือสูงกว่าการเติบโตของตลาดเท่าตัว รวมถึงเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดเครื่องปรับอากาศให้สูงกว่าปัจจุบันที่ครองส่วนแบ่งในสัดส่วน 30% ด้วย

แอร์ 3 รุ่นใหม่ เน้นสมาร์ท-ดีไซน์-ประหยัดไฟ

ด้านสินค้ามีไฮไลต์เป็นเครื่องปรับอากาศ 3 รุ่น ประกอบด้วย มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น XZ Series พร้อมเทคโนโลยี 3D Move-Eye Comfort Sensor และ Fast Cooling A.I. สำหรับตรวจจับอุณหภูมิและบุคคลในห้องเพื่อปรับการทำงานให้เหมาะสม รวมถึงยังได้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาว และมีทั้งสีขาวและสีดำใหม่ เพื่อให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งที่อยู่อาศัย

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น GZ Series ที่พัฒนามาจาก XY Series เดิม มาพร้อม Eco-Eye Sensor ที่สามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวในห้องและเปิด-ปิดเครื่องปรับอากาศอัตโนมัติ และฟังก์ชั่น Fast Cooling Plus สำหรับเร่งสปีดการทำความเย็น และได้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ระดับ 3 ดาว

มิตซูบิชิ อีเล็คทริค มิสเตอร์สลิม ระบบอินเวอร์เตอร์ รุ่น Happy Plus Inverter (MZ Series) ซึ่งได้ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ระดับ 1 ดาว

ขยายไลน์สินค้าชิงดีมานด์ดาต้าเซ็นเตอร์

ในส่วนของแอร์เชิงพาณิชย์ และตลาด B2B นั้น จะโฟกัสชิงดีมานด์ในกลุ่มทุกธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตทั้งดาต้าเซ็นเตอร์ โรงแรม โรงพยาบาล โรงงาน และอื่น ๆ

ด้วยการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูง เช่น ระบบ VRF ประสิทธิภาพสูง และระบบทำความเย็นเชิงพาณิชย์ เช่น ชิลเลอร์ รวมถึงระบบ BMS (Building Management System) สำหรับควบคุมจัดการการทำงานอัตโนมัติด้วย เป็นต้น

โดยในกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์นั้น จะเน้นชูความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากการมีไลน์อัพเครื่องปรับอากาศที่พัฒนาขึ้นมาเฉพาะสำหรับใช้ในดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งที่ผ่านมามีการใช้งานในหลายแห่งแล้ว รวมถึงยังตั้งทีมงานสำหรับทำตลาดดาต้าเซ็นเตอร์โดยเฉพาะขึ้นมาอีกด้วย

ร่วมกับการอัพเกรดศูนย์ฝึกอบรมช่างเครื่องปรับอากาศ ให้รองรับการฝึกช่างสำหรับเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์ขนาดเล็ก โดยเตรียมดึงทีมช่างของดีลเลอร์มาเข้ารับการอบรมด้วย ตามแผนเพิ่มความเข้มข้นในการรุกตลาดเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิชย์

พาเหรดตู้เย็น-พัดลม-ปั๊มน้ำรุ่นใหม่

นายโทชิยูกิกล่าวต่อไปว่า นอกจากกลุ่มเครื่องปรับอากาศแล้ว บริษัทยังเปิดตัวสินค้าหมวดอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นตู้เย็น พัดลม ปั๊มน้ำ ฯลฯ อีกด้วย โดยมีรุ่นไฮไลต์ ประกอบด้วย

ตู้เย็น MR-WX70C (รุ่น 6 ประตู) เป็นรุ่นเรือธงที่นำเข้าจากญี่ปุ่น มีฟังก์ชั่น เช่น Super Cool Freezing ที่สามารถรักษาความสดของวัตถุดิบที่สามารถปรุงอาหารได้โดยไม่ต้องละลายน้ำแข็ง และ Super Cool Chilling รักษาความสดของเนื้อสัตว์ที่อุณหภูมิ 0 ถึง -3 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Vitamin Factory ช่วยรักษาวิตามินในผักใบเขียว

ตู้เย็น LX50 รุ่นใหม่ในซีรีส์พรีเมี่ยม มีฟังก์ชั่น Rapid Freezing ที่สามารถแช่แข็งได้เร็วกว่าเดิม 20%

พัดลมตั้งโต๊ะและตั้งพื้นกึ่งตั้งโต๊ะ ในโทนสีใหม่สไตล์ Creamy จำนวน 4 เฉดสี ช่วยเปลี่ยนบรรยากาศห้องให้ดูผ่อนคลาย พัดลมติดผนัง ออกแบบตะแกรงหน้าใหม่เพิ่มแรงลมขึ้น 30% และส่งลมได้ไกลขึ้น รวมถึงมีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ระดับ 5 ดาว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมสำหรับพัดลมระบายอากาศเป็นหน้ากาก 2 สีใหม่ คือสีน้ำตาลและสีดำ

ส่วนปั๊มน้ำ R2 Series เพิ่มปริมาณน้ำ และลดเสียงการทำงานลง รวมถึงมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานที่ดีขึ้น

อัดงบฯเพิ่ม 10% เป็น 1,200 ล้านบาทปลุกยอดขาย

สำหรับการทำตลาดในปีงบฯ 2568 (เมษายน 68-มี.ค. 69) นี้ บริษัทเตรียมงบฯการตลาดไว้กว่า 1,200 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีงบฯ 2567 ประมาณ 10% มุ่งเน้นการสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่

โดยมี 2 ไฮไลต์ คือ นนท์ ธนนท์ ที่รับหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ปีที่ 3 และภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ที่สะท้อนจุดขายด้านความสบาย “ให้ ME เป็นความสบายให้คุณ” โดยการเล่าเรื่องราวผ่านเพลงที่แต่งขึ้นใหม่ และเสียงร้องของนนท์ ธนนท์ ภายใต้แนวคิดที่สนับสนุนให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตให้ “ติดสบาย”

ขณะเดียวกันบริษัทจะดำเนินกิจกรรมส่งเสริมการขาย และสร้างการรับรู้ผ่านสื่อออฟไลน์ อาทิ บิลบอร์ด และรถไฟฟ้า เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์ยิ่งขึ้น และบรรลุยอดขายให้เติบโตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : มิตซูบิชิลั่นไม่ร่วมสงครามราคา แม้ตลาดแอร์ 3.35 หมื่นล้านแข่งเดือด

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...